ชัยภูมิ – ชาวบ้านเริ่มผวามีกลุ่มหัวขโมยแสบออกอาละวาดหนักชุมยิ่งกว่ายุง เพียงแค่ 2 วันติดต่อกันที่ผ่านมา เกิดเหตุแอบงัดบ้านเรือนประชาชนเสียหายไปแล้วนับสิบรายติดต่อกัน เร่งระดมชุดไล่ล่าต่อเนื่อง!
( 24 ธ.ค.62 ) ที่จ.ชัยภูมิ เกิดเหตุมีหัวขโมยแสบออกอาละวาดเหิมหนักแอบงัดบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่เขตอำเภอเมืองชัยภูมิ ในช่วง 2 วันติดต่อกันที่ผ่านมามีชาวบ้านถูกงัดบ้านเรือนเสียหายรวมนับ 10 หลังคาเรือน หลังตั้งแต่ช่วงค่ำถึงกลางดึกวานนี้ที่ผ่านมา ร.ต.อ.อัศวิน พรหมนอก รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจากทาง 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีเหตุงัดแงะบ้านเรือนประชาชน ภายในหมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ ในชุมชนโนนสาทร หมู่ 4 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดสรร มีบ้านเรือนประชาชนติดกันอยู่กว่า 10 หลัง จุดเกิดเหตุบ้านหลังแรกเป็นบ้านเลขที่ 32/34 หมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ มีชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมาก และ มีเจ้าของบ้านชื่อน.ส.อนุภา พรโสพิณ อายุ 35 ปี อาศัยบ้านหลังดังกล่าวยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่และมีเจ้าของบ้านอยู่ติดกันกับผู้เสียหายอีกหลังเลขที่ 32/43 ก็ได้เดินทางมาร่วมยืนรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่ว่าโดนงัดบ้านเหมือนกัน
สอบถามไปยังน.ส.อนุภา พรโสพิณ หนึ่งในชาวบ้านผู้เสียหายที่ถูกหัวขโมยแสบครั้งนี้แอบงัดบ้านเล่าว่า ตนเองไม่ค่อยได้อยู่บ้าน เนื่องจากต้องไปขายของที่ตลาดบ้านค่าย ห่างจากตัวเมืองหลายกิโล แต่จะมาดูบ้านอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งช่วงค่ำได้รับโทรศัพจากเพื่อนบ้านข้างๆที่อยู่ติดกันและเป็นผู้เสียหายได้โทรไปบอกบ้านตนมีขโมยได้งัดหน้าต่างเข้ามาขโมยของภายในบ้าน จึงรีบมาดูพบข้าวของในบ้านถูกรื้อค้นกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ภายในห้องนอนยังพบถูกรื้อค้นตู้เสื้อผ้า ลิ้นชักรื้อค้นเกลื่อน บานหน้าต่างด้านหลังบ้านถูกงัดและเปิดอยู่ จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเข้ามาตรวจสอบ
พอเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบก็ได้แจ้งว่าบ้านหลังของตนเป็นหลังที่อยู่ติดกันกับผู้เสียหายที่โทรบอกอีกหลัง แต่หลังแรกนั้นขโมยไม่สามารถเข้าไปในบ้านได้ เนื่องจากมีเหล็กดัดติดเต็มบ้าน แต่หัวขโมยรายนี้ได้กระโดดข้ามมางัดต่อที่บ้านของตนเอง ส่วนทรัพย์สินที่หายมีหลายรายการ ที่ต้องขอตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้งว่ามีอะไรหายไปบ้าง ซึ่งหัวขโมยแสบรายนี้ยังทิ้งร่องลอยรองเท้าไว้ตามเก้าอี้ โต๊ะ และ บริเวณกำแพงข้างบ้านเป็นจำนวนมาก
ในขณะที่วันเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งอีกว่ามีเหตุหัวขโมยแสบแอบงัดแงะภายในห้องเช่าเลขที่ 25/7 หมู่ที่ 14 บ้านขี้เหล็กน้อยปราค์งกู่ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุเพิ่มเติมอีกราย พบมีการงัดแงะเข้าประตูด้านหลังห้องพัก โดยมีน.ส.คำปาง ทามะ อายุ 43 ปี ผู้เช่าห้องรายดังกล่าวยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองได้มาเช้าห้องอยู่เพื่อใว้พักผ่อนหลังเลิกงาน วันนี้กลับจากที่ทำงานพบด้านหลังห้องถูกงัด โดยภายในห้องนอนถูกรื้อค้นได้รับความเสียหาย และ มีกล้องถ่ายภาพมูลค่า 7,000 บาทหายไป
ซึ่งด้านผู้สื่อข่าวยังได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงติดต่อกันในระหว่าง 2 วันที่ผ่านมา มีเหตุการณ์รับแจ้งมีหัวขโมยแสบออกอาละวาดหนัก ในพื้นที่เขตอ.เมืองชัยภูมิ แอบงัดบ้านเรือนประชาชนและตามหอพักต่างๆได้รับความเสียหายรวมแล้วนับ 10 ครั้ง/หลังคาเรือน โดยมีทั้งในหอพักบ้านกกบกเก่า ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ได้ทองคำไป 1 บาทและเงินสดอีก 1,000 ครั้งที่ 2 งัดบ้านเรือนประชาชนภายในชุมชนเมืองเก่า ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ กวาดเงินสดไปเกือบ 2 หมื่นและทอง 2 บาท ครั้งที่ 3 ในชุมชนบ้านบุ่งคล้า เจ้าตัวไม่แจ้งความเนื่องจากไม่มีทรัพย์สินเสียหายมาก
และครั้งที่ 4 ชุมชนกกบกเก่า ซอย5 และเช้าวันนี้ยังได้รับแจ้งว่ามีขโมยเข้าไปงัดเอาพระสมเด็จไปอีก 1 องค์ ในท้องที่ สภ.เมืองชัยภูมิ ที่มีกลุ่มหัวขโมยแสบออกอาละวาดสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก และอยากให้เจ้าหน้าตำรวจช่วยเร่งจับตัวกลุ่มหัวขโมยแสบครั้งนี้ ที่เพิ่งเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในครั้งนี้ให้ได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครได้อีก
ด้านร.ต.อ.อัศวิน พรหมนอก รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ เองยอมรับว่าในช่วงนี้มีกลุ่มหัวขโมยแสบเข้ามาอาละวาดงัดบ้านเรือนประชาชนเสียหายนับหลายรายต่อเนื่องตลอดช่วง 2 วันที่ผ่านมา หลังได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุทั้งหมดทุกแห่งแล้ว จะได้เร่งให้เจ้าหน้าที่. สืบสวนเข้ามาช่วยเร่งคลี่คลายคดีครั้งนี้ให้ได้โดยเร็ว และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพิ่มเติมเพื่อหาตัวกลุ่มหัวขโมยแสบครั้งนี้ ว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้ตามกฎหมายต่อไป
