เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 มิ.ย. 61 นายธนู งามยิ่งยวด ประธานกลุ่มคนรักษ์ต้นน้ำ พร้อมชาวบ้านในเขตตำบลน้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้เดินทางมายื่นหนังสือ ต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี เรื่องขอให้มีการตรวจสอบโรงงาน แวกซ์กาเบ็จ รีไซเคิล เซนเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานรับกำจัดกากขยะอุตสาหกรรม ได้รับใบอนุญาติ ประกอบกิจการโรงงาน ทั้งหมด 9 โรงงาน โดยทะเบียนโรงงานเลขที่ 3-106-3/46 รบ.ประกอบกิจการแยกสกัดโลหะมีค่าโลหะและพลาสติกจากเศษอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เก็บรวบรวมแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว และรีไซเคิลหลอดฟลูออเรสเซนต์ บดย่อยชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ บดย่อยเศษและตะกรันโลหะ ชาวบ้านจึงหวั่นเกรงว่าทางโรงงานจะมีการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ มาทิ้งในพื้นที่ จังหวัดราชบุรี หรือไม่และมีการดำเนินการอย่างถูกต้องหรือไม่
โดยนายธนู เปิดเผยว่า กลุ่มคนรักษ์ต้นน้ำ ได้มีการเฝ้าระวังและติดตามข่าวสารข้อมูลตามสื่อ พบว่า จังหวัดราชบุรี เป็น 1 ใน 11 จังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มาทิ้ง จนมีข่าวว่ามีโรงงานลักลอบนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ มาแปรรูป และทาง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ได้ร่วมกับทางศุลกากร และกรมโรงงานอตสาหกรรม เข้าทำการตรวจสอบและพบว่ามีการลักลอบนำขะอิเล็กทรอนิกส์ มาแปรรูปจริง ตามที่เป็นข่าว ซึ่งทางกลุ่ม ได้มีการตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่าบริษัทแวกซ์กาเบ็จ รีไซเคิล เซนเตอร์ ก็เป็นบริษัทที่รับกำจัดกากขยะอุตสาหกรรมเหมือนกัน จึงทำให้ทางกลุ่มฯ มีความกังวลใจและอยากทราบข้อเท็จจริงว่า โรงงานดังกล่าวมีการนำขยะอิเลคทรอนิกส์มากำจัดหรือไม่ นำมาจากแหล่งใด ถูกต้องหรือไม่ รวมถึงวิธีการ ขั้นตอนการคัดแยกสกัดโลหะ และเศษวัสดุที่เหลือจากการคัดแยกมีวิธีการกำจัดอย่างไร เนื่องจากทางกลุ่มมีความวิตกกังวล ถึงความปลอดภัย ว่าชุมชนจะได้รับผลกระทบซ้ำจากที่โรงงานดังกล่าวนั้นที่ได้นำกากขยะอุตสาหกรรม มาฝังกลบ และส่งผลให้น้ำใต้ดิน มีการปนเปื้อนสารเคมีอันตราย จนชาวบ้านไม่สามารถใช้น้ำในการอุปโภค และบริโภคได้ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนมากว่า 16 ปี แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ พร้อมกันนี้ยังได้ทำหนังสือถึง พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ. ตร. ให้ช่วยเข้ามาตรวจสอบ โรงงานดังกล่าวด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชุมชน ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากโรงงานกำจัดขยะดังกล่าวซ้ำอีก
