ปทุมธานี อาจารย์แพทย์แผนไทย พลิกผืนนาทำสวนผสมปลูกไผ่อินโดฯ เลี้ยงปลาประโยชน์เอื้อกันสร้างรายได้งาม
อาจารย์พิเศษคณะวิทยาศาสตร์ สาขาแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยรามคำแหง และผู้ผลิตยาแผนไทยชีวะโกโอสถ ผู้พลิกผืนนาข้าว หันมาทำสวนแบบผสมผสาน โดยยกร่องปลูกไผ่ เลี้ยงปลา กล้วยและมะนาว ได้ผลดี มีรายได้งดงาม
เทียนชัย ศิริเสน ชายวัย 68 ปี เล่าที่มาที่ไปของการปลูกไผ่ตง สายพันธุ์อินโดฯ ว่า ก่อนหน้านี้ได้เริ่มศึกษาหาพืชที่เหมาะกับสภาพอากาศ และสภาพดิน เนื่องจากผลผลิตการปลูกข้าวในปัจจุบัน ราคามันตกต่ำ แถม ปุ๋ยยาก็มีราคาสูงขึ้น ตนเองเลยพลิกผืนนาที่มีอยู่ 15 ไร่หันมาปลูกไผ่ 2,500 ต้นเป็นไผ่ตงสายพันธุ์อินโดฯ เป็นพืชชนิดเดียวที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด เนื่องจากปลูกได้ในทุกสภาพดินฟ้าอากาศ อีกทั้งทนแล้งได้ดี น้ำท่วมไม่ตาย ไฟไหม้ก็ไม่ตาย วิธีการปลูกก็ง่าย ดูแลง่าย โตไว และสามารถจำหน่ายและแปรรูปได้ทั้งหน่อ ลำ และกิ่งพันธุ์ ที่สำคัญไม่ต้องสิ้นเปลืองเรื่องปุ๋ยเคมีหรือสารเคมีอื่นๆ เพราะไผ่ไม่มีโรคและแมลงรบกวน สามารถปลูกและดูแลแบบออร์แกนิกได้เลย ใช้เวลาปลูก 7-8 เดือน ก็เก็บผลผลิตได้ และอายุในการเก็บผลผลิตยาวนาน ถือเป็นการลงทุนครั้งเดียว แต่สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดปีและต่อเนื่องอีกหลายสิบปี
เทียนชัย ย้ำว่า ไผ่ตงอินโดฯ ชนิดนี้ไม่มีปัญหาศัตรูพืชระบาด จึงไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีใดๆ เลย ผลผลิตหน่อไม้สดจึงเก็บได้ทุกวันและให้หน่อทั้งปี ผลผลิต (หน่อ-ลำ) ที่ได้ จะเน้นนำมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้าก่อนจำหน่าย หน่อสด แปรรูปเป็นหน่อไม้ดอง หน่อไม้ต้ม เพื่อจัดจำหน่ายกับตลาดและ ห้างร้าน ส่วน ลำไผ่ แปรรูปโดยการเผาถ่าน เพื่อทำถ่านดูดกลิ่นและถ่านอัดแท่ง ใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิง แถมเรายังปักชำ ขายต้นกล้าของไผ่ได้อีกด้วย ไผ่ตงอินโดฯ เป็นพืชที่ให้ประโยชน์อย่างมหาศาล มีความสัมพันธ์กับชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทยมาแต่โบราณ เป็นพันธุ์ไม้ที่มีคุณประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ซึ่งปัจจุบันไผ่สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย ซึ่งการปลูกไผ่ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่ไผ่ออกหน่อก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เหตุผล ที่เลือกปลูกไผ่ เพราะไผ่ ให้ผลผลิตยาวนานและยั่งยืน ปลูกเพื่อศึกษาและวิจัยว่าพันธุ์ไหนให้ผลผลิตมากหรือน้อย และคัดมาเป็นพันธุ์ที่เราสามารถจะส่งเสริมให้กับชาวบ้านได้ปลูกด้วย ส่วนวิธีการปลูกนั้นไม่ยาก ไผ่เป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ทุกภาคของประเทศไทย
เทียนชัย ศิริเสน บอกว่า “สิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตนอกจากการหายใจคือเรื่องกิน ทำไมเรามีที่ดินแต่เราไม่ปลูกของกินล่ะ ปัจจัยสี่เราต้องสร้างขึ้นมาก่อน มีของกิน มีพืชที่เป็นยาสมุนไพร มีไม้ใช้สอย เราค้นพบว่าที่ดินของเรา อากาศของเรา นิสัยของเรา เหมาะกับไผ่ เพราะไม่ต้องไปยุ่งตัดแต่งรดน้ำ แล้วมาดูไผ่สิ ทั่วประเทศเจอปรากฏการณ์เอลนีโญ ไผ่เรายังอยู่ได้” “ไผ่เป็นพืชมหัศจรรย์มาก เขาปรับตัวเก่ง แล้งแค่ไหนก็ไม่ตาย พวกเขาหยั่งรู้ได้ว่าปริมาณน้ำฝนจะมีขนาดไหน
”
ในพื้นที่ 1 ไร่ ใช้ไผ่ประมาณ 160 ต้น โดยกิ่งพันธุ์ราคาต้นละ 25-30 บาท รวมแล้ว 1 ไร่ ใช้เงินประมาณ5,000-6,000 บาท ร่วมค่าปุ๋ย จะให้ผลผลิตประมาณ 300 กิโลกรัม ต่อเดือน และจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งช่วงระยะเวลาที่ผลผลิตออกสู่ตลาด สามารถเก็บผลผลิตหน่อสดขายได้ตลอดทั้งปีทั้งในและนอกฤดูลักษณะของหน่อไผ่ที่เหมาะสมต่อการเก็บผลผลิต ต้องรอให้หน่อไผ่พ้นขึ้นมาจากดินประมาณ 4-6 วัน จะมีขนาดประมาณ 30-40 เซนติเมตร จึงจะสามารถตัดได้ มีขนาดพอดีไม่แก่เกินไป และเป็นที่ต้องการของตลาด และราคาจะอยู่ 15-20 บาท จะอยู่ในช่วงฤดูมีหน่อไม้ออกและราคาสูงกว่านี้ในต้นฤดูกาลหรือนอกฤดูกาลช่วงนี้ราคากิโลกรัมละ 50-60 บาท นอกจาก ยังได้มีการปักชำกล้าไผ่ไว้จำหน่าย หน่อละ 30 บาท
พื้นดินที่นี่เราไม่ได้ปลูกไผ่ อย่างเดียว เรายกร่องเป็นร่องน้ำ เอาไว้เลี้ยงปลา ข้างๆร่องน้ำเราก็ปลูกกล้วย ปลูกมะนาว อนาคตอันใกล้นี้ เราจะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร มาพายเรือชมสวน ท่ามกลางดงไผ่ที่ให้ความร่มรื่นสวยงาม มาชมวิธีการเผาถ่านที่ทำจากไผ่ ชมวิธีการเก็บเกี่ยวหน่อไม้ เทียนชัย น้อมนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมาใช้เป็นแปลงต้นแบบ เพื่อให้ประชาชนทั่วไป ตลอดทั้งนักเรียนนักศึกษาที่สนใจได้ศึกษาหาความรู้ โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้นซึ่งผู้ที่สนใจสามารถจะเข้าเยี่ยมชมหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จะซื้อผลผลิตสามารถติดต่อได้ที่ เบอร์ 089-2051711
พงศ์พัทธ์ วงศ์ยะลา
