กลุ่มนักข่าวภูธร ภาคกลาง ภาคตะวันออก 10 จังหวัดร่วมประชุมสัญจรครั้งที่ 3 ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เดินหน้าจัดตั้งเว็ปไซด์ และเพจ เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสาร ซึ่งครั้งต่อไปอีก 3 เดือนข้างหน้าจัดประชุมที่ จังหวัดสุพรรณบุรี
ที่โรงแรมมามายโฮม รีสอร์ท จ.ฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 26-27 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา กลุ่มนักข่าวภูธร ภาคกลาง ภาคตะวันออก ได้จัดประชุมสัญจร ครั้งที่ 3 ขึ้น โดยมีสมาชิกของกลุ่มนักข่าวภูธรจาก ประจวบคีรีขันธ์,ราชบุรี,นนทบุรี ,ปทุมธานี ,สุพรรณบุรี,ฉะเชิงเทรา ,พัทยา,ระยอง,นครนายก ,ตราดฯลฯ จำนวน 30 คน เข้าร่วมประชุมสัญจรในครั้งนี้ในส่วนจังหวัดอื่นอีกหลายจังหวัดที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมประชุมได้เนื่องจากติดขัดในด้านงานก็มี เพชรบุรี,อยุธยา,สมุทรสาคร,สมุทรสงคราม ฯลฯโดยในครั้งนี้ที่ จ.ฉะเชิงเทรา นายธนพัฒน์ เจียรสถิต เป็นเจ้าภาพ ซึ่งการประชุมสัญจรของกลุ่มนักข่าวภูธร ภาคกลาง ภาคตะวันออก ได้เริ่มรวมกลุ่มจัดตั้งขึ้นมาเมื่อ 1 ปี โดยมีการกำหนดทุก 3 เดือนจะมีการหมุนเวียนไปประชุมในจังหวัดต่างๆ ที่ผ่านมาครั้งที่ 1 ที่ประจวบคีรีขันธ์ ครั้งที่ 2 ที่พัทยา และครั้งที่ 3 ที่ ฉะเชิงเทรา โดยครั้งต่อไปจะมีขึ้นที่ จ.สุพรรณบุรี ในเดือนสิงหาคมปีนี้
ซึ่งการจัดประชุมสัญจรขึ้นในครั้งนี้นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และ นายกิตติพันธุ์ โรจนชีวะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ และได้กล่าวแนะนำถึงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ทั้งด้านเศรษฐกิจ ,อุตสาหกรรม,และการท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆของ 11 อำเภอ ตลอดจนวัดหลายแห่งอาทิวัดหลวงพ่อโสธร
โดยเฉพาะในปัจจุบันการท่องเที่ยววิถีชีวิตของชุมชน ถือเป็นสิ่งที่น่าใจเนื่องจากแต่ละชุมจะมีของดีในตัวเพียงแต่ต้องมีการเพิ่มช่องทางในการประชาสัมพันธ์ไปทางช่องทางต่างๆตามนโยบาย 4.0 ของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่ดีที่สื่อมวลชนในในส่วนของภาคกลาง ภาคตะวันนออก มีการจัดตั้งขึ้นและมีการประชุมสัญจร ไปยังจังหวัดต่างๆ และเข้าเยี่ยมชมศึกษาดูงานพื้นที่ต่างๆเพื่อช่วยกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จัก นอกจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ยังได้แนะนำนำฝายมีชีวิต ตามรอยศาสตร์พระราชา ในคลองสียัด ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของประชาชน ภาครัฐ ภาคเอกชน สร้างขึ้นจนสำเร็จทำให้ชาวบ้านได้ประโยชน์ทั้งจากภาคการเกษตร และยังได้การท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้ตามมาจากการจัดพายเรือคายัค สร้างรายได้ให้กับชุมชน
ด้านนายธนพัฒน์ เจียรสถิต กลุ่มนักข่าวภูธรฯ กล่าวว่าในปัจจุบันในยุคการสื่อสารที่เรียกกันว่ายุค 4.0 นั้นการทำงานของสื่อมวลชนไม่ว่าจะเป็นในส่วนกลาง หรือส่วนภูมิภาค ก็มีการปรับตัวเพราะในปัจจุบันเทคโนโลยีมีความทันสมัยมากเพิ่มขึ้น การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชนก็รวดเร็วยิ่งขึ้นโดยเฉพาะจะเห็นได้ว่าการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของชาวประชาชน ปัจจุบันไม่ใช่เพียงรอดูข่าวสารและสาระบันเทิงจากทีวีเท่านั้น ต้องยอมรับว่าสิ่งที่มีบทบาทต่อชีวิตก็คือคือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวมเร็ว รวมทั้งจะเห็นได้ว่าปัจจุบันประชาชนยังทำหน้าที่เป็นผู้รายงานข้อมูลข่าวสาร ถ่ายภาพเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆขึ้นบนเฟสบุ๊คส์ ได้อย่างรวมเร็ว ดังนั้นเองสิ่งเหล่านี้สื่อมวลชนในภูมิภาคก็ต้องมาปรับตัวเช่นกันทั้งอุปกรณ์ และเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งการประชุมสัญจรไปตามจังหวัดต่างๆ นอกจากเป็นการพบปะสังสรรค์ เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ในองค์กร แล้วยังได้พบปะพูดคุยแชร์ประสบการณ์และเรื่องเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญเมื่อเราไปสัญจรในพื้นที่จังหวัดใดๆก็ยังสามารถนำเรื่องราวดีเผยแพร่ให้เป็นประโยชน์อีกด้วย
ด้านนายอภิชาติ หงษ์สกุล กลุ่มนักข่าวภูธรฯ กล่าวเป็นเรื่องที่ดีที่พวกเราสื่อมวลชนได้มีแนวคิดในการจัดตั้งกลุ่มขึ้นมา โดยการประชุมทุกครั้งสมาชิกที่เข้ามาร่วมประชุม ก็จะมีการเฉลี่ยช่วยกันออกค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นที่พัก และค่าอาหารต่างๆ ซึ่งการประชุมสัญจรจัดขึ้นทุก 3 เดือน โดยเลือกในวันเสาร์-และวันอาทิตย์ เพื่อให้สมาชิกของกลุ่มได้นำครอบครัวมาพบปะพูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกัน โดยทางกลุ่มนักข่าวภูธรฯ ยังมีการที่จะจัดทำเว็ปไซด์ และเพจ ในนามของกลุ่มนักข่าวภูธร ในโอกาสต่อไปด้วยเพื่อเป็นช่องทางในการนำเสนอเผยแพร่ นอกจากช่องทางการรายงานข่าวที่ทุกคนต้องส่งไปยังส่วนกลางอยู่แล้ว ซึ่งสมาชิกภายในกลุ่มที่มีอยู่แต่ละคนก็จะมีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ อาทิอย่างเช่นทาง พัทยา ก็จะมีความรู้ทั้งในเรื่องการบินโดรน การจัดทำเว็ปไซด์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้สมาชิกของกลุ่มก็จะสามารถเรียนรู้พัฒนาฝีมือ สิ่งสำคัญวันนี้กลุ่มนักข่าวภูธร ที่มารวมตัวกันนอกจากทำหน้าที่ส่งข้อมูลข่าวสารรายงานไปยังส่วนกลางแล้ว เรายังมีการพูดคุยถึงความคืบหน้าของความเคลื่อนไหวของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆที่มีการปรับผังรายการ หรือการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนนโยบายทิศทางข่าวของแต่ละสถานี สิ่งเหล่านี้สมาชิกของกลุ่มที่มีข้อมูลก็จะนำมาพูดคุยและแจ้งให้ทราบกันเพื่อเป็นประโยชน์
นอกจากนี้จะเห็นได้ว่ากลุ่มนักข่าวภูธร บางส่วนยังเป็นทั้งเจ้าของหนังสือพิมพ์แต่ละจังหวัด เพจแต่ละจังหวัด เว็ปไซด์ หรือเป็นเจ้าของเคเบิ้ล สถานีวิทยุ จุดนี้จึงถือเป็นส่วนหนึ่ง ที่สมาชิกเราเดินทางไปประชุมสัญจรแต่ละครั้ง ก็จะนำกลับมาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์อีกทางหนึ่งซึ่งก็จะเกิดประโยชน์
เช่นกันนายอัมพร แสงแก้ว กลุ่มนักข่าวภูธรฯ กล่าวว่าวันนี้จุดเริ่มต้นของการรวมตัวตั้งกลุ่มถือว่าเริ่มเป็นรูปร่างที่ชัดเจนขึ้นมาบ้างแล้ว ในหลายๆเรื่องทุกคนที่มาร่วมประชุมสัญจรแต่ละครั้ง นั้นจะมาด้วยความเต็มใจจังหวัดไหนบางครั้งไม่ได้มาก็อาจติดในเรื่องของภารกิจด้วยงานข่าวที่สำคัญไม่สามารถเดินทางมาได้ ก็จะติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางกลุ่มไลน์ฯที่พวกเราตั้งขึ้นมา วันนี้หลังจากการประชุมทีสัญจรที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพิ่งเสร็จสิ้นลงไปทางตนเองก็ได้เริ่มจัดตั้งทำเพจของกลุ่มนักข่าวภูธรภาคกลาง ภาคตะวันออกขึ้นมาแล้ว เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารจากเพื่อนๆทั้งภาคกลางและภาคตะวันออกกว่า 10 จังหวัด จุดนี้ทุกคนเห็นร่วมกันแล้วว่าเป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตามในส่วนของตนเองมีความถนัดในเรื่องเครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยีต่างๆ มีอะไรใหม่ๆก็จะมีการแนะนำให้กับสมาชิของกลุ่มได้รับทราบ โดยเฉพาะในด้านการถ่ายภาพมุมสูง โดยใช้โดรนและล่าสุดก็ได้นำเทคโนโลยีตัวใหม่เข้ามาใช้คือการถ่ายภาพใต้น้ำด้วยโดรน สิ่งเหล่านี้เองเพื่อที่อยู่ในกลุ่มบางครั้งอาจมีการร้องขอ ให้เดินทางไปช่วยถ่ายทำ ซึ่งก็สามารถทำได้
