ชุมพร–หวิดเศร้าไฟไหม้บ้าน2ตายายป่วย สายไฟเก่า
เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 30 พค.61 พ.ต.ท.ณัฐวรรธน์ พิกุล สวป. สภ.ปากน้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุไฟไหม้ ที่หมู่ที่ 12 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน พร้อมด้วย นายสันต์ ฉิมหาด นายก อบต.บางมะพร้าว นายธีระวุฒิ ประสาตร์สาน รอง นายกเทศบาลปากน้ำหลังสวน รถดับเพลิงเทศบาลปากน้ำหลังสวน รุดที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่38 หมุ่ที่ 12 ต.บางมะพร้าว เป็นบ้านตั้งอยู่ในชุมชนฝั่งกระโจมไฟ ที่ตั้งของประภาคารไฟ สำหรับเรือเข้าออก ทะเล ปากแม่น้ำหลังสวน เป็นชุมชนหนาแน่นเก่าแก่ ของ อ.หลังสวน พบว่าไฟกำลังลุกไหม้ภายในบ้านสูงถึงหลังคาบ้าน ชาวบ้านได้ช่วยกันพังประตูเหล็กเข้าไปช่วยกันดับเพลิง และ ช่วยกัน ค้นหา ตัว เจ้าของบ้านซึ่งเป็นตายาย 2 คนที่อยู่ในบ้านเพียงลำพัง หลังจากรถดับเพลิงใช้เวลาดับเพลิงเพียง 20 นาที เพลิงก็สงบ ตรวจสอบเบื้องต้นว่า ไฟได้ไหม้บ้านด้านที่เป็นห้องนอน ลามขึ้นไปถึงเพดานบ้านด้านบน เสียหายทั้งหมด
จากการสอบถาม นางสุนทร ทรงบุญยา อายุ 75 ปี ได้การว่าขณะที่กำลังนอนในห้องนอนด้านในของบ้านได้ยินเสียงระเบิดดังมาจาก ห้องนนอนของลูกชาย ซึ่งกำลังออกไปขายอาหารที่ชายทะเล จึงพยายามตะเกียกตะกายออกมาห้องนอนเนื่องจากร่างกายมีอาการเจ็บป่วยเดินไม่ได้ เพื่อออกไปดู นายวิสูตร ทรงบุญยา อายุ 79 ปี พบว่าคุณตาวิสูตรก็ออกไปนอนที่ชายคาบ้านริมแม่น้ำหลังสวนพอดี เมื่อหันไปดูที่ไฟไหม้พบว่าเปลวไฟลุกไหม้ในจุดห้องนอนลูกชายแล้วลามขึ้นไปถึงเพดานบ้าน ควันเต็มไปหมดทั้งบ้าน ต่อมามีชาวบ้านไปพังประตูเหล็กเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ก่อนจะถูกย่างสดหรือได้รับพิษจากควันไฟ จนมีรถดับเพลิงและตำรวจเข้ามาตรวจสอบ จนเปลวเพลิงสงบลง สาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องกากสภาพสายไฟมีความเก่าแก่
นางสุนทร บอกว่า ที่บ้านมีฐานะยากจน ลูกชายและ ลูกสะใภ้ ต้องออกไปขายของที่ชายทะเลจนดึกดื่นทุกวัน ปล่อยให้ ตนเองที่มีอาการเจ็บป่วยเดินไม่ได้ อยู่กับ นายวิสูตรที่ยึดอาชีพขายน้ำจืดให้กับเรือประมง ที่บริเวณชายคาบ้านเพื่อหารายได้มาจุลเจือครอบครัว เมื่อเกิดไฟไหม้บ้านในครั้งนี้ก็แทบหมดตัวเพราะไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาซ่อมแซมบ้าน แต่ก็ ยังโชคดีที่ไม่ได้ถึงกับเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บนอกจากสำลักควัน แต่มีชาวบ้านที่พังประตูเหล็กเข้ามาช่วยได้รับบาดเจ็บนำตัวส่ง รพ.ปากน้ำหลังสวนแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: