นครศรีธรรมราช:ไม่หลาบจำชายวัยกลางคนชาวสทิงพระ มีพฤติกรรมชอบแต่งกายปลอมตัวเป็นนายตำรวจ ตระเวนหลอกลวงเงินบุญวัดทั้วภาคใต้ ผู้เสียหายแจ้งความจับติดคุกมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่หนุ่มยันแก่ แต่ไม่ยอมเลิก ล่าสุดทำซ้ำ ไปไม่รอดถูก ตร.ทางหลวงเมืองคอนจับตรวจสอบประวัติ ยาวเป็นหางว่าว ผู้เสียหายเพียบเตรียมเข้าชี้ตัว ครั้งนี้หลายกระทง คงหลายปีน่าจะหลาบจำ เพราะต้องหยุดทำไปอีกนานร.ต.อ.แสงโรจน์ สมโรจน์รัตน์ รอง สว.ส.ทล.4.เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติหน้าที่ภายหลังได้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนเส้นทางถนนสายเอเชีย 41 บริเวณระหว่างหลัก กม.348-349 ท้องที่ ต.เกาะขันธ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช วานนี้ 10 ธ.ค.62 เพื่อตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมายแก่ผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะที่สัญจรไปมาบนท้องถนนเพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชน ภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พ.ต.อ.จิรประภาพ สุทธปรีดา ผกก.๗ บก.ทล.,พ.ต.ท.อภิชาติ จินาเพ็ญ รอง ผกก.๗ บก.ทล, พ.ต.ท.คมเทพ เปาอินทร์ รอง ผกก.๗ บก.ทล,พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ สว. ส.ทล.๔ กก.๗ บก.ทล. ให้เคร่งครัดในการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่
ในขณะที่ จนท.5 นายกำลังทำการตรวจสอบรถของประชาชนที่กำลังทะยอยเข้ามายังจุดตรวจจุดสะกัดดังกล่าว พร้อมอำนวยความสะดวกและรณรงค์”ให้ผู้ขับรถทุกคัน ขับขี่อย่างปลอดภัยตลอดทุกเส้นทาง ปรากฏว่าได้มีชายวัยกลางคนอายุราวประมาณ 60-65 ปี ได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเทา ทะเบียน ศน-3210 กทม.ขับผ่านเข้ามาด้วยลักษณะท่าทางมีพิรุธ และแต่งกายใส่เสือผ้าคล้ายตำรวจ โดยสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาวมีแถบสีดำเลือดหมูบริเวณแขนเสื้อทั้งสองข้าง นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ จึงขอทำการตรวจค้น พบบริเวณเบาะด้านหลังรถมีเสื้อข้าราชการตำรวจ เต็มยศแขวนอยู่ 1 ชุด โดยติดเครื่องหมายในตำแหน่งยศ พ.ต.อ. พร้อมติดป้ายชื่อที่บริเวณหน้าอก ระบุชื่อ “คมกฤษ วงศ์สวัสดิ์“ และส่วนประกอบอื่นๆเต็มเครื่องแบบของชุดข้าราชการทั้งหมด ทั้งเข็มขัด,รองเท้า,วิทยุสื่อสาร นอกจากนี้ภายในรถยังพบป้ายทะเบียนรถหมายเลขไม่ซ้ำกันอีก 2 แผ่นป้ายที่ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะ จนท.จึงขอตรวจสอบโดยการขอดูบัตรประจำตัวข้าราชการ ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวไม่สามารถแสดงบัตรให้กับ จนท.ตามคำขอได้ ประกอบกับได้มีอาการที่ตื่นกลัวคล้ายคนกระทำความผิด จึงสันนิษฐานว่าไม่ใช่ตำรวจจริง จนท.จึงทำการตรวจสอบรายชื่อในสารระบบ ตามรายชื่อที่ระบุบนหน้าอกเสื้อปรากฏว่า ไม่มีรายชื่อนายตำรวจดังกล่าวในสารระบบของ สนง.ตำรวจแห่งชาติ จึงนำตัวชายดังกล่าวมาทำการสอบสวนจนทราบว่าเป็นตำรวจเก๊ โดยชายคนดังกล่าวมีชื่อจริงนามสกุลจริงว่า “นายปราโมทย์ มณีโรจน์“ อายุ 65 ปี เป็นชาว อ.สทิงพระ จ.สงขลา พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 88/1 หมู่ 3 ต.กระดังงา นอกจากนี้ จนท.ยังได้เช็คฐานข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกเพื่อตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนที่ตรวจพบภายในรถรวมถึงที่อยู่กับตัวรถ ปรากฏว่าทุกแผ่นป้ายเป็นป้ายทะเบียนปลอมทั้งสิ้น
สอบสวนผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงคุมตัวนำส่ง พงส.สภ.ชะอวดเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา “แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจ มีวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมแปลงและใช้เอกสารราชการโดยผิดกฏหมาย”ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติของนายปราโมทย์ พบว่ามีประวัติเคยถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้งในลักษณะเดิมที่ชอบแต่งกายในชุดข้าราชการตำรวจ ในตำแหน่งยศนายตำรวจ ยศ พ.ต.อ. มักมีพฤติกรรมชอบแอบอ้างแต่งกายปลอมตัวไปหลอกลวงชาวบ้านและพระสงฆ์ตามวัดต่างๆทั่วภาคใต้ โดยชอบอ้างว่าจะขอเป็นเจ้าภาพทอดกฐินหรือทอดผ้าป่า แล้วหลอกเอาเงินล่วงหน้าจากทางวัด โดยอ้างเหตุผลว่าจะนำไปใช้เตรียมงานแล้วหลังจากนั้นก็เชิดเงินหนีหายไป สร้างความเดือดร้อนไปทั่วทั้งภาคใต้ จนมีผู้เสียหายแจ้งความจับกุมมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่ช่วงอายุ 40ปี และเมื่อพ้นโทษออกมาก็ยังคงมีพฤติกรรมเดิมโดยแต่งชุดตำรวจยศ พ.ต.อ.ออกตระเวนหลอกชาวบ้านอยู่ตลอด และถูกจับกุมดำเนินคดีตัดสินจำคุกเข้าออกเรือนจำอีกหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ยังไม่เข็ดหลาบ จนปัจจุบันนายปราโมทย์มีอายุถึง 65 ปีแล้วก็ยังมีพฤติกรรมหลอกลวงชาวบ้านในลักษณะดังกล่าวอยู่อีก จนมาถูกตำรวจทางหลวงจับกุมเข้าได้อีกครั้งจนได้ ซึ่งในครั้งดูเหมือนว่าจะถูกตั้งข้อหาในหลายคดี เนื่องจากมีผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาวหลายคนติดต่อเข้ามาเพื่อชี้ตัวว่าถูกนายปราโมทย์หลอกลวงว่าเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.อ.เชิดเงินเอาไปเป็นจำนวนมาก และอีกหลายๆคดีที่เจ้าพนักงานได้แจ้งข้อกล่าวหาไว้ ซึ่งดูท่างานนี้นายปราโมท น่าจะติดเอาหลายปีอยู่ คงจะสามารถยับยั้งยุติพฤติกรรมเดิมๆที่ชอบปลอมตัวเป็นนายตำรวจหลอกลวงประชาชนให้ได้รับความเสียหาย แถมถูกจับดำเนินคดีเข้าออกคุกตารางมาแล้วแบบนับครั้งไม่ถ้วนได้สักทีในคราวนี้อย่างแน่นอน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: