นครพนม – ผู้ว่าฯ ร่วมเผาศพ 2 แม่ลูก เหยื่อแก๊งขนกัญชาชน ดับฝันนักบอลทีมชาติ พ่อเด็กร่ำไห้ วอน สตช.ช่วยเหลือ เพื่อนหลั่งน้ำตาเล่นดนตรีอาลัยหน้าศพ
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ วัดมงคลบุรีศักดาราม บ้านอาจสามารถ ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม นายสมยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานในพิธีถวายผ้าไตร ประกอบพิธีฌาปนกิจศพ สองแม่ลูกที่เสียชีวิตกรณีเกิดอุบัติเหตุ ขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติขับรถยนต์ หลบหนีตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 ไปตามเส้นทางเลียบแม่น้ำโขงในเขตเทศบาลเมืองนครพนม และเกิดอุบัติเหตุเสียหลักชนรถจักรยานยนต์ สองแม่ลูกที่ขับอยู่ในเส้นทางดังกล่าว เยื้องจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นเหตุให้ นางสุรภา พิมพ์พานนท์ อายุ 46 ปี ชาวบ้าน ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม พร้อมลูกชาย คือ เด็กชายธนภัทร์ พิมพ์พานนท์ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.6 /2 โรงเรียนเทศบาล 4 นครพนม เสียชีวิตทั้งคู่ โดยเหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ภายหลัง ตำรวจได้ตรวจค้นจับกุม นายทศพร รัตนวงษ์ อายุ 25 ปี ชาว อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ซึ่งเป็นคนขับ รถยนต์ ยี่ห้อฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน กย 4474 อุบลราชธานี ตรวจค้นภายในพบมีกัญชา จำนวน 9 กระสอบ ตรวจนับได้ จำนวน 360 กิโลกรัม บรรทุกมาในรถ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดี ตามกฎหมาย โดยทางผู้ต้องหาสารภาพว่า ได้รับจ้างจากนายทุน เป็นเงิน จำนวน 50,000 บาท ทำหน้าที่ขับรถ ซึ่งทางตำรวจกำลังเร่งสอบสวนขายผลติดตามผู้ร่วมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยการประกอบพิธีฌาปนกิจศพตามประเพณี ในครั้งนี้ มี พลเรือตรี สมพงษ์ ศรอากาศ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 นายประเสริฐ อินทรัตน์ ผอ.สำนักงานคุมประพฤติและยุติธรรมตังหวัดนครพนม พ.ต.อ.ทีธัต อิ่มทั่ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ตลอดจน ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ญาติพี่น้อง เดินทางมาร่วมไว้อาลัย และให้กำลังใจ
สำหรับบรรยากาศการประกอบพิธีฌาปนกิจศพ เป็นไปอย่างโศกเศร้า ที่ต้องมาประกอบพิธีฌาปนกิจศพ พร้อมกันทั้ง 2 แม่ลูก อีกทั้ง นายอัมพรชัย พิมพานนท์ หรือหนุ่ม อายุ 46 ปี ผู้เป็นสามีและพ่อของผู้เสียชีวิต รวมถึงญาติ ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้น เพราะเป็นอุบัติเหตุที่เชื่อมโยงมาจากการปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามจับกุมขบวนการค้ากัญชาของตำรวจชุดสืบสวน และเป็นต้นเหตุของการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต โดยในการประกอบพิธีครั้งนี้ ยังมีบรรดาเพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียนของ เด็กชายธนภัทร์ พิมพ์พานนท์ หรือน้องกัปตัน อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.6 /2 โรงเรียนเทศบาล 4 นครพนม รวมถึงคณะครูอาจารย์ เดินทางมาส่งดวงวิญาณเป็นวาระสุดท้าย เพราะน้องกัปตัน ถือเป็นนักเรียนดีเด่น มีความประพฤติเรียบร้อย เป็นที่รักใครของ เพื่อนและครูอาจารย์ ที่สำคัญยังเป็นความหวังของครอบครัว และโรงเรียน เนื่องจากเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษ ชอบเล่นกีฬาฟุตบอล และมีความสามารถด้านเล่นฟุตบอล ทำให้เป็นนักกีฬาฟุตบอลตัวแทนโรงเรียน เคยชนะเลิศเป็นตัวแทนระดับโรงเรียน ระดับจังหวัด และระดับภคอีสาน มาตลอด ทำให้หลายคน รวมถึงครอบครัว ผู้เป็นพ่อ คาดหวังว่าในอนาคตจะผลักดันให้ก้าวไปสู่นักกีฬาฟุตบอลอาชีพ และเป็นนักกีฬาทีมชาติ ตามความฝัน แต่ต้องมาดับสลาย เพราะเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งในครั้งนี้ เพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียน ได้ถือโอกาสเล่นดนตรี ร้องเพลงไว้อาลัย อำลาการจากไปของน้องกัปตัน จำนวนสองเพลง คือ เพลงโรงเรียนของหนู ของพี่ ปูพงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ และ เพลงเราและนาย ของ เสกโลโซ โดยทุกคนต่างร้องเพลงหลั่งน้ำตา ด้วยความอาลัย สร้างความหดหู่ให้กับ ผู้ร่วมงานเป็นหอย่างมาก
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- ม.นครพนม จัดประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ 19 ภายใต้หัวข้อ “บูรณาการ AI and Soft Power ในการบริหารภาครัฐ”
- ประชาชนแห่ เสกเหรียญหลวงปู่คำไหล ในพระมหาเจดีย์วัดดัง แห่ตีเลขน้ำตาเทียน หลังสาธุชนนับพันแห่ร่วมพิธี
- นายกเทศบาลตำบลนาคำ แจงเหตุต้องระงับเพลิงล่าช้า จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของชาวบ้าน
ด้าน นายอัมพรชัย พิมพานนท์ หรือหนุ่ม อายุ 46 ปี ผู้เป็นสามีและพ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันนี้ยอมรับยังทำใจไม่ได้ เกี่ยวกับการจากไปของภรรยา และลูกชาย สุดที่รัก แต่ต้องสู้ต่อไป เพื่อลุกชายคนโต อายุ 16 ขวบ ที่กำลังเติบโตในวันข้างหน้า ต้องขอขอบคุณสำหรับ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ผบ.นรข. ผอ.คุมประพฤติ รวมถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วย ที่ดูแลช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งวันนี้ถือเป็นการส่งวิญญาณ วาระสุดท้ายของ ภรรยาและลูกชาย ผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด ตนยืนยันว่า ถึงแม้จะเผาศพไปแล้ว แต่สิ่งที่ตนจะเดินหน้าต่อไปคือ การทวงคืนยุติธรรม ให้กับภรรยากับลูก เพราะไม่อยากให้เรื่องนี้จบเพียงแค่อุบัติเหตุ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องหันมามอง หาทางช่วยเหลือเยียวยา เพราะเป็นต้นเหตุส่วนหนึ่งของการสูญเสีย ไม่ว่าจะเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือเกิดจากความประมาทของคนร้าย สำคัญที่ต้องมีหน่วยงานรับผิดชอบครอบครัวของตน สิ่งสำคัญตนต้องการความกระจ่างให้ครอบครัว จะได้เรียกร้องให้ตำรวจ มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกจุด ที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบความชัดเจนของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ว่ามีที่ไปที่มาอย่างไร เพราะสถานที่เกิดเหตุ เป็นหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และหน้าบ้าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร. จึงขอให้ทางตำรวจ ทบทวน และให้ความเป็นธรรมดูแล เยียวยาตนมากกว่านี้ ไม่อยากให้ดูแลเพียงแค่การดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เพราะตนยังรับไม่ได้ที่จะต้องเรียกร้องกับขบวนการค้ายาเสพติด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: