ชัยภูมิ – พบป่วยแล้วกว่า 126 ราย เตือนสั่งเฝ้าระวังเข้มในช่วงนี้หลังโรคไข้เลือดออกเริ่มกลับมาระบาดแล้วในหลายพื้นที่ จนปัจจุบันขณะนี้พบมีผู้ป่วยแล้วรวมกว่า 126 ราย พบมากที่สุดในเขตอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ,อำเภอภูเขียวและอำเภอเมืองชัยภูมิ ซึ่งถึงแม้จะยังไม่พบเสียชีวิต สาธารณสุขจังหวัดสั่งประสานทุกพื้นที่ช่วยกันเฝ้าระวังให้เข้มงวดมากขึ้น!
( 11 มิ.ย.61 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ ล่าสุดสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่ปีนี้ ด้าน นายแพทย์ภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยถึงการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิปีนี้มาจนถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา พบมีผู้ป่วยทั้งจังหวัดแล้วรวมกว่า 126 ราย กระจายอยู่ทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ
และพบมากที่สุดในอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ภูเขียว และอำเภอเมืองชัยภูมิตามลำดับ ที่ในช่วงนี้ถือว่าเริ่มมีการระบาดมากขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนมีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกพุ่งสูงกว่า 19 ราย กลุ่มอายุที่พบสูงสุด คือ กลุ่มอายุ 5-9 ปี รองลงมาคือ 10 – 14 ปี ซึ่งถึงแม้ว่าในขณะนี้จ.ชัยภูมิ ยังไม่พบมีผู้ป่วยเสียชีวิตแต่อย่างใด ก็ตามซึ่งขณะนี้จ.ชัยภูมิ ถือว่าพบมีผู้ป่วยเป็นอันดับที่ 4 ของเขตบริการสุขภาพที่ 9 นครราชสีมา
จึงได้มีการสั่งประสานไปยังทุกพื้นที่แล้ว เพื่อให้ช่วยกันเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดช่วยกันให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดไปมากกว่านี้ให้ได้ในปีนนี้ โดยจะมีทีมชุดเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้เลือดออก โดยทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ระดับอำเภอ วิเคราะห์และติดตามสถานการณ์โรคไข้เลือกออกรายสัปดาห์และสรุป แจ้งผู้เกี่ยวข้องทุกระดับ ทุกหน่วยงานและสถานที่สำคัญต่าง ๆ ดำเนินกิจกรรม 5 ส 3 เก็บ ทุกวันศุกร์ การรณรงค์ทำงานแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ในช่วงฤดูกาลระบาด ของปีนี้ให้เน้นการสื่อสารให้ประชาชนมีการกำจัดลูกน้ำทุกหลังคาเรือนช่วยกันเข้มงวดให้มากขึ้น
และให้มีการสุ่มสำรวจค่าดัชนีลูกน้ำฯ ทุกหลังคาเรือน ที่น่าเป็นห่วงจะเป็นเด็กในสถานศึกษาต่าง ๆ จำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือในการป้องกัน ร่วมมือกันกำจัดลูกน้ำยุงลายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ไม่ให้มีน้ำขังตามกะโหลกกะลา เพื่อตัดวงจรการขยายพันธ์ของยุงลายพานะนำโรค และที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือจากการเฝ้าติดตามการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก พบว่ายุงลายมีพฤติกรรมการออกหากินทั้งตอนกลางวัน และกลางคืน มีผู้ป่วยตลอดทั้งปี และทุกวัยอายุ ซึ่งแต่เดิมจะพบในวัยเด็ก แต่ปัจจุบันทุกเพศวัยจะติดเชื้อโรคไข้เลือดออกได้ หากมีผู้ป่วยในบ้านมีไข้สูง กินยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลด ให้สงสัยไว้ก่อนอาจจะติดเชื้อไข้เลือดออกได้และรีบช่วยกันนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลพื้นที่ใกล้บ้านทันที
