ขอนแก่น–ตำรวจภูธรภาค 4 รวบรวมสำนวนคดีแชร์แม่มณี พบผู้ตกเป็นเหยื่อในภาคอีสานถึง 456 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 221 ล้านบาท ก่อนส่งมอบให้ดีเอสไอดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับ คณะผู้บริหารตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และ พ.ต.ท. บรรยวัสถ์ ไตรสุทธิ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 4 กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมและยึดทรัพย์คดีแชร์แม่มณี
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มประชาชนผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี จำนวน 349 คน แจ้งว่า ได้รับความเสียหายจากการที่ได้หลงเชื่อเข้าร่วมโครงการฝากเงินออมเงินกับแม่มณี (แชร์แม่มณี) โดยจะได้รับผลตอบแทนเป็นร้อยละ 93 ต่อเดือน ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อและได้โอนเงินไปร่วมฝากเงินกับโครงการดังกล่าว จนกระทั่งต่อมาแม่มณี หรือ นางสาววันทนีย์ ทิพประเวช หรือเดียร์ กับพวก ไม่ได้จ่ายค่าตอบแทนพร้อมเงินต้นตามกำหนดเวลา และได้หลบหนีไปพร้อมกับเงินของผู้เสียหาย เกิดความเสียหายประมาณ 150 ล้านบาท
ต่อมากองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ร่วมกันสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุม น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช กับพวก ขณะหลบหนีในพื้นที่ภาคตะวันออก และอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติม ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ประกอบด้วย
1. น.ส.วันทนีย์ ทิพย์ประเวช อายุ 28 ปี (หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.261/2562)
2. นายเมธี ชิณภา อายุ 20 ปี (หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.262/2562)
3. นายปิยะ คีรีสุวรรณกุล อายุ 23 ปี (หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.265/2562)
4. น.ส.พรสวรรค์ ภูอินอ้อย อายุ 19 ปี (หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.266/2562)
5. น.ส.สุพรรณี นิกรกุล อายุ 21 ปี (หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.267/2562)
6. น.ส.ธวัลย์รัตน์ ทิพย์ประเวช อายุ 47 ปี (หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.269/2562)
7. น.ส.วิไลวรรณ หงส์ประชาทรัพย์ อายุ 25 ปี (หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.271/2562)
8. น.ส.นิตยา พินนอก อายุ 27 ปี (หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.272/2562)
โดย จนท.ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันให้กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน”
นอกจากนั้น จนท.ยังได้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง จำนวน 130,790,843 บาท ประกอบด้วย
1. เงินสด รวมจำนวน 17,517,000 บาท
2. อายัดบัญชี รวมจำนวน 15,843,244 บาท
3. รถยนต์ จำนวน 12 คัน
4. รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ จำนวน 1 คัน
5. อายัดทรัพย์สินอื่นๆ (อาคารพาณิชย์, บ้านพร้อมที่ดิน, ทองรูปพรรณ) รวมจำนวน 89 รายการ
รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ทำการตรวจยึด 130,790,843 บาท
โดย จนท.ได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมทรัพย์ที่ตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนิน คดีตามกฎหมาย ทั้งนี้จากการตรวจสอบผู้เสียหายเพิ่มเติมในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 4 ทั้ง 12 จังหวัด พบว่า มีผู้เสียหาย จำนวน 456 ราย รวมความเสียหายทั้ง 12 จังหวัด จำนวน 221,891,437.15 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 11 พ.ย.62)
ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้รับโอนคดีแชร์แม่มณีเป็นคดีพิเศษที่ 150/2562 เนื่องจากเป็นคดีความผิดที่มีผลกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาชนและก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศจำนวนมหาศาล ดังนั้นประชาชนที่เป็นผู้เสียหายสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษในเขตพื้นที่ใกล้บ้านทั่วประเทศ เพื่อที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้รวบรวมข้อมูลและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดยอดเงินรายคน “ลูกแชร์ตราด” ที่เสียหายกับแชร์ “แม่มณี”
- ทะลุกว่า 10 ล้าน เหยื่อแม่มณี ตม.สตูล ติดป้ายประกาศจับแชร์แม่มณี พร้อมตรวจเข้มการเข้าออก ระหว่าง สตูล-มาเลย์
- เจออีก! เหยื่อ “แชร์แม่มณี” นับ 100 คนโผล่ชลบุรี สูญ 14 ล้าน
