ชัยชนะของ “สมศักดิ์”ทำรัศมี “เจ้หน่อย-อดิศร”หมองไปนะ…;นายหัวไทร
ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 7 อย่างไม่เป็นทางการ “สมศักดิ์ คุณเงิน” หมายเลข 2 พรรคพลังประชารัฐ ชนะ “ธนิก มาสีพิทักษ์” ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคเพื่อไทย ด้วยคะแนน 40,151 ต่อ 37,959…ห่างกัน 2,192 คะแนน
ไม่ต้องแปลความ คือสมศักดิ์ คุณเงิน จากพรรคพลังประชารัฐ เอาขนะธนิด มาสีพิทักษ์ จากพรรคเพื่อไทยไปสองพันกว่าคะแนน ทั้งๆ ที่ถิ่นนี้มีเพื่อไทยเป็นเจ้าถิ่นอยู่ก่อน สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 7 มีเพียงสองอำเภอเท่านั้น คืออำเภอมัญจาคีรี กับอำเภอหนองเรือ
กล่าวคือ อำเภอหนองเรือ คือถิ่นของสมศักดิ์ ส่วนมัญจาคีรี ถิ่นของธนิก ลุ้นกันตัวโก่งข่วงการนับคะแนนที่ออกมาค่อนข้างสูสี คะแนนจากพรรคเพื่อไทย ก็ระบุว่าธนิกมีคะแนนนำ ส่วนขาเชียร์พลังประชารัฐก็รายงานตัวเลขสมศักดิ์นำ
แต่เมื่อตัวเลขคะแนนจากอำเภอมัญจาคีรี ซึ่งเป็นถิ่นของธนิก ระบุว่า สมศักดิ์นำ เซียนการเมืองฟันธงทันทีช่วงทุ่มกว่าๆ ว่า สมศักดิ์ชนะ จนเวลาล่วงมาถึงสีทุ่มตัวเลขคะแนนเริ่มนิ่งที่สมศักดิ์นำอยู่ 2,000 กว่าคะแนน สมศักดิ์ออกมาบอกขอบคุณประชาชน เช่นเดียวกับสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ขอบคุณประชาชนที่เทคะแนนให้พลังประชารัฐ เพิ่มเสียงให้รัฐบาลอีก 1 เสียง
ฝ่ายแพ้การเลือกตั้ง ก็ยังดิ้นร้องเรียนต่อไป ทั้งเรื่องเจ้าหน้าที่ กกต.ไม่เป็นกลาง ลงคะแนนแทนกัน และอีกสารพัดเรื่อง ซึ่งก็มีการคาดการณ์กันก่อนแล้วว่า ถ้าเพื่อไทยแพ้ก็จะร้องเรียนว่าโกง ถ้าพลังประชารัฐชนะก็จะบอกว่า นี้คือเสียงสะท้อนผลงานรัฐบาล
แต่สิ่งสะท้อนอย่างหนึ่งในความพ่ายแพ้ของเพื่อไทย ในฐานแชมป์เก่า คือต่อไปนี้บทบาทของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย จะเป็นอย่างไร บทบาทของอดิศร เพียงเกษ จะเป็นอย่างไร เพราะทั้งสองได้ทุ่มกับการหาเสียงเต็มที่ แต่แพ้การเลือกตั้ง ยุทธวิธีของอดิศร เจ้หน่อยที่เน้นการปราศรัย ไม่ควัก เป็นยุทธวิธีที่ถูกต้องหรือไม่ แต่อย่างน้อยความพ่ายแพ้ของเพื่อไทย ทำให้เสียงของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่เงียบหายไปพักหนึ่งจะดังขึ้น
ส่วนพรรคพลังประชารัฐ เสียงของ “เอกราช ช่างเหลา” เจ้าพ่อวงการสลากกินแบ่ง จะดังขึ้น เขาปรากฏตัวทันที พร้อมชูมือในชัยชนะให้สมศักดิ์ ทั้งๆ ที่ข่วงหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเอกราชถูกขีดวงจำกัดบทบาท ไม่ให้ปรากฏตัวต่อสาธารณะ เพราะข้างหลังมีแผลมาก
กล่าวสำหรับสมศักดิ์ คุณเงิน เป็นชาว อ.หนองเรือ โดยกำเนิด เขาเข้ามาเรียนนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 สมศักดิ์ร่วมกับอดิศร ในนามชมรมนักศึกษาอีสาน มธ. ก่อตั้งสหพันธ์นักศึกษาอีสานแห่งประเทศไทย ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ระหว่างปี 2517-2519
เมื่อจบนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ สมศักดิ์ไม่ได้เข้าป่าเหมือนเพื่อนๆ แต่เขาไปทำงานที่การประปานครหลวง ในยุคที่ อารมณ์ พงศ์พงัน เป็นผู้นำสหภาพแรงงานการประปาฯ
ปี 2523 สมศักดิ์กลับมาบ้านเกิด อ.หนองเรือ ตั้งสำนักงานทนายความ “ไชโยทนายความ” และลงเลือกตั้งท้องถิ่น ได้เป็น ส.จ.ขอนแก่น (เขต อ.หนองเรือ)
ปี 2529 สมศักดิ์ลงเลือกตั้ง ส.ส. ในยามพรรคกิจประชาคม แต่พ่ายทีมพรรคกิจสังคม (สุวิทย์ คุณกิตติ และพงส์ สารสิน)
ปี 2531 สมศักดิ์เบียดเข้าเป็น 1 ใน 3 ส.ส.ขอนแก่น เขต 4 ได้เป็น ส.ส.สมัยแรก ร่วมกับสุวิทย์ คุณกิตติ และเจ้าสัวโค้ก-พงส์ สารสิน
เมื่อเข้าสภาฯ สมศักดิ์จับกลุ่มเพื่อน ส.ส. “คนเดือนตุลา” โดยมี “พินิจ จารุสมบัติ” เป็นแกนนำ เมื่อพินิจไปสังกัดพรรคสามัคคีธรรม ก่อนจะแยกตัวมาตั้งพรรคเสรีธรรม และยุบพรรค แล้วควบรวมพรรคไทยรักไทย สมศักดิ์ย้ายพรรคตามเพื่อนรักไปทุกครั้ง
หลังรัฐประหาร 2549 สมศักดิ์ตามไปเป็นกองเชียร์พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ตามคำชักชวนของเพื่อนรักพินิจ จารุสมบัติ
เลือกตั้งปี 2550 นวัธ เตาะเจริญสุข สวมเสื้อพรรคพลังประชาชน และได้เป็น ส.ส.ขอนแก่น ส่วนสมศักดิ์ต้องเว้นวรรค เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกยุบ สมศักดิ์ต้องผันตัวเองไปเลี้ยงวัวอยู่พักหนึ่ง
เลือกตั้งปี 2554 สมศักดิ์ อดีต ส.ส.ขอนแก่น ส่งพี่ชาย-จงรักษ์ คุณเงิน พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ลงสนามแทนตัวเขา แต่ก็พ่ายกระแสเพื่อไทยไปขาดลอย
กระทั่งเลือกตั้ง ส.ส.ขอนแก่น 24 มีนาคม 2562 เขตเลือกตั้งที่ 7 (อ.หนองเรือ และ อ.มัญจาคีรี) สมศักดิ์พ่ายนวัธแบบไม่น่าแพ้
ช่วงว่างเว้นการเมือง สมศักดิ์จับงานภาคประชาชนในนามประธานมูลนิธิน้ำเพื่ออีสาน และประธานสภาเกษตรกร จ.ขอนแก่น เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน
เมื่อนวัธโดนคดีจ้างวานฆ่าปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น และศาลฏีกาตัดสินจำคุกนวัธสนามจึงเปิดให้สมศักดิ์อีกครั้ง แต่เขาต้องมาเจอกับธนิก ที่มีอดิศร เพียงเกษ(เพื่อนรัก) คอยให้การช่วยเหลือเพราะแยกกันอยู่คนละพรรค สมศักดิ์ก็เจอศึกหนักอึกครั้ง แต่ถึงที่สุดแล้วสมศักดิ์ก็เดินก้าวผ่านเข้าสภา เพิ่มมือให้รัฐบาลได้อีกครั้ง
ชัยชนะของพลังประชารัฐ กำลังท้าทายยิ่งสำหรับการเลือกตั้งซ่อม เขต 8 สมุทรปราการ ที่กรุง ศรีวิไล โดนสอย ว่าพลังประชารัฐจะจับมือกับชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม รักษาฐานเมืองปากน้ำไว้ได้หรือไม่ เพื่อพิสูจน์ว่าคะแนนที่ได้มาจากขอนแก่นเป็นผลมาจากผลงานรัฐบาล
ด้วยความเคารพ
นายหัวไทร
23 ธันวาคม 2562
