ในวันนี้( 11 ธค. 60) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่บริเวณบ้านเลขที่ 118 หมู่ 1 ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายชาญ มากสิน อายุ 75 ปี และนางทองใบ หลอดทองแดง อายุ 70 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากมานานหลายสิบปี กับสภาพบ้านเก่าและทรุดโทรม จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นใช้สังกะสีเก่าๆมากั้นเป็นฝาบ้าน ส่วนบนหลังคามีรูรั่ว ทั้งหลังและมีฝุ่นละอองเกาะอยู่ตามบริเวณบ้านจนเต็มไปหมด เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวปลูกอยู่ริมถนน ส่วนนายชาญเจ้าของบ้านนั้นเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง มีเพียงนางทองใบ ผู้เป็นภรรยาคอยดุแลอย่างใกล้ชิดเพียงลำพัง
ซึ่งนางทองใบ หลอดทองแดง อายุ 70 ปี ได้เล่าถึงชีวิตที่รันทดให้ฟังว่า ครอบครัวมีลูกทั้งหมด 3 คน เสียชีวิตไป 1 คน เหลือสองคนก็ไปทำงานมีครอบครัวอยู่ที่อื่น นานๆจะมาเยี่ยมและให้เงินไว้ใช้บ้าง โดยก่อนหน้านี้นทั้งสองจะมีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่เมื่อประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมาลุงชาญได้ประสบอุบัติเหตุล้มศีรษะฟาดพื้น ทำให้เป็นอัมพาตพูดไม่ได้ต้องนอนอยู่แต่บนเตียง ทำให้ตนเองนั้นไม่สามารถออกไปทำงานไกลๆได้ เพราะต้องคอยดูแลสามี ความเป็นอยู่ก็ลำบากมีเพียงเงินเบี้ยผู้สูงอายุที่ใช้เลี้ยงชีวิต แต่ก็ยังไม่พอใช้จ่ายเพราะสามีล้มป่วยเป็นอัมพาตมาได้ประมาณเกือบ 4 เดือน จึงออกไปทำงานรับจ้างนอกบ้านไม่ได้แล้ว ทุกวันนี้มีเพียงเบี้ยผู้สูงอายุของตัวเองและสามีรวม 1,300 บาท ซึ่งจะต้องนำมาหาซื้อกับข้าว รวมถึงผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ซึ่งจะต้องใช้ทุกวัน โดยต้องคอยอยู่ดูแลสามีที่พูดไม่ได้ต้องนอนอยู่แต่บนเตียงที่ได้ยืมมาจากโรงพยาบาล โดยหลังที่ล้มป่วยร่างกายก็เริ่มซูบผอม ขาลีบเล็กลงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนตัวเองก็เจ็บป่วยที่บริเวณหัวเข่าและขาไม่ยอมงอมานานแล้ว รักษาก็ยังไม่หาย ทุกวันนี้ต้องอยู่ดูแลกันไปอย่างลำบาก ยังไม่มีหน่วยงานต่างๆเข้ามาดูแลช่วยเหลือเลย เวลาจะพาสามีไปหาหมอที่โรงพยาบาลแต่ละครั้งก็ต้องเช่ารถไปครั้งละ 300 บาท แล้วแต่แพทย์ที่โรงพยาบาลจะเป็นนัดมาตรวจร่างกาย ที่สำคัญต้องให้อาหารทางสายยางเวลาจะให้ดื่มน้ำก็จะเอาน้ำเทใส่แก้วและใช้หลอดให้ดูดน้ำแทน ความเป็นอยู่ลำบากมากจึงได้แต่ปลูกผัก เล็กๆน้อยๆนำไปขายให้เพื่อนบ้านในราคาถูกและบางวันก็จะเก็บมาทำอาหารกิน มีกับข้าวเป็นผักน้ำพริก กินกันแบบง่ายๆอยู่กันไป
จึงหวังอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือเรื่องการดูครอบครัวตนเองบ้าง พร้อมทั้งช่วยเรื่องการซ่อมแซมบ้านหรือการปลูกสร้างบ้านหลังใหม่ให้ หรือหากเป็นไปได้ขอให้ย้ายไปปลูกอยู่ด้านใน เพราะบ้านหลังที่อยู่ขณะนี้ปลูกอยู่ติดถนน ซึ่งมีฝุ่นละอองจากรถบรรทุกหินของโรงโม่วิ่งตลอดทั้งวัน ทำให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีฝุ่นละอองเกาะเต็มบ้านไปหมด และยังมีเสียงดังมากจากรถยนต์ที่วิ่งผ่านทั้งวันทั้งคืนไม่รู้จะทำอย่างไร
ข่าวน่าสนใจ:
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาอยากช่วยเหลือลุงชาญ และป้าทองใบ สามารถบริจาคเงินผ่านบัญชีของนางทองใบ หลอดทองแดง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธกส. เลขที่ 743-2-39759-3
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: