ลป.ดังเตือนอย่าหลงงมงายเป็นเรื่องที่บุญกรรมแต่ละคนไม่เหมือนกัน หลังจากที่มีการแชร์คลิปพบเพชรพญานาคโผล่ในดอกบัวจนฮือฮาโด่งดังไปทั่วในโลกโซเชียลในขณะนี้ ที่ระบุที่มาจากสำนักสงฆ์ป่าอุดม ปู่นาคาย่านาคี อยู่ที่จ.ชัยภูมิ(คลิป)
( 12 ธ.ค.60 ) ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินไปตรวจสอบที่สำนักสงฆ์ป่าอุดม ปู่นาคาย่านาคี ที่ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านซับพระไวย์ ต.โพนทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เพื่อสอบถามถึงความเป็นมาที่เกิดขึ้นและได้พบกับนางอัจฉราพรรณ แซ่ลิ้ม อายุ62ปี พร้อมกับชาวบ้านอีก 4-5คน ซึ่งเป็นญาติธรรมผู้ดูแลพระภายในสำนักสงฆ์ดังกล่าว ซึ่งมีหลวงปู่ชัยวิทย์ ปวโร ปัจจุบันอายุ 66 ย่างเข้า 67 ปี บวชมาได้กว่า 20 พรรษา ซึ่งเป็นผู้ดูแลสำนักสงฆ์ดังกล่าว และปัจจุบันท่านกำลังอาพาตอยู่ภายในวัด
พร้อมกล่าวที่มาที่ไปการพบเพชรพญานาค หรืออัฐิธาตุภายในดอกบัวดังกล่าวว่า ซึ่งเดิมทีไม่มีใครรู้จักเพชรพญานาคเลยและเมื่อช่วง 2-3ปีที่ผ่านมาได้มีญาติโยมเก็บดอกบัวมาไหว้พระที่สำนักสงฆ์ และให้หลวงปู่ชัยวิทย์ ฯสวดอธิฐานจิตให้แล้วได้นำกลับไปบูชาบนหิ้งพระที่บ้านจึงได้เปิดดอกบัวออกมาดูก็ต้องตะลึงเมื่อพบเพชรพญานาคก้อนหินสีต่างๆคล้ายอัฐิธาตุกายสิทธิ์อยู่ในดอกบัวต่อมา
เริ่มมีคนทราบข่าวกันปากต่อปากไปทั่ว ว่าหลวงปู่วิทย์ มีวิชาที่ล่ำเรียนมาจากสมัยเดินธุดงค์มาจากประเทศลาว หรือสปป.ลาว มาและสามารถเสกเพชรพญานาคโผล่ในดอกบัวได้ ก็เริ่มพากันได้นำดอกบัวมาไหว้พระที่สำนักสงฆ์และให้ท่านสวดอีกก็พบมาต่อเนื่องอีก หลังจากนั้นโยมคนที่พบกับความแปลกในดอกบัวก็ได้ได้อุทิศตนมาบำเพ็ญกุศลอยู่ที่ตลอดมาและต่อมาเมื่อมีคนทำบุญกับหลวงปู่ก็นำดอกบัวมาให้หลวงพ่อสวดเช่นนี้เรื่อยมา
ซึ่งดอกบัวที่นำมาสวดนั้นมีทั้งคนที่เตรียมมาเองหรือจะมาบูชาเอาที่วัด ซึ่งในระยะนี้ทางวัดก็ได้มีการตรียมดอกบัวไหว้ให้ญาติโยมบูชาในราคาดอกละ500บาทหรือตามแต่ความศรัทธรา แล้วนำไปเข้าพิธีให้หลวงพ่อท่านสวดอธิษฐานจิตให้และก็ให้ญาติโยมนำกลับไปเปิดที่บ้านเองหรือจะเปิดที่วัดก็ได้ในการพบสิ่งของศักดิ์สิทธิ์หรือที่เรียกว่าวิชาเรียกธาตุเพชรพญานาคนั้นไม่ใช่ว่าทุกคนที่ทำจะพบหมดทุกคน ที่มาให้หลวงปู่สวดให้ ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องขึ้นอยู่กับความศรัทธาและบุญวาสนาของแต่ละบุคคลเองด้วย ซึ่งบางคนก็ไม่สามารถพบได้หากไม่มีบุญหนุนนำมาจริงๆก็ยากที่จะพบได้ให้ทำกี่ครั้งก็ไม่โผล่ขึ้นมาได้
และหลังจากได้พบและคุยกับนางอัจฉราพรรณ แซ่ลิ้ม ทางผู้สื่อข่าวจึงได้ขออนุญาตพบกราบนมัสการพูดคุยกับหลวงปู่ชัยวิทย์ ถึงความเป็นมาดังกล่าว ซึ่งท่านอาพาตได้นอนพักผ่อนจำวัดอยู่ และท่านได้เดินออกมาพูดคุยเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ชัยวิทย์ ปวโร เจ้าสำนักสงฆ์ ป่าอุดมปู่นาคาย่านาคี บ้านซับพระไวย์ ต.โพนทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
เผยว่าสิ่งที่ญาติโยมพบเจอในดอกบัวนั้นเป็นวิชาที่ได้ล่ำเรียนมาจากประเทศลาว หรือสปป.ลาว สมัยเดินธุดงค์ผ่านเมื่อกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ขณะที่ท่านได้เดินธุดงค์ไปที่ประเทศเพื่อนบ้านยังฝั่งลาวก็ได้เจอกับพระรูปหนึ่งชื่อว่าครูบาคำตันซึ่งมีอายุยืนกว่า106ปีได้สอนวิชาอาคมต่างๆให้และถือปฏิบัติ ติดต่อกันมาโดยตลอด
และมีวิธีบทสวดอยู่4บทคือ บทสวดสูบมนต์พญานาค และบทสวดคาถาถอนพิษ บทสวดคาถาปลุกเสกให้ขลังและบทสวดคาถาใส่กุญแจ ซึ่งทั้ง4บทสวดจะสวดเข้าด้วยกัน หลังจากที่ได้เล่าเรียนมาก็ได้สวดติดต่อกันมาเรื่อยๆและจะเพิ่งปรากฏผลให้ญาติโยมที่ศรัทธาให้เห็นสิ่งของหรือที่เรียกกันว่าเพชรพญานั้นภายในดอกบัวก็เมื่อช่วง 2-3 ปีทีผ่านมานี้เองจนเป็นที่รู้จักของผู้ที่ศรัทธาของคนที่มาทำบัญที่สำนักสงฆ์เท่านั้น
ซึ่งหลวงปู่กล่าวต่อว่า จนน่าจะมีการไปพูดกล่าวกันจากปากต่อปากและมีคนนำไปแชร์ในโลกโซเชียลตามที่เห็นกันนั้นเป็นดอกบัวที่มีญาติโยมนำไปไหว้และให้หลวงพ่อสวดให้ที่รพ.แห่งหนึ่งใน กทม. เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาขณะที่หลวงพ่อได้เข้ารักษาตัวอยู่เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเราก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่กับความเชื่อและศรัทธาของแต่ล่ะบุคคล
ในด้านความเชื่อนั้นหลวงปู่ก็ไม่ขอพูดอะไรมากก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล ซึ่งมีความเชื่อเช่นนี้ดังที่คำชะโนดก็มีคนเห็นแตกต่างกันไปซึ่งก็ฝากถึงญาติโยมที่นับถือศรัทธาเกี่ยวกับพญานาคด้วยว่าเพื่อเป็นการเตือนสติ จงยึดถือตามคำว่า อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นหรือควรเชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ อย่าหลงงมงาย และที่สำนักสงฆ์จะไม่ส่งเสริมในการให้หวยให้เลขเด็ดขาด ตามคำบอกเล่าของอาจารย์ที่แต่ท่านก็ย้ำสั่งสอนมา
ซึ่งพูดเอาไว้ว่าเห็นในสิ่งที่ควรเห็นเชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ อย่างมงายจงครองสติให้มั่นเพื่อการดำเนินชีวิตของเราด้วยความเป็นจริงต่อไป
