ดราม่า…”หนังน้องเดียว-ภรรยา”กรรมติดจรวด หรือลดกระแสขาลง หรือรอยร้าวในครอบครัว…!
มีคนตั้งคำถามว่า กระแสรอยรักร้าวระหว่างนายหนังน้องเดียว บัญญัติ สุวรรณแว่นทอง กับน้องจิ้มสุนิสา สุวรรณแว่นทอง ถึงขั้นสองฝ่ายขึ้นโรงพักกันนั้น เป็นเรื่องจริง หรือดราม่า สร้างกระแสขาลง เพราะสองฝ่ายออกมาให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกันอยู่
ประเดิมเริ่มเรื่อง…นายบัญญัติ สุวรรณแว่นทอง นายหนังตะลุงตาบอด เจ้าของคณะ “หนังน้องเดียว ลูกทุ่งวัฒนธรรม” นายหนังตะลุงชื่อดังของภาคใต้ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สัมพันธ์ วัฒนสงค์ สว (สอบสวน) สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อลงบันทึกประจำวันและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยารีส สีขาว ทะเบียน กล 8007 นครศรีธรรมราช และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กว 3262 นครศรีธรรมราช ซึ่งมีภรรยาและญาติฝ่ายภรรยาขับออกจากบ้านพัก
โดยร้องขอให้เจ้าหน้าที่เจรจาขอสมุดคิวงานเล่นหนังตะลุง และสมุดบัญชีธนาคารคืน เนื่องจากตอนนี้ได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่สามารถไปเล่นหนังตะลุงตามคิวนัดกับลูกค้าได้ เกรงว่าจะถูกลูกค้าฟ้องร้องว่าเบี้ยวงานแสดงได้
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นคนสนิทของหนังน้องเดียว ได้ให้ข้อมูลว่า หนังน้องเดียวกับภรรยา มีปัญหาในครอบครัวมา 1-2 ปีแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร และก่อนถึงขั้นขึ้นโรงพัก หนังน้องเดียว กับภรรยา เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง ไม่สามารถตกลงพูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้นได้ สุดท้ายภรรยาและญาติได้ขับรถยนต์ทั้ง 2 คันออกจากบ้านพักหายไป
ภรรยายังอยากกลับมาคืนดีเหมือนเดิม
สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ได้สอบถามคนสนิทของนายบัญญัติ หรือหนังน้องเดียว ได้ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์หนังน้องเดียว กับภรรยา มีปัญหาเรื่องภายในครอบครัวมา 1 – 2 ปีแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร ส่วนเหตุการณ์เมื่อคืน หนังน้องเดียว กับภรรยา เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง แต่ครั้งนี้มีญาติๆทั้งฝ่ายหนังน้องเดียว และญาติฝ่ายภรรยา เข้าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย และไม่สามารถตกลงพูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้นได้ สุดท้ายภรรยาน้องเดียวและญาติๆได้ขับรถออกไปจากบ้าน
ภรรยาหนังน้องเดียวโผล่โรงพักทุ่งสง
น.ส.สุนิสา หรือ จิ๊ป สุวรรณแว่นทอง ภรรยาสาวของหนังน้องเดียว โผล่ สภ.ทุ่งสง พร้อมนายรชฏ นิติธรรมรงค์ ทนายความส่วนตัว และญาติจำนวนหนึ่ง เดินทางมาด้วยรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยารีส สีดำ ทะเบียน กล 8007 นครศรีธรรมราช และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กว 3262 นครศรีธรรมราช ที่หนังน้องเดียว แจ้งความให้สกัดจับเมื่อกลางดึกวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา เข้าพบ ร.ต.อ.สุริยา คงอินทร์ รอง สว (สอบสวน) สภ.ทุ่งสง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่หนังน้องเดียวแจ้งความลงบันทึกประจำวัน พร้อมยันยันความบริสุทธิ์ ว่าไม่ได้ขโมยรถ ส่วนที่หายตัวไปกลางดึก เพราะมีเรื่องทะเลาะกันภายในครอบครัวกับสามี แต่ที่ผ่านมาพยายามโทรศัพท์ติดต่อกับสามี นายหนังงน้องเดียว เพื่อพูดคุย แต่ไม่สามารถติดต่อสามีได้ ไม่ทราบเหมือนกันว่าด้วยเหตุผลใดที่สามี ปฏิเสธที่จะพูดคุย ส่วนสาเหตุที่มีเรืองทะเลาะกันเป็นเรื่องภายในครอบครัว
จิ๊ป ภรรยาหนังน้องเดียว เปิดเผยว่า ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างตนและสามี ยังคงเมินเดิมทุกอย่าง เพียงแต่ว่าตอนนี้ขอเวลาทำความเข้าใจกันก่อน ส่วนเรื่องคิวงานรับแสดงยังคงดูแลเหมือนเดิมทุกอย่าง ในส่วนเรื่องที่ทะเลาะกันภายในครอบครัว ตนไม่ขอเปิดเผย แต่ยังอยากกลับมาคืนดีกันเหมือนเดิม
ระหว่างน้องจิ้ปให้สัมภาษณ์นักข่าวทนายความเข้ามาตัดบท บอกว่าเป็นเรื่องในครอบครัวที่ทั้งสองยังเป็นสามี-ภรรยากันอยู่
สำหรับนายบัญญัติ สุวรรณแว่นทอง หรือน้องเดียว เดิมเป็นคนจังหวัดพัทลุง ส่วนภรรยา ชื่อนางสุนิสา เป็นคนอำเภอบางขัน จ.นครศรีธรรมราช อยู่กินกันมาตั้งแต่หนังน้องเดียวยังไม่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นแค่นักร้องตาบอดจนมีลูกด้วยกัน 2 คน เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา หนังน้องเดียวมาซื้อตึกแถว 2 ชั้น ซึ่งเป็นบ้านที่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน และเมื่อ 2 เดือนก่อน หนังน้องเดียวทำการแสดงที่วัดพิจิตร ใน อ.นาหม่อม จ.สงขลา ขณะแสดงได้พูดจากระทบกระแทกพระรูปหนึ่งภายในวัด เนื่องจากมีคนมาบอกหนังน้องเดียวก่อนการแสดงว่า พระรูปนั้นพูดจาว่า หากเป็นตนจะไม่รับมาแสดง เพราะราคาแพงเกินไปถึงคืนละ 8 หมื่นบาท จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ก่อนจะมีการขอโทษจนเรื่องจบลง
หนังน้องเดียวยืนยันไม่กลับไปคืนดีกับภรรยา
ส่วนนายหนังน้องเดียว ยังเดินสายเล่นหนังตะลุงตามปกติ คืนวันที่4เล่นอยู่ป่าพยอม จ.พัทลุง วันทึ่5 เล่นอยู่ชุมพรท่ามกลางชาวบ้านที่ชื่นชอบมาดูมากกว่า 3,000 คน
ก่อนการแสดง หนังน้องเดียวได้ประกาศให้แฟนหนังได้ฟังว่า เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างน้องเดียวกับภรรยานั้น น้องเดียวไม่ใช่ผู้ผิด และจะไม่กลับไปคืนดีกับภรรยาอย่างเด็ดขาด ก่อนจะดำเนินเรื่องหนังตะลุงในค่ำคืนนี้อย่างสนุกสนานต่อไปและเลิกโรงหนังในเวลา 01.00 น.
น้องเดียว กล่าวย้ำว่า “ที่ภรรยาขอให้กลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมนั้น ขอถามว่าที่ไม่เหมือนเดิมใครเป็นคนผิด ให้ถามตัวภรรยาว่าทำผิดอะไร หรือตัวน้องเดียวผิดอะไร
ส่วนเรื่องไปมีกิ๊กนั้น น้องเดียวขอยืนยันว่า ไม่มี ผมจะยืนอยู่บนความถูกต้อง ผมมีจุดยืนของผมส่วนสาเหตุขอให้เป็นเรื่องในครอบครัวที่ต้องมาตกลงกัน เรื่องที่ว่าผมไม่รับโทรศัพท์จากภรรยานั้นไม่จริง ผมรับโทรศัพท์ตลอดเวลา แต่ภรรยาไม่เคยโทรหาต่างหาก”
-วันนี้ยังรักภรรยาอยู่ไหม และถ้าภรรยายอมรับผิดจะให้อภัยหรือไม่ น้องเดียว กล่าวว่า “เรื่องนี้ตอบไม่ได้ ผมจะรักก็ต่อเมื่อคนนั้นดีกับผม เขาดีกับเรา เราก็ดีกลับเสมือนเราไปยืนหน้าถ้ำเมื่อตะโกนอะไรออกไปก็จะสะท้อนสิ่งนั้นกลับมา เรื่องนี้ต้องไปคุยกันในครอบครัวเพราะเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องที่ต้องคุยกันยาว”
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการดำเนินเรื่องในการรำหนังตะลุงในคืนนี้ น้องเดียว จะถามคนดูหลายครั้งว่า ถ้าเมียคบชู้จะรู้สึกอย่างไร นอกจากนั้นเมื่อมีคนเมามาตะโกนแซวว่า เมียหนี ทำให้อารมณ์หนังน้องเดียวเสียขึ้นมาทันที และตอบโต้ขี้เมากลับไปด้วยถ้อยคำที่รุนแรงเช่นกัน
นี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครอบครัวของนายหนังตะลุงชื่อดัง “น้องเดียวตาบอด” ที่บางคนวิจารณ์ว่าเป็นกรรสร้างกระแสในช่วงขาลงหลังเกิดเรื่องเกิดราวกับพระ บางคนวิจารณ์ว่า “กรรมติดจรวด”
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทะเลาะกันจริง น้องเดียวมีกิ๊ก หรือใครมีกิ๊ก หรือดราม่าสร้างกระแส เป็นเรื่องรอเวลาพิสูจน์ แต่ขอให้ครอบครัวน้องกลับมารักกันเหมือนเดิมและคุยกันด้วยเหตุผลก่อนหน้านี้ยังเลี้ยงวันเกิดให้ลูกชายอย่างมีความสุขขอให้ทุกอย่างให้จบด้วยดี
ด้วยความเคารพ
นายหัวไทร
6 ธันวาคม 2562
