ผู้การฯ กาฬสินธุ์สั่งตามรวบตัวโจรแสบขโมยข้าวเปลือกของชาวบ้าน รับสารภาพหาเงินซื้อเหล้า อ้างทำคนเดียว แต่เจ้าหน้าที่และผู้เสียหายไม่ปักใจเชื่อคืนเดียวขนข้าว 30 กระสอบ จี้ขยายผลล่าตัวผู้ร่วมขบวนการ เชื่อมีมากกว่า 1 คน
ความคืบหน้าคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกเข้าไปขโมยข้าวเปลือกของนายทองม้วน ภูทะวัง อายุ 80 ปี ชาวบ้านตูม หมู่ 4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ที่เก็บไว้ในยุ้งฉางและโรงจอดรถคืนเดียวหายไปกว่า 30 กระสอบ ซึ่งหลังเกิดเหตุชาวบ้านได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและตำรวจสภ.นากุง เจ้าของพื้นที่ พร้อมทั้งแจ้งเบาะแสกลุ่มผู้ต้องสงสัย ที่คาดว่า น่าจะเป็นคนในหมู่บ้าน เนื่องจากมีการตั้งวงกินเหล้าฉลองพูดคุยเรื่องการนำข้าวเปลือกไปขาย กระทั่งพล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ตำรวจสภ.นากุงเร่งติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ วีระศิริ ผกก.สภ.นากุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าจับกุมตัวนายอดิศักดิ์ ภูนาโคก อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.4 บ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป พร้อมยึดของกลางกระสอบข้าวเปลือก 6 กระสอบ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนเข้าไปขโมยข้าวเปลือกในยุ้งฉางและโรงรถของนายทองม้วนจริง และอ้างว่าลงมือแต่ทำคนเดียวก่อนที่จะนำข้าวเปลือกไปขาย เพื่อนำเงินมาซื้อเหล้ากิน
จากนั้น ร.ต.อ.อภิสิทธิ พลเตชะ ร้อยเวรสภ.นากุง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์เจ้าของคดี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.นากุง และนางละมุล ภักดีนอก ผญบ.บ้านตูม หมู่ 4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณยุ้งฉางและโรงจอดรถของนายทองม้วน ภายในบ้านเลขที่ 112 บ้านตูม หมู่ 4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ โดยผู้ต้องหาอาศัยจังหวะช่วงกลางดึกที่เจ้าของบ้านนอนหลับแอบเข้าไปขนกระสอบข้าวเปลือกในยุ้งฉาง และบริเวณโรงจอดรถออกไปทางด้านหลังบ้าน และทยอยขนข้ามกำแพง ก่อนที่จะนำไปฝากไว้บ้านเพื่อน จากนั้นได้ข้าวเปลือกไปขาย และนำเงินมาซื้อเหล้าดื่มกินกับเพื่อนๆ ทั้งนี้ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุคนเดียว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากการขนย้ายกระสอบข้าวเปลือกที่มีน้ำหนักกระสอบละ 30 กก.ภายในคืนเดียวกว่า 30 กระสอบนั้นเป็นไปได้ยาก ซึ่งจะต้องมีคนช่วยและทำกันเป็นขบวนการ แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ของผู้มีอาชีพกสิกรรมในเคหะสถานเวลากลางคืน และนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับทำการขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการและเตรียมออกหมายเรียกผู้รับซื้อข้าวเปลือกต่อไป
ด้านนายทองม้วน ภูทะวัง อายุ 80 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ใหญ่บ้านที่สามารถติดตามจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้ แม้เบื้องต้นจะได้ข้าวเปลือกคืนไม่ครบก็ตาม ทั้งนี้จากคำให้การของผู้ต้องหา ตนและญาติๆ ไม่เชื่อว่าจะลงมือขโมยข้าวคนเดียว เพราะการที่จะขนกระสอบข้าวเปลือกออกไปจากยุ้งฉางและโรงจอดรถในเวลาคืนเดียวกว่า 30 กระสอบนั้นเป็นไปได้ยาก อีกทั้งผู้ก่อเหตุเองก็ไม่ได้มีร่างกายแข็งแรง เชื่อว่าจะต้องมีผู้ร่วมขบวนการมากกว่า 1 คน จึงอยากให้ตำรวจขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการขโมยข้าวเปลือกในครั้งนี้มาดำเนินให้หมดทุกคน
ขณะที่พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้กำชับให้สถานีตำรวจทั้ง 23 โรงพักเพิ่มกำลังสายตรวจออกดูแลความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว เพื่อป้องกันแก๊งมิจฉาชีพที่จะเข้ามาขโมยข้าวและอุปกรณ์การเกษตร ทั้งนี้หากประชาชนพบบุคคลแปลกหน้าหรือพบบุคคลที่เข้าข่ายมีพฤติกรรมน่าสงสัยก็ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: