กระบี่-ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติพร้อมหน.อุทยานฯพีพี นำผู้สื่อข่าวลงมาหยา พร้อมแจงปมรายได้อุทยานฯพีพี ลดฮวบเฉียด 300 ล้าน อ้างเพราะ ปิดอ่าวมาหยา-นทท.ต่างชาติลด
จากกรณีนายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.เขต 2 กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ยื่นกระทู้สอบถามไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีรายได้ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ลดลงจากปีที่ผ่านมาเกือบ 300 ล้านบาท สวนทางกับตัวเลข นทท.ที่เพิ่มขึ้นเป็น 6.4 ล้านคน มากกว่าปีที่ผ่านมา จึงเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการดำเนินการ เนื่องจากเกรงจะมีการทุจริตในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานฯ
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.62 นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินทางมาตรวจสอบเรื่องนี้ที่ สนง.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ โดยมีนายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หน.อุทยานฯ ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งพาสื่อมวลชนเดินทางไปยังอ่าวมาหยา เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าในการฟื้นฟูอ่าวมาหยา ซึ่งปิดไม่ให้ นททงเข้าไปเที่ยวชมนานกว่า 1 ปี แล้ว
นายดำรัส กล่าวชี้แจงกรณีรายได้กรมอุทยานฯ ลดลงในปีนี้ว่า สำหรับรายได้ของการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในภาพรวม เรายอมรับว่าลดลง ซึ่งสวนทางกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้น สาเหตุหลักต้องยอมรับว่าเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจด้วย นอกจากนี้ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ปรากฎว่าเป็น นทท.ชาวไทย ขณะที่ นทท.ต่างชาติ ลดลงซึ่งมีผลมาจากหลายปัจจัย กรณีอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราฯ การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจะแบ่งเป็น 2 อัตรา ระหว่าง นทท.ไทยและต่างชาติ ชาวไทยจะเก็บเด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท ขณะที่ นทท.ต่างชาติ เราจะเก็บผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท เมื่อ นทท.ไทยเพิ่มขึ้น ต่างชาติลดลง ก็เป็นผลให้รายได้ลดลง
ผอ.สำนักอุทยานฯ กล่าวต่อว่า อย่างอุทยานเตรียมการขุนน้ำนางนอน ในปีนี้มี นทท.เพิ่มขึ้นเฉพาะที่เดียวมีคนเข้าเที่ยวกว่า 1 ล้านคน แต่เราไม่สามารถเก็บค่าเข้าชมได้เพราะยังเป็นเพียงอุทยานเตรียมการ อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า ก็มี นทท.นับล้านคน แต่เราก็เก็บค่าเข้าชมไม่ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเป้าหมายหลักของกรมอุทยานฯ ไม่ได้หวังในเรื่องของรายได้ แต่เป้าหมายหลักเพื่อต้องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การปิดอ่าวมาหยา ที่ผ่านมาอาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้บ้าง แต่เราคาดหวังในเรื่องของสภาพธรรมชาติมากกว่า ให้ความสำคัญกับทรัพยากรธรรมชาติมากกว่า
ขณะปัญหาเรือทัวร์ ที่ลักลอบนำ นทท.เข้ามาเที่ยวในเขตอุทยานฯ แล้วเลี่ยงการจ่ายค่าเข้าชม นายดำรัส กล่าวว่า ปัญหานี้มีให้เห็นอยู่ ซึ่งทางกรมอุทยานฯ สั่งให้ จนท.ดำเนินการกับเรือทัวร์เหล่านี้ทั้งหมด ขั้นตอนแรกให้ทำความเข้าใจ ตักเตือนก่อน แต่หากยังมีการลักลอบเข้ามา และฝ่ายฝืนคำเตือน ก็จะดำเนินการทางกฎหมายตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ
