รอ กกต.ชงศาลฟันอาญา “ธนาธร”
มติ 7 ต่อ 2 ของศาลรัฐธรรมนูญให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ สิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส.ตั้งแต่ 23 พฤษภาคม กรณีถือครองหุ้นสื่อเป็นลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งศาลเห็นว่านายธนาธร ยังเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ในวันที่มีการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.และไม่เชื่อว่ามีการโอนหุ้นจริง
นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ, นายปัญญา อุดชาชน และ นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 3 ท่านออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย ในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีการถือครองหุ้นสื่อ
องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียง วินิจฉัยว่า นายธนาธร เป็นผู้ถือหุ้น บริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ที่ประกอบกิจการสื่อ ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวันที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส ต่อ กกต.ถือเป็นลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ทำให้สมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายธนาธร สิ้นสุดลง นับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้นายธนาธร ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่ 23 พฤษภาคม 2562
ประเด็นการโอนหุ้นให้แม่คือ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในวันที่ 8 มกราคม ศาลเห็นว่าไม่มีหลักฐานการส่งสำเนาบัญชีผู้ถือหุ้นต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เหมือนปกติที่เคยปฏิบัติมา ทั้งๆที่การโอนหุ้นครั้งนี้สำคัญต่อการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของนายธนาธร การชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่าเพราะเป็นการโอนหุ้นภายในครอบครัวประกอบกับบริษัทได้เลิกจ้างพนักงานทั้งหมดไปแล้ว จึงไม่มีพนักงานจัดทำเหมือนครั้งก่อนๆ ขัดแย้งกับคำเบิกความของนางลาวัลย์ จันทร์เกษม เจ้าหน้าที่ของบริษัทที่บอกว่าสามารถทำได้ ถ้ามีคำสั่งให้ทำ
ศาลรัฐธรรมนูญยังตั้งข้อสังเกตุ กรณีการนำเช็คไปเรียกเก็บเงินล่าช้า นานกว่า 4 เดือน ตามที่นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยาของนายธนาธรชี้แจงนั้น ไม่มีน้ำหนักให้น่าเชื่อถือได้ เพราะสามารถให้คนอื่นทำแทนได้ การกล่าวอ้างว่า ต้องการเก็บเช็คไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ขัดแย้งกับการให้ปากคำของนายธนาธร ทึ่ชี้แจงต่อเลขาธิการ กกต.ว่าได้ส่งเป็นสำเนาเช็คให้ กกต.เท่านั้น
ส่วนประเด็นมีการโอนหุ้นกันจริงหรือไม่ ศาลเห็นว่าการโอนหุ้นแบบไม่มีค่าตอบแทนระหว่าง นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ นายทวี จรุงสถิตย์พงศ์ หลานชายนางสมพร โดยอ้างว่าเป็นเครือญาติกันนั้น ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า มีการโอนหุ้นกันจริงหรือไม่
ส่วนข้อชี้แจงของนายธนาธร ที่บอกว่าได้เดินทางกลับจากบุรีรัมย์ เพื่อโอนหุ้นในวันที่ 8 มกราคมนั้น จากพยานหลักฐาน รับฟังได้เพียงว่านายธนาธรอยู่ในกรุงเทพฯ ในวันที่ 8 เท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่า อยู่กรุงเทพฯแล้วจะมีการโอนหุ้นในวันนั้นจริง
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยว่า ให้ถือว่าวันที่ตำแหน่ง ส.ส.ว่างลงในวันนี้ที่ศาลอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง และให้ประธานสภาผู้แทนราษฏร ประกาศ ส.ส.บัญชีอันดับถัดไปมาเป็น ส.ส.แทน
ในบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ลำดับที่ 51 ที่จะเป็นว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คือ นายมานพ คีรีภูวดล ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง จากจังหวัดเชียงใหม่
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้สัมภาษณ์ยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ และได้ตั้งข้อสังเกตุต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ตั้งอยู่บนข้อสันนิษฐานมากกว่าข้อเท็จจริง จึงขอทำงานทางการเมืองต่อไปทั้งในตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งหลังฟังคำวินิจฉัย นายธนาธร ได้ไปร่วมรณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหารที่สยามสแควร์ทันที เพื่อย้ำถึงการเดินทางของพรรคอนาคตใหม่ยังไม่สิ้นสุด และพรรคอนาคตใหม่จะเดินหน้าต่อไปภายใต้ธงนำของนายธนาธร
นายธนาธร ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าเขาได้รับความเป็นธรรมในการตัดสินคดีนี้หรือไม่ โดยได้ตั้งข้อสังเกตุคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 5 ประเด็นที่เห็นว่า การอ้างว่าบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัดยังมีใบอนุญาติตาม พรบ.จดแจ้งการพิมพ์ ยังไม่ยกเลิกกิจการจริงทำให้จะกลับมาเป็นสื่อได้อีกเมื่อไหร่ก็ได้นั้น ขัดแย้งกับที่ศาลยอมรับไปแล้วว่าบรษัทไม่มีรายได้ และไม่มีบุคคลกรเพราะปิดตัวลงแล้ว นายธนาธร จึงเห็นว่าทำไมศาลมาตัดสินคดีในเวลานี้ และศาลไม่ได้บอกว่านายธนาธรและบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ทำผิดตามมาตรา 98 วงเล็บ 3 เรื่องไม่ให้คุณให้โทษกับผู้อื่นหรือไม่
นอกจากนี้ การที่ศาลกล่าวถึงบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ตามกฏหมายเมื่อเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นจะแจ้งเมื่อไหร่ก็ได้ ภายใน 1 ปี และเรื่องการตัดสินใจลงทุน ผู้พิพากษาไม่เคยเป็นนักธุรกิจ จะใช้มาตรฐานของศาลมาตัดสินไม่ได้ เช่นเดียวกับการโอนหุ้นของนางสมพร กับนายทวี หลานชาย ไม่เกี่ยวกับการโอนหุ้นของนายธนาธร ให้นางสมพร ที่สมบูรณ์ไปตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม ส่วนการขึ้นเช็คล่าช้าไปกว่า 4 เดือน ก็เป็นไปตามเหตุผลที่นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยาได้แจ้งไปแล้ว และเป็นเหตุผลของครอบครัวที่ไม่สามารถให้ผู้อื่นทำแทนได้ และมีเช็คฉบับจริงได้ยื่นต่อหน้าเจ้าหน้าที่ กกต.แล้วไม่ได้มีเพียงสำเนาเท่านั้น
นายธนาธร ยังเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่บนข้อสันนิษฐานมากกว่าข้อเท็จจริง ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาหักล้างหลักฐานที่ใช้ต่อสู้คดีได้เลย
สำหรับคดีอาญาที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต.คือความผิดตามมาตรา 151 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.กรณี นายธนาธร สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.โดยขาดคุณสมบัติ (รู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติ) ซึ่งจะมีโทษจำคุก 1-10 ปีและอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี ยังอยู่ในขั้นตอนการไต่สวนของคณะกรรมการที่ต้องส่งให้ กกต.ลงมติไม่เกี่ยวกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีสิ้นสุดการเป็น ส.ส.
คดีที่เกี่ยวกับพรรคอนาคตใหม่ยังมีเรื่องการกู้ยืมเงินจากนายธนาธร ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลว่ามีข้อกฎหมายห้ามไว้หรือไม่ หรือมีรายได้ของพรรคการเมืองอย่างไรบ้าง เงินกู้ถือเป็นรายได้หรือไม่
พรรคอนาคตใหม่ ยังมีคดีที่ต้องลุ้นกันอีกหลายคดี ที่ให้ระทึกกันได้อีก แม้ธนาธรยืนยันจะเดินหน้าจัดกิจกรรมในนามหัวหน้าพรรคต่อไปก็ตาม
ด้วยความเคารพ
นายหัวไทร
21 พฤศจิกายน 2562
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: