X

วีระแจ้งความพ่อ ปารีณา รุกป่า  ไม่หวั่นหากถูกปารีณาแจ้งความกลับ

ราชบุรี   เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 1 ธ.ค. 62 นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ประดิษฐ์    คงเปรม  พนักงานสอบสวนสภ.สวนผึ้ง  จ.ราชบุรี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับนายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.กระทรวงคมนาคม บิดา นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ในความผิดฐาน บุกรุก ตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และที่ป่า ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484  ในพื้นที่หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และมีการลงบันทึกประจำวัน รับคำร้องทุกข์ เป็นคดีอาญาที่ 419/2562 เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป  โดยมี พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.สวนผึ้ง และพ.ต.ท.ภาสกร อยู่เย็น รองผกก.สอบสวน ร่วมในการรับคำร้องทุกข์ด้วย

ภายหลังเสร็จสิ้นการแจ้งความร้องทุกข์ นายวีระ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนเองมาแจ้งความดำเนินคดีกับ คุณทวี ไกรคุปต์ และก็เจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงาน รวมถึงบุคคลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในการกระทำความผิดการบุกรุกครอบครองที่ป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ที่เป็นป่าไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ปี พ.ศ.2484 ได้นำหลักฐานที่ได้รับจากประชาชนในพื้นที่ และก็เอกสารข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง   โดยตนได้พาพนักงานสอบสวนไปลงพื้นที่ตรวจสอบชี้จุดที่มีการบุกรุก และมีการครอบครองมาหลายสิบปี หลักฐานทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าตนไปทำเอง แต่เป็นการกระทำที่คุณทวี ทำขึ้นมานานแล้ว ในขณะที่ตนพาพนักงานสอบสวนไปตรวจสอบชี้จุดที่มีการบุกรุก ก็ได้รับข้อมูลจากชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านก็ยืนยันว่าเป็นที่ของคุณทวี คุณทวีเข้าไปครอบครองเกือบ 40 ปีแล้ว

ส่วนกรณีที่นางสาวปารีณา ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตนในฐานความผิด แจ้งความอันเป็นเท็จ ทั้งที่รู้ว่ามิได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น เป็นการแจ้งความเพื่อจะแกล้งให้ตนต้องรับโทษทางอาญา และในฐานความผิด หมิ่นประมาท ใส่ความโดยการโฆษณา ทางสื่อสารมวลชนโดยมุ่งหมายให้ตนได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172 , 173, 174, และ 326, 328 ตนถือว่าเป็นสิทธิของคุณปารีณา ตนอยากให้ประชาชนรอดูต่อไปในอีกไม่นานความจริงก็จะปรากฏ สำหรับตนไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย

สำหรับเรื่องที่นางสาวปารีณา ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อแจ้งขอแก้ไขรายการในบัญชีหนี้สินทรัพย์สิน เนื่องจากเกิดความคลาดเคลื่อน และซ้ำซ้อน ในเอกสาร ภ.บ.ท.5 ที่ได้ยื่นเสียภาษี ในปี 2549 ได้แจ้ง ป.ป.ช. ซ้ำซ้อนกับเอกสาร ภ.บ.ท.5 ที่ยื่นเสียภาษีในปี 2553 ทำให้จำนวนเนื้อที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 กว่าไร่ ทั้งที่ที่ดินแปลงดังกล่าวมีเนื้อที่รวมประมาณ 600 กว่าไร่ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ยังยุติไม่ได้ จะต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบ ก็คือป่าไม้ เนื้อที่ทั้งหมดมีเท่าไหร่ ป่าไม้ และทาง ส.ป.ก. จะต้องมาสรุปให้มันแน่ชัดและชัดเจน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี