เลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 7 ขอนแก่น เที่ยวนี้ไม่ใช่เดิมพันแค่การรักษาเก้าอี้ส.ส.ของเพื่อไทยให้เต็ม 8 จาก 10 ที่นั่งในขอนแก่นเท่านั้น แต่ยังวางแผนข้ามชอตกวาดเรียบสนามการเมืองท้องถิ่นเสริมฐานคนเสื้อแดงที่เคยกวาดเก้าอี้ส.ส.ทั้งจังหวัดมาแล้ว
การเอาจริงเอาจัง กินนอน ตะรอนลุยหาเสียงแบบเทหมดตักตามไร่ตามนาของ “หญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ชนิดที่ว่าบรรดาหัวหน้าพรรค แกนนำพรรคมีบทบาทเพียงตัวประกอบ
ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.แทน นวัธ เตาะเจริญสุข จากเพื่อไทยที่กลายเป็นอดีตส.ส.หลังถูกศาลสั่งประหารชีวิตจากคดีบงการฆ่าอดีตปลัดอบจ.ขอนแก่น มี 4 คน 4 พรรค
ธนิก มาสีพิทักษ์ เพื่อไทย เบอร์ 1
ข่าวน่าสนใจ:
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
- ชิง ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ส่อเดือด! นักการเมืองรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัว ท้าชนแชมป์เก่า
- น้องขวัญ นายก อบจ.นครพนม ลาออก ก่อนครบวาระ 3 วัน จ่อลงชิงป้องกันแชมป์
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
สมศักดิ์ คุณเงิน พลังประชารัฐ เบอร์ 2
พ.ต.อ.กิตติกูร กาญจนสกุล เสรีรวมไทย เบอร์ 3
สุทัศน์ ผลบุญ พัฒนาชาติ เบอร์ 4
บีบแคบเข้าตั้งแต่ได้เบอร์ จนถึงช่วงโค้งสุดท้ายก็เห็นสู้กันอยู่ 2 คน เป็น ธนิก กับสมศักดิ์
เป็นการสู้กันตัวต่อตัวระหว่างคนมัญจาคีรี กับคนหนองเรือ
เขตเลือกตั้งที่ 7 ขอนแก่น เป็นการแบ่งเขตแบบเต็มพื้นที่ 2 อำเภอ ประกอบด้วย อ.มัญจาคีรี ,อ.หนองเรือ และจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 13,278 คน แบ่งเป็นผู้มีสิทธิ อ.มัญจาคีรี 57,000 กว่าคน อ.หนองเรือ 73,000 กว่าคน
ธนิก คนมัญจาคีรีอดีตแกนนำคนเสื้อแดงขอนแก่น ที่ถูกกันไม่ให้ลงสมัครส.ส.เขต และถูกดันไปเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อตั้งแต่เลือกตั้งปี 2554 และยังโดนลูกถีบสกัดจากนวัธ เตาะเจริญสุข เจ้าของพื้นที่เขต 7 เพื่อไทยในการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 มีโอกาสลงสู้ในสนามเขตแบบเต็มตัวหลัง อดิศร เพียงเกษเปิดทางให้สู้กับสมศักดิ์ คุณเงิน จากพลังประชารัฐที่ยืนรออยู่
ว่ากันว่าโผแรกที่มีชื่ออดิศร จะลงสู้กับสมศักดิ์ ที่จะเป็นการสู้กันเองของรุ่นเก๋าศิษย์เก่าลูกแม่โดมทำเอาทีมงานสมศักดิ์ค่อนข้างเบาใจ เพราะแม้ชื่อชั้นอดิศรจะไม่ธรรมดาและเป็นคนพื้นเพ อ.มัญจาคีรี แต่ก็รื้อพื้นที่ไปนานมาก
เมื่อเปลี่ยนตัวเป็นธนิก คู่ต่อสู้ที่เป็นคนรูปมวยเดียวกันกับสมศักดิ์ ในสไตล์”คบง่าย ใช้คล่อง”ทำเอาสมศักดิ์ต้องปรับกลยุทธ์รับมือมิใช่น้อย เพราะที่ผ่านมาช่วงหลังหลัง ๆ อดีตส.ส.5 สมัยอย่างสมศักดิ์ต้องสู้กับนวัธ ที่เน้นสไตล์ “ใจถึง พึ่งได้” จึงกลายเป็นมวยคนละทาง
ถึงธนิก มั่นใจว่าตนเองจะชนะฝั่งตรงข้ามด้วยคะแนนที่มากกว่าครั้งก่อนเพราะมีบรรดาแฟนคลับของพรรคเพื่อไทย รวมถึงตนเองเป็นคนในพื้นที่ที่คนรู้จักมาก มองว่าคะแนนไม่ใช่สูตรคณิตศาสตร์แต่ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า
แต่เอาเข้าจริงการวางหมากตั้งแต่ลงสมัครก็ล้วนมาจากนั่งนับเม็ดคะแนนจากฐานเสียงเดิม เพิ่มคะแนนจากฐานเสียงใหม่ทั้งนั้น และธนิกหลังจากต้องไปลงบัญชีรายชื่อก็ห่างพื้นที่ไปนานเช่นกัน
การไม่มีผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่และพรรคประชาชาติ พันธมิตรฝ่ายค้านนั่นสะท้อนชัดเจนว่าทุกเม็ดของคะแนนเสียงถูกกำหนดไว้เพื่อถ่ายเทเข้าเพื่อไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้
ส่วนสมศักดิ์ ที่เคยแพ้นวัธ ในการเลือกตั้ง 24 มี.ค. 3,000 คะแนน ก็ยังคาใจกับคะแนนเลือกตั้ง จากคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า 2,700 คะแนน แต่เป็นของ สมศักดิ์ เพียง 700 บัตรเสีย 5,500 ใบ เป็นบัตรที่กาเลือกสมศักดิ์ ร่วม 3,000 คะแนนที่ได้มา 26,000 เป็นคะแนนในเขต อ.หนองเรือ 15,000 ทั้งที่สถิติเลือกตั้งทุกสมัยเขาไม่เคยได้คะแนนในเขตอ.หนองเรือต่ำกว่า 20,000 คะแนน
เลือกตั้ง 24 มี.ค.นวัธ ได้ 29,745 คะแนน ฝ่ายสมศักดิ์ ได้ 26,553 คะแนน เป็นคะแนนที่สะท้อนความถดถอยของเพื่อไทยในพื้นที่ค่อนข้างชัดเมื่อเทียบกับการเลือกตั้ง ปี 2554 ที่เครือข่ายคนเสื้อแดงเฟื่องฟูสุดขีด นวัธกวาดคะแนนในเขต 7 ถึง 50,938 คะแนน ขณะที่จงรักษ์ คุณเงิน น้องชายของสมศักดิ์ที่ลงแข่ง ได้ 30,370 คะแนน
เป็นการชนะกว่า 2 หมื่น คะแนน แต่กลับมาทรุดฮวบในการเลือกตั้ง 24 มี.ค.62 ที่ชนะเพียง 3 พันคะแนน การที่ต้องชนะแบบเบ็ดเสร็จและจ่ายน้อยของเพื่อไทยจึงถูกกำหนดขึ้น
สมควร ไกรพน ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ ที่มีคะแนน 1.2 หมื่น และนาวิน คำเวียง ผู้สมัครพรรคประชาชาติที่มีคะแนน 9 พันกว่าไม่ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมย่อมส่งผลบวกกับเพื่อไทยเพราะคะแนนส่วนนี้ย่อมถูกถ่ายเทไปยังธนิก และที่สำคัญทั้งสองคนล้วนเป็นคนหนองเรือฐานที่มั่นใหญ่ของสมศักดิ์
ตรึงพื้นที่มัญจาคีรี โจมตีหนองเรือแบบจัดหนักให้สมศักดิ์ จากพลังประชารัฐปั่นป่วนนั่นเป็นยุทธศาสตร์ที่เพื่อไทยเร่งโหมแบบม้วนเดียวจบในขณะนี้
หญิงหน่อยลงทุนกินนอนที่วอร์รูม ในฐานที่มั่น อ.มัญจาคีรี ช่วงเช้าจะมีบรรดานักการเมืองท้องถิ่นทั้งบรรดา ส.อบจ., นายกเทศมนตรี, นายกอบต.ในท้องที่ 2 อำเภอในเขตเลือกตั้งและพื้นที่ใกล้เคียงเข้าพบ พร้อมกับให้ความมั่นใจว่าในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะมีขึ้นเพื่อไทยจะสนับสนุนเต็มที่ โดยมีหญิงหน่อยจะลงลุยช่วยหาเสียงทั้งในระดับตำบล,อำเภอเลยทีเดียว
นักการเมืองที่ต่างรับรู้ว่าการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเที่ยวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ต่างเปิดหน้าสู้ในระดับท้องถิ่นอย่างคึกคัก ใครไม่มีค่ายจึงไม่ง่ายที่จะชนะ ข้อเสนอจึงกลายเป็นความหวัง ถนนทุกสายช่วงนี้จึงมุ่งหน้าที่มัญจาคีรี
การดึงนักการเมืองท้องถิ่นให้ปรากฏตัวแทบทุกพื้นที่ในการหาเสียงของทีมหญิงหน่อยทำเอาคู่ต่อสู้หวาดผวาได้ไม่น้อย บรรดาหัวคะแนนฝ่ายพลังประชารัฐก็เริ่มแกว่งเพราะดูเหมือน “เขาไปทางนั้นกันหมด”
ยิ่งการโหมกระหน่ำทางสื่อโชเซียลแบบปูพรมถี่ยิบของเพื่อไทยโดยชูภาพหญิงหน่อย และธนิกที่เข้าถึงชาวบ้านทุกซอกทุกมุม กลายเป็นกระแสที่หลายคนที่เคยวิเคราะห์ว่าสมศักดิ์เป็นต่อ เริ่มลังเล
แต่นั่นมันเป็นเพียงกระแส
ความจริงคือชาวบ้านคิดและตัดสินใจอย่างไรต่างหาก
จุดแข็งของเพื่อไทยเป็นความต่อเนื่องในการทุ่มกำลังลงพื้นที่ทั้งทีมใหญ่ ทีมเล็กและการเกาะกุมนักการเมืองท้องถิ่น แต่จุดอ่อนเป็นปัญหาภายในที่ทีมอดีตส.ส.เก่า ฝ่ายนวัธ ที่ฐานเสียงใหญ่อยู่ที่อ.หนองเรือ เช่นเดียวกับสมศักดิ์ “เกียร์ว่าง” เพราะต่างก็รู้ว่านวัธ ยังคงสงวนพื้นที่ไว้สำหรับสจ.ตี๋ น้องชาย หรือลูกชายลงสมัครส.ส.แทน และอยู่คนละฝ่ายกับธนิกมาตลอด
หากปล่อยให้ธนิกชนะเลือกตั้งและตัวเองยังต้องคดีใหญ่โอกาสที่จะถูกเทคโอเวอร์ฐานเสียงระยะยาวจึงเป็นไปได้สูง
นักการเมืองท้องถิ่นที่ส่วนใหญ่หนุนช่วยเพื่อไทย แม้จะช่วยดึงกระแสให้ฟูแต่ในอีกมุมก็อาจกลับเป็นจุดอ่อน เพราะนักการเมืองท้องถิ่นร้างเวทีเลือกตั้งมาถึง 8 ปี คนที่เคยเลือกตั้งชนะและตีตั๋วอยู่ยาวหลังคสช.ยึดอำนาจจำนวนไม่น้อยที่คะแนนผู้ชนะน้อยกว่าคะแนนของฝ่ายที่แพ้รวมกันในแต่ละพื้นที่
กลายเป็นแต้มของฝ่ายสมศักดิ์ ที่อยู่ในพื้นที่ตลอด ที่ใช้วิธีหาเสียงแบบไม่โฉ่งฉ่างตามเก็บตุน
เลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีคะแนนเลือกตั้งนอกเขต และเลือกตั้งล่วงหน้า ว่ากันสดๆ เฉพาะคนที่อยู่ จุดชี้ขาดจึงอยู่ที่ อ.หนองเรือ ที่มีจำนวนผู้มีสิทธิกว่า 7 หมื่น จากทั้งเขต 1.3 แสน และเป็นพื้นที่เขตโรงงานอุตสาหกรรมที่มีเสียงอย่างน้อย 1 หมื่นคน
ระหว่างกระแสเรียกร้องประชาธิปไตย กับกระแสรูดปรื๊ดที่เริ่มเข้าไปแทรกแทบทุกครัวเรือน ประกอบกับเป็นการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยวที่กระแสยังพอมีบวกมากกว่าลบของพลังประชารัฐ
ดูตามหน้าเสื่อระหว่างเพื่อไทยกับพลังประชารัฐจึงวัดกันที่ฝีมือล้วน ๆ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: