ตรัง ชาวบ้านหนองตรุดสุดทน ปิดถนนห้ามรถบรรทุกทรายวิ่ง ชาวบ้านร่วมกับ ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันนำรถกระบะมาปิดถนนห้ามวิ่ง หลังเดือดร้อนจากรถบรรทุกที่ขนทรายทั้งวันทั้งคืน นานนับปี ท้ายสุดผู้รับเหมายอมยกเลิกเพื่อแก้ปัญหา
นายปรีชา ทองแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ประมาณ 20 คน ได้นำรถกระบะมาปิดถนน ซอย 1 บ้านเกาะเหลียง ซึ่งเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กที่เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน เนื่องจากทนไม่ไหวได้รับความเดือดมานานนับปี จากรถบรรทุกที่วิ่งขนทรายทั้งวันทั้งคืน ทำให้เสียงดัง สร้างความรำคาญ และทำให้เกิดฝุ่นละอองเกิดขึ้นจำนวนมาก ที่สำคัญเกรงว่าถนนที่ชาวบ้านใช้สัญจรเส้นทางดังกล่าวจะได้รับความเสียหาย
โดย นายปรีชา ทองแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.หนองตรุด กล่าวว่า เดิมที่หมู่บ้านของตนอยู่กันแบบสงบ ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกหอบอาชีพสุจริต ทำสวน กรีดยางพารา ไปตามสภาพ แต่ประมาณเกือบ 1 ปี มีผู้รับเหมามาดำเนินโครงการขุดคลองผันน้ำ พร้อมอาคารบังคับน้ำ เริ่มจากบ้านหนองตรุด ต.หนองตรุด ไปสิ้นสุดที่บ้านคลองช้าง ต.บางรัก อ.เมืองตรัง เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง แต่บริเวณนี้เป็นดินทราย ทำให้ผู้ประกอบการแห่กันมาดูดทรายไปขาย แต่ละวันจะมีรถบรรทุกทั้ง 6 ล้อ 10 ล้อ วิ่งขนทรายกันทั้งวันทั้งคืนทุกวัน ทั้งเสียงดัง ขับรถเร็ว เกิดฝุ่นละออง และเศษทรายตกลงบนถนน เพราะไม่มีผ้าคลุมใดๆ
ชาวบ้านใช้ถนนร่วมกัน โดยเฉพาะคนที่ขับรถจักรยานยนต์เกิดลื่นไถล เกิดอุบัติเหตุมาแล้วก็หลายราย ต่างก็อดทนมานานนับปี จนทนไม่ไหวจำเป็นต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ ตนเองในฐานะผู้นำมีหน้าที่ต้องดูแลทุกข์สุขของชาวบ้านก็เห็นว่า ปัญหาเกิดขึ้นจริงและไม่มีใครเข้ามาดูแล ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้เอารถเข้ามาดูดทรายไปขาย และสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอย่างหนักมานานนับปี อย่างไร้สำนึก ชาวบ้านจึงต้องรวมตัวกันปิดถนนเส้นนี้จนกว่าจะมีการแก้ไขปัญหา
อย่างไรก็ตาม หลังทราบเรื่องว่าชาวบ้านมีการปิดถนน พ.ต.ท.สมยศ สมบัติมาก สว.สภ.สภ.หนองตรุด นายสมบัติ ผลประยูร นายก อบต.หนองตรุด นายพิศาล เต็งเฉี้ยง กำนันตำบลหนองตรุด นายเอกไพศาล เพ็งตา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองตรัง นายถาวร เจยแก้ว ผู้รับเหมาช่วงที่ 5 ก่อสร้างโครงการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ทันที พร้อมมีการหารือร่วมกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
จากนั้นนายสมบัติ ผลประยูร นายก อบต.หนองตรุด กล่าวว่า ตนเองทราบว่าชาวบ้านเดือดร้อน ที่เกิดจากความมักง่ายของนักธุรกิจที่เห็นแก่ตัว และไม่เคยมีใครมาติดต่อแจ้งอะไรให้ตนทราบว่า จะมาทำการดูดทรายในพื้นที่ ต่างก็ทำกันเองตามอำเภอใจ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่าง นักธุรกิจที่ดูดทรายกับผู้รับเหมาที่ไม่รู้รับกันมากี่ทอด เนื่องจากบริษัทคู่สัญญาที่ทำกับโครงการชลประทานจริงๆ มีการทำสัญญาเช่าช่วงก่อสร้าง จนไม่รู้ว่าใครเป็นใครเป็นผู้รับเหมาที่แท้จริง ซึ่งทราบว่าตอนนี้เป็นผู้เช่าช่วงบริษัทที่ 5 จึงหาผู้รับผิดชอบยาก
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทุกฝ่ายพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน จนในที่สุด นายถาวร เจยแก้ว ตัวแทนผู้รับเหมาช่วงที่ 5 จากบริษัท สยามภัณฑ์ จำกัด ได้ออกมากล่าวว่า เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ตนขอยกเลิกการดูดทรายไปก่อน เพราะอยากอยู่ได้ด้วยชุมชน ไม่อยากสร้างความเดือดร้อน ซึ่งสร้างความดีใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ต่างพากันตะโกนร้องไชโยๆ และช่วยกันเปิดถนนให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ
