รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงจับกุมตัว 2 คนร้ายขู่กรรโชกทรัพย์พาตัวหนุ่มวัย 17 ปีซ้อนรถจักรยานยนต์ออกจากห้างดังย่านถนนงามวงศ์วานไปกดเงินก่อนปล่อยทิ้ง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 ธ.ค.62 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผกก.สภ.อ.เมืองนนทบุรี ร่วมกันแถลงจับกุม นายวินิจ จันทร์นิเวศน์อายุ 26 ปี และนายโชคชัย นามมูลน้อย อายุ 26 ปีผู้ต้องหา ตามหมายจับ ศาลจังหวัดนนทบุรี ข้อหา “ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดามารดา”
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ก่อนหน้าได้รับแจ้งจากผู้ปกครองนายเอฯ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี บุตรชาย ว่าวันที่ 6 ธันวาคม 2562 เวลาประมาณ 16.00 น. นายเอฯ ได้เดินอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งถนนงามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน เข้ามาบังคับพาเดินออกจากห้างฯ ไปที่ลานจอดรถชั้นล่าง แล้วพาผู้เสียหายนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์แล้วพาเข้าไปในซอยงามวงศ์วาน 18 จากนั้นคนร้าย ได้บังคับให้นายเอฯ โทรศัพท์หาผู้ปกครองให้โอนเงินมาให้จำนวน 4,000 บาท เมื่อเงินโอนเข้าบัญชีแล้วคนร้ายทั้งสองได้พานายเอฯ ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าร้านขายยาโอฬารเภสัช บริเวณปากซอยเรวดี ด้านถนนติวานนท์ เมื่อได้เงินมาแล้วคนร้ายได้เอาเงินสดจำนวนดังกล่าวไป หลังจากนั้นคนร้ายได้พา นายเอฯ ไปปล่อยไว้บริเวณริมถนนหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี แล้วคนร้ายทั้งสองได้พากันหลบหนีไป
จากการสืบสวนทราบชื่อคนร้ายทั้งคู่ โดยทราบว่าได้เช่าห้องพักอยู่ภายในซอยชินเขต ถนนงามวงศ์วาน จึงได้เฝ้าติดตามจนกระทั่งจับกุมตัวนายวินิจ ฯได้ที่ร้านสดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมันคาลเท็กช์ ถนนงามวงศ์วาน ในพื้นที่ของสน.ทุ่งสองห้อง กรุงเทพมหานคร ส่วนนายโชคชัย ได้จับกุมตัวได้ที่ห้องพักรายวัน ภายในซอยแจ้งวัฒนะ 14 จากการสอบสวนนายวินิจ หรือเกรสฯ และนายโชคชัยหรือบิ๊กฯ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ภายในห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุในวันเกิดเหตุจริง หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้พร้อมของกลางที่ใช้ในวันก่อเหตุ และถูกนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
