ชาวบ้านในหมู่ 4 หมู่บ้านซอนต้า ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ได้ร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าว ว่าอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่งในหมู่บ้าน ซึ่งแห่งแรกนั้นมีพื้นที่กว่า 10 ไร่ ส่วนแห่งที่สองนั้นมีพื้นที่กว่า 150 ไร่ สร้างมาเมื่อกว่า 30 ปีที่ผ่านมา เพื่อไว้สำหรับกักเก็บน้ำไว้ใช้ช่วงหน้าแล้ง และใช้สำหรับทำน้ำประปาของหมู่บ้าน ซึ่งมีมากกว่า 70 ครัวเรือน แต่ขณะนี้กลับมีวัชพืชขี้นจนเต็มอ่างมานานหลายปีแล้ว และเมื่อมองไปก็คล้ายกับทุ่งหญ้ามากกว่าจะเป็นอ่าง เก็บน้ำ และสภาพอ่างก็ตื้นเขิน โดยไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือในการนำวัชพืชขี้นมา และขณะนี้น้ำในอ่างเก็บน้ำก็ส่งกลิ่นเหม็นเน่าเนื่องจากวัชพืชนั้นตายทับถมกันในน้ำ ชาวบ้านใช้น้ำประปาได้เพียงแค่นำมารดพืชผลทางการเกษตรเท่านั้น
ด้านนายนายบุญเลิศ ฮวดลิ้ม อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 277/1 หมู่ 4 บ้านซอนต้าหนองนกกระเรียน ต.รางบัว เปิดเผยว่า สภาพอ่างเก็บน้ำที่นี่มีต้นหญ้า ต้นกกขึ้นปกคลุมมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว ไม่มีการขุดลอกหรือการดูแลเลย โดยก่อนหน้าที่ทางสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท ( รพช.)กระทรวงมหาดไทย มาขุดให้ปัจจุบันได้ถ่ายโอนให้กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามพระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 และเป็นหน่วยงานผู้ดูแลซ่อมแซมและปรับปรุงโครงการ เคยเข้ามาตรวจสอบดูแล และบอกชาวบ้านจะดำเนินการขุดลอกปรับปรุงอ่างให้แต่ก็เงียบหายไป ส่วนหน่วยงานด้านท้องถิ่นได้แต่เข้ามาดูอย่างเดียว ที่ผ่านมาชาวบ้านก็ใช้น้ำในอ่างเก็บน้ำไปทำน้ำประปา ใช้ดื่ม ใช้อาบ เลี้ยงสัตว์และทำการเกษตร แต่เมื่อหลายปีที่ผ่านมาก็เริ่มมีวัชพืชขึ้นปกคลุมจนเต็มอ่าง และสะสมจนทำให้น้ำเกิดเน่าเสีย ชาวบ้านใช้น้ำได้เพียงแค่นำไปรดพืชผักได้อย่างเดียว เคยแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว และมีการส่งเจ้าหน้าที่มาดู แต่เรื่องก็เงียบหายไปทุกครั้ง จึงอยากวอนให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเข้ามาทำการขุดลอกอ่างเก็บน้ำโดยการนำวัชพืชขึ้นเพื่อให้สามรถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้และน้ำจะได้สะอาดขึ้น
