ขอนแก่น – โอกาสสุดท้าย อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เลย ขอเลื่อนให้ปากคำคณะ กรรมการฯ ในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ หลังถูกแฉโกงเงินลูกน้องในสังกัด 193 ราย ยอดเงินกว่า 229 ล้านบาท พบหลักฐานเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ เตรียมฟันทั้งวินัยและอาญา
สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.เลย จำนวน 192 นาย เข้ายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 ร้องเรียนกรณีได้รับความเสียหายจากโครงการ “บริหารหนี้” ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธร จ.เลย รวมมูลค่ากว่า 229 ล้านบาท โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ โดยมี พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิ์เดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 เป็นประธานคณะกรรมการฯ ซึ่งขณะนี้ได้สอบปากคำผู้เสียหายไปแล้วกว่า 30 ปาก พร้อมตรวจสอบการบริหารงานของสหกรณ์ตำรวจภูธร จ.เลย
ข่าวน่าสนใจ:
- รับบุญใหญ่ งานนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุมฯ สกลนคร 6-13 มกราคม 2568 ร่วมบูชาเมล็ดข้าวใหญ่ในตำนานเมืองสกลนคร
- น้องขวัญ นายก อบจ.นครพนม ลาออก ก่อนครบวาระ 3 วัน จ่อลงชิงป้องกันแชมป์
- ชวน” คลี่ปมขัดแย้งแก้พ.ร.บ.กลาโหม นักการเมือง-ทหาร ไม่ไวใจกันเอง สลับกันแก้หวังกระชับอำนาจ อ้างตัดไฟรปห.แค่ปลายเหตุ ต้นเหตุเพราะนักการเมืองโกง!
- ขอนแก่นเข้มต่อเนื่อง!!เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด รวบคู่รักนักค้ายา หลังฝ่ายชายเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ
ความคืบหน้าวันนี้ พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิ์เดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ. 4. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.เลย จำนวน 193 นาย ได้เข้าร่วมโครงการรวมหนี้กู้เงินจากสหกรณ์ฯ ไปลงทุนกับอดีต ผบก.ภ.จว.เลยเมื่อปีที่ผ่านมา โดยมีเงื่อนไขว่าจะรับผิดชอบภาระหนี้สินแทน แต่พบว่าเมื่อ 4 – 5 เดือนที่ผ่านมา กลับถูกธนาคารและไฟแนนซ์ติดตามทวงหนี้ ทางคณะกรรมการฯ จึงได้แจ้งให้อดีต ผบก.ภ.จว.เลย คนดังกล่าวมาให้ข้อเท็จจริง
แต่อดีต ผบก.ภ.จว.เลย ได้มีหนังสือแจ้งมาในวันนี้ว่า ไม่สะดวกเข้าพบเพราะติดราชการที่ต่าง จังหวัด และขอเลื่อนเป็นวันพุธที่ 6 มิ.ย.2561 เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มากเพราะเป็นความเดือดร้อนของข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้วร้อยละ 99 เหลือเพียงอดีต ผบก.ภ.จว.เลย เพียง 1 ปากเท่านั้น ถ้าหากในวันพุธที่ 6 มิ.ย.นี้ อดีต ผบก.ภ.จว.เลย ไม่เดินทางมาให้ปากคำ ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็จะสรุปผลสอบสวนส่งเรื่องให้ ผบช.4 ในวันนั้น
พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ กล่าวเพิ่มว่า จากการตรวจสอบข้อมูลที่ได้มา พบว่า ข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย ภ.จว.เลย ได้กู้เงินสหกรณ์ฯ ไปลงทุนกับอดีต ผบก.ภ.จว.เลย ซึ่งมีหลักฐานความเสียหาย จำนวน 193 นาย ยอดเงินรวมประมาณ 229 ล้านบาท ดังนั้น อดีต ผบก.ภ.จว.เลย จะต้องมีความผิดทั้งทางอาญาและทางวินัย แต่เมื่ออดีต ผบก.ภ.จว.เลย ผู้นี้ได้ย้ายจากสังกัดกองบัญชาการ ภ.4 ไปสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องเสนอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงและพิจารณาข้อบกพร่องในส่วนที่เป็นเรื่องของวินัย ส่วนคดีอาญาก็พิจารณาในเรื่องฉ้อโกงประชาชน หรือกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
“ขณะนี้มีข้อมูลและหลักฐานที่สามารถเอาผิดกับ อดีต ผบก.ภ.จว.เลย ได้ทันที หากในวันที่ 6 มิ.ย. 61 ยังไม่เข้ามาพบคณะกรรมการฯ ก็จะต้องแจ้งยังต้นสังกัดของอดีต ผบก.ภ.จว.เลย ให้ส่งตัวมาที่ ตำรวจภูธร ภาค 4 เพื่อดำเนินการตามเป้าหมายเดิม หากยังไม่มาอีกก็ต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป” พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ กล่าว
ล่าสุดทางกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 ได้เจรจากับสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ของข้าราชการตำรวจกลุ่มดังกล่าว ซึ่งได้รับความเห็นใจพร้อมผ่อนผันหลักเกณฑ์การส่งเงิน อาทิ ธนาคารกรุงไทย เป็นหนี้รวมประมาณ 1.7 ล้านบาท ธนาคารออมสินเป็นหนี้รวมประมาณ 5.5 ล้านบาท ธ.อ.ส.เป็นหนี้รวมประมาณ 2 แสนบาท และธนาคารอีก 2-3 แห่ง ประมาณ 7.5 ล้านบาท โดยจะผ่อนผันให้ข้าราชการตำรวจกลุ่มนี้ส่งเพียงงวดเดียวก่อน จากนั้นจะปรับบัญชีให้เป็นปกติ เดือนต่อไปก็จะส่งแค่ 500 บาทบวกดอกเบี้ย ครบ 1 ปีจึงค่อยมาเจรจากันอีกครั้งในเรื่องเงินต้น เพื่อไม่ให้ถูกฟ้องล้มละลายและจะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่การทำงาน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: