ลูกจ้างร้านก๋วยเตี๋ยวหนีตาย หลังถูกชายเมาซึ่งมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน ขู่จะยิงทั้งร้าน เพียงเพราะผิดใจกับเพื่อนในกลุ่มที่มานั่งกินด้วย ทำให้ทั้งลูกค้าและลูกจ้างของร้านหนีตายกัน
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟตบุ๊ค ชื่อ Bank Original Mut ได้เผยแพร่ คลิปพร้อมระบุข้อความว่า “#ฝากแชร์หน่อยครับ คนเมามาอาละวาดที่ร้าน เขวี้ยงชามก๋วยเตี๋ยว ขู่จะยิงทั้งร้าน จากนั้นขับรถกลับไปเอาปืนมา เป็นปืนไทยประดิษฐ์ จะมายิงเด็กที่ร้านและ เล็งปืนใส่ลูกค้า เห็นหน้าชัดเจน เสียงชัด เหตุเกิดเวลาตี1 พิกัดถนนวัดศรีวารีน้อย เก่งจริงๆไอ้สัด #เมาแล้วเก่ง มีปืนก็ยิ่งเก่ง #หน้าชัดเสียงชัด ตำรวจคงตามตัวไม่ยาก ถ้าอยู่ร้านคงมีเรื่อง”
จากคลิปวีดีโอ ซึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด จะเห็นว่าภายในร้านก่อนเกิดเหตุพบว่า มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเกือบ 10 คน จำนวน 3 โต๊ะ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีโต๊ะของชายผู้ก่อเหตุที่มาทั้งหมด 4 คน ก่อนจะมีปากเสียงกันในกลุ่ม โดยหนึ่งในนั้นเป็นชายไทยอายุประมาณ 20-30 ปี สวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงขั้นสั้นหลากสี รูปร่างผอม ได้ลุกขึ้นยืนโวยวายและพยายามล้มเก้าอี้ของทางร้าน พร้อมชี้หน้าตะโกนด่ากราดทั่วร้าน จากนั้นไม่นานลูกจ้างของทางร้านก็ยกก๋วยเตี๋ยวมาเสริฟตามที่สั่งไว้ แต่ชายคนดังกล่าวไม่รับพร้อมต่อว่าและข่มขู่ จนลูกจ้างต้องเดินออกจากโต๊ะ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จนกระทั่งชายคนดังกล่าวขับรถจักรยานยนต์ออกจากร้านไป ผ่านไปได้ประมาณ 15 นาที ชายคนเดิมขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนกลับมาพร้อมเข้ามาสั่งก๋วยเตี๋ยวอีกรอบให้ใส่ถุง ก่อนจะชักปืนไทยประดิษฐ์คาดว่าเป็นลูกซองสั้น ขึ้นมาจ่อหาลูกจ้างในร้านพร้อมขู่จะยิงจนทำให้ลูกจ้างต้องวิ่งหนีตาย จากนั้นจึงหันไปตะโกนขู่ยิงซ้ำกับลูกค้าที่กำลังนั่งทานก๋วยเตี๋ยวในร้านจนต้องหนีตายอีกเช่นกัน
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 11 มิถุนายน 2561 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ร้านก๋วยเตี๋ยวดังที่ปรากฏในคลิป ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายวัดศรีวารีน้อย ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี สมุทรปราการ เพื่อพูดคุยกับเจ้าของร้านและลูกจ้าง จึงทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 11 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา
นายหนึ่งปฐพี พรหมงาม เจ้าของร้านเปิด เผยว่า เบื้องต้นตนเองได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.บางพลี แล้วพร้อมเรียกร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยหรืออาจไปก่อเหตุซ้ำกับคนอื่น ครั้งนี้เคราะห์ดีที่ไม่ลั่นไกปืน หากลั่นไกปืนขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าจะต้องบาดเจ็บหรือตายจากความเป็นนักเลงของเขาหรือไม่
ด้าน นายเดือน ลูกจ้างชาวกัมพูชา เล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนเองและภรรยาก็กำลังขายก๋วยเตี๋ยวตามปกติจนกระทั่งมีกลุ่มของผู้ก่อเหตุขับขี่รถมาจอดหน้าร้านและหนึ่งในกลุ่มได้เดินสั่งก๋วยเตี๋ยวทั้งหมด 4 ชาม พร้อมจ่ายเงินทันที ก่อนจะพากันไปนั่งที่โต๊ะเหมือนกับลูกค้าปกติทั่วไป ระหว่างที่ตนเองกำลังทำก๋วยเตี๋ยวเพื่อไปเสริฟให้กับกลุ่มผู้ต้องหา ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายที่โต๊ะเมื่อหันไปมอง พบว่าชายผู้ถือปืนมีปากเสียงกับกลุ่มเพื่อน ตนเองก็ไม่ได้สนใจและเอะใจอะไรจนนำเอาก๊วยเตี๋ยวไปเสริฟปกติ แต่ก็ถูกปฎิเสธและขู่ว่าจะกลับไปเอาปืนมายิงทั้งร้าน ซึ่งตนเองก็ไม่คาดคิดว่าจะย้อนกลับมาจริง ทั้งที่ตนเองและภรรยาไม่ได้ดุหรือต่อว่าหรือพูดอะไรกับชายผู้ก่อเหตุสักคำ
