หมั่นโถว ซาลาเปา เตาถ่าน “เจ้ม่วย”ของดีของอร่อยเมืองหัวหินขายมานานกว่า 40 ปี ขายเฉพาะช่วงเย็น วันละประมาณ 400 ลูก ตั้งเตาขายไม่เกินสองชั่วโมงหมดเกลี้ยง
วันนี้”นักเดินทาง” จะพาไปหาของอร่อยทั้งหมั่นโถว และซาลาเปา อุ่นร้อนๆทานกัน โดยเฉพาะชาวหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่างรู้กันเป็นอย่างดีว่า หากต้องการกินหมั่นโถว และซาลาเปารสชาติดั้งเดิม อุ่นร้อนๆด้วยเตาถ่าน จะต้องอดใจรอไว้กินในช่วงเย็นเท่านั้น และจะต้องไปซื้อที่ร้านซาลาเปาเตาถ่าน ซึ่งตั้งขายเฉพาะตอนเย็น หน้าตรอกถ่าน ตลาดฉลาดฉัตรไชย์ ฝั่งริมถนนชมสินธุ์ ใกล้สี่แยกไฟแดงซอยหัวหิน 70
บางคนที่ไม่อยากพลาดของอร่อย “นักเดินทาง”ขอบอกจะต้องไปรอคิว รอเจ้าของร้านจุดเตาอั้งโล่ควันโขมง ทั้ง 2 เตา รอน้ำเดือดได้ที่ ก่อนจะนำหม้อนึ่งขึ้นตั้ง และนำซาลาเปาและหมั่นโถวที่ทำสำเร็จแล้วมาจากบ้านนำไปอุ่นให้ร้อนอีกครั้ง ให้เนื้อแป้งร้อนกำลังดี นุ่มฟู พร้อมรับประทานเลยกันทีเดียว
“เจ้ม่วย” หรือนางสาวซุ้ยกิม แซ่โง้ว วัย 80 ปี หรือที่รู้จักกันในนาม “เจ้ม่วย “ ซาลาเปาเตาถ่าน เล่าให้”นักเดินทาง” ฟังว่าตนเป็นคนหัวหินเริ่มขายหมั่นโถวและซาลาเปามาตั้งแต่สมัยสาวๆ จนถึงปัจจุบัน น่าจะประมาณกว่า 40 ปี ขายมาตั้งแต่ ลูกละ 5 บาท จนปัจจุบันลูกละ 20 บาท
โดย”เจ้ม่วย”ได้สูตรหมั่วโถวมาจากแม่ซึ่งเป็นชาวจีนแต้จิ๋วที่นั่งเรือสำเภา มาตั้งรกรากที่เมืองไทย จะมีหมั่นโถว 3 แบบ คือ กาแฟ ฟักทอง มันทศ และฟักแฟง ซาลาเปา จะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ ใส้ถั่วดำ และใส้หมูสับ โดยใส้หมูสับนั้น น้องสาวและหลานชายได้ไปเรียนมาจากหลักสูตรระยะสั้นที่วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล และนำมาปรับรสชาติจนเป็นที่ถูกใจของลูกค้า จุดเด่นที่สำคัญของหมั่นโถวซาลาเปาเตาถ่านเจ้านี้คือ ลูกใหญ่กว่าซาลาเปาทั่วไปตามท้องตลาด กินลูกเดียวอิ่มแน่นอน
ในแต่ละวัน”เจ้ม่วย”จะเริ่มต้นขั้นตอนทำหมั่นโถว และซาลาเปาตั้งแต่ตีสาม เนื่องจากใช้แรงงานในครอบครัว คือ “เจ้ม่วย”ทำหน้าที่นวดแป้ง หลานชายทำหน้าที่ปั้น ส่วนน้องสาวของ”เจ้ม่วย”จะทำหน้าที่นึ่งรอบแรก ซึ่งทั้งการทำซาลาเปาที่บ้าน และการนึ่งขายในช่วงเย็น ทุกขั้นตอนจะใช้เตาถ่านทั้งหมด ไม่เคยใช้เตาแก๊ส เนื่องจากเตาถ่านให้ความร้อนที่ระอุดีกว่า และค่อยๆร้อนขึ้น ทำให้หมั่นโถวและซาลาเปาอร่อยมากกว่า ไม่เหมือนการใช้เตาแก๊ส ซึ่ง”เจ้ม่วย”เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยด้วย
ทุกๆวันจะใช้แป้งทำหมั่นโถวและซาลาเปาจำนวน 20 กิโลกรัม หรือจะได้หมั่นโถวและซาลาเปากว่า 400 ลูก จากนั้นในทุกๆเย็น” เจ้ม่วย”และหลานชาย จะช่วยกันขนของจากที่บ้านมาตั้งร้านที่หน้าตรอกถ่าน ค่อยๆลำเลียงหมั่นโถวและซาลาเปาขึ้นอุ่น เมื่อร้อนได้ที่จึงจะขายให้ลูกค้า ที่มารอหน้าร้าน
“เจ้ม่วย”เล่าให้”นักเดินทาง” อีกว่าเคล็ดลับความอร่อยของหมั่นโถวและซาลาเปา จะอยู่ที่การสั่งสมประสบการณ์มานายหลายสิบปี และการเลือกใช้วัตถุดิบที่ดี “เจ้ม่วย” ทยอยนำหมั่นโถวและซาลาเปาขึ้นอุ่นอย่างต่อเนื่อง อุ่นไป ขายไป เติมถ่านไป เติมน้ำในหม้อนึ่งไป เพียงประมาณ 2 ชั่วโมง หมั่นโถวและซาลาเปากว่า 400 ลูกก็หมดเกลี้ยงแทบทุกวัน ซึ่งมีลูกค้าหลายคนที่ผิดหวังมาไม่ทันซื้อซาลาเปาเตาถ่านรายนี้ ( แม้แต่”นักเดินทาง”เดินวนอยู่หน้าเตา ยังไม่ทันจะสั่งก็หมดไปต่อหน้าต่อตา)
สำหรับร้านซาลาเปาเตาถ่าน “เจ้ม่วย” อยากชิมอยากลิ้มรสต้องมาหัวหิน ขายเฉพาะช่วงเย็น ประมาณ ห้าโมงเย็นเป็นต้นไป ไม่เกินหนึ่งทุ่มก็หมดแล้ว วันหยุดไม่แน่นอน(เจ้ม่วย แก่แล้วร่างกายไม่ค่อยไหว บางวันมีคนเหมา) เบอร์โทรศัพท์ไม่มี ร้านอยู่ริมทาง มองหาได้ไม่ยาก มีทั้งแบบนึ่งร้อนพร้อมทาน และสั่งแบบไม่นึ่งเอากลับมาอุ่นทานเองได้ นี่แหละถึงบอกว่าของอร่อยของดีหัวหินขนานแท้ ไม่มีเบอร์โทรศัพท์อยากกินต้องแวะมา หมั่นโถว ซาลาเปา เตาถ่าน “เจ้ม่วย”
“นักเดินทาง”
