นครพนม – วันที่ 19 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีกลุ่มนักเรียนพร้อมผู้ปกครองและครูโรงเรียนนาหว้าพิทยาคม(ธาตุประสิทธิ์ประชานุเคราะห์) อ.นาหว้า จ.นครพนม ลุกฮือขับไล่นายอร่าม คูสกุลรัตน์ ผู้อำนวยการฯ ทั้งที่เข้ามารับตำแหน่งยังไม่ทันถึงเดือน ก็สร้างความแตกแยกและความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยยื่นหนังสือถึงนายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.ฯ ผ่านศูนย์ดำรงธรรม และนายปริญญา ธรเสนา ศึกษาธิการจังหวัดฯ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.(วานนี้)
ล่าสุด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 22 (สพม.22) มีนายฉัตรณรงค์ วงศ์พนารัตน์ นิติกร สพม.22 เดินทางไปสอบข้อเท็จจริงกับ นายณัฐพงษ์ อินอุเทน และ น.ส.พักตร์วิภา มูลศรีนวล นักเรียนชั้น ม.6/1 ผู้เป็นแกนนำในการขับไล่นายอร่าม โดยใช้ห้องประชุมดอกหว้าเป็นที่สอบสวน โดยในช่วงเช้ามีตัวแทนนักเรียนและครูจากโรงเรียนนางัวราษฎร์รังสรรค์ ซึ่งเป็นโรงเรียนเดิมก่อนนายอร่ามจะย้ายรับตำแหน่ง นำช่อดอกไม้มามอบเป็นกำลังใจแก่นายอร่ามที่หน้าห้องทำงาน
ในการสอบสวนข้อเท็จจริง 2 แกนนำได้ให้ปากคำว่า หลังนายอร่ามย้ายมารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ผ่านมา ก็เริ่มสร้างความเดือดร้อนแก่นักเรียนคือ 1.สั่งยุบ เลิก กิจกรรมธนาคารโรงเรียน(ธ.ออมสิน) โดยไม่หารือผู้ที่เกี่ยวข้อง และอ้างอิงคำสั่งโรงเรียนที่ 135/2561 ไม่มีงานธนาคารในคำสั่งการปฏิบัติหน้าที่ ขณะนี้ธนาคารได้หยุดฝากถอนแล้ว
2.สั่งย้ายห้องสภานักเรียน เพื่อใช้เป็นห้องทำงานของ ผอ. ซึ่งสภานักเรียนได้สร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนแห่งนี้ ปี 2556 โดยได้รับรางวัลต้นแบบสภานักเรียนระดับประเทศมาครอง เมื่อมีการย้ายห้องสภาฯก็ไม่มีห้องประชุมเป็นของตนเอง ต้องไปอยู่รวมกับห้อง รด.และลูกเสือ ซึ่งมีความคับแคบมาก ขณะเดียวกันมีโรงเรียนอื่นมาศึกษาดูงาน ทางสภานักเรียนก็ไม่พร้อมจะเป็นต้นแบบ เนื่องจากห้องได้ถูก ผอ.ยึดไปเป็นห้องทำงานส่วนตัวแล้ว
3.โครงการขายน้ำแลกเกรด เป็นโครงการที่ ผอ.ไม่พิทักษ์ผลประโยชน์ของโรงเรียน สั่งงดร้านจำหน่ายน้ำ แล้วตนเองจัดการขายเองโดยใช้พื้นที่สหกรณ์โรงเรียน และไม่มีความโปร่งใสในเรื่องการจำหน่าย ที่น่าตกใจตรงที่ ผอ.ใช้นักเรียนที่มีประวัติโดดเรียน หนีเรียน หากไม่อยากเข้าเรียนก็ไปนั่งขายน้ำทั้งวัน จากนั้นก็ไปขอเกรดกับครูแต่ละวิชา ตัดสินผลการเรียนได้เลย
และ 4.พูดจาดูถูกดูแคลนรางวัลโรงเรียนพระราชทาน ซึ่งเป็นรางวัลที่คนทั้ง อ.นาหว้า ต่างภาคภูมิใจ โดยมีคลิปเสียงที่ ผอ.กล่าวในที่ประชุม และหลังจากนายอร่ามเข้ารับตำแหน่งก็สร้างความแตกแยก จนนักเรียนบางคนทนไม่ไหวจึงโพสข้อความตำหนิการทำงานของ ผอ. ลงในเฟซบุ๊ค ต่อมาถูกนายอร่ามไปแจ้งความดำเนินคดีใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์กับนักเรียนจำนวน 10 กว่าคน หนึ่งในนั้นคือนายณัฐพงษ์แกนนำนักเรียนที่เดินขบวนขับไล่นายอร่าม โดยถูกแจ้งความวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ในข้อหาหมิ่นประมาท และผิด พ.ร.บ.คอมฯ แต่ยังไม่ได้ไปให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหว้า ยิ่งทำให้ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนไม่พอใจ จึงมองว่านายอร่ามรังแกแม้กระทั่งลูกศิษย์ของตน การสอบสวนเสร็จสิ้นประมาณ 12.00 น. โดยนายฉัตรณรงค์ฯนิติกร กล่าวแก่เด็กนักเรียนทั้งสองว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่มาพบอีกครั้ง และจะพิทักษ์ความยุติธรรมแก่นักเรียน
ด้านนายปริญญา ธรเสนา ศึกษาธิการจังหวัดฯ เปิดเผยว่าหลังทราบเรื่องได้มีคำสั่งให้ สพม.22 ลงพื้นที่เป็นการเร่งด่วน ซึ่ง นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจฯ ไม่สบายใจในเรื่องที่เกิดขึ้น และต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
จากแหล่งข่าวเผยว่า นายอร่ามกับอดีต ผอ.คนเก่า เดิมเป็นเพื่อนสนิทกันมาก ถึงขั้นลงทุนรวมหุ้นเปิดเต็นท์รถยนต์มือสองที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ภายหลังมีปัญหาด้านผลประโยชน์จึงฟ้องร้องต่อศาล ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นศัตรูกัน โดยแหล่งข่าวยืนยันว่านายอร่ามก็มีผลงานเด่นสมัยอยู่ที่โรงเรียนเดิม หากไม่มีอคติส่วนตัวน่าจะพัฒนาโรงเรียนแห่งนี้ได้ดี
รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า หลังเจ้าหน้าที่ สพม.22 สอบสวนเด็กนักเรียนเสร็จเรียบร้อย ก็ขับรถตู้ออกจากโรงเรียนไป มีผู้ปกครองพบเห็นรถคันดังกล่าวไปจอดอยู่ที่หน้าบ้านของนายอร่าม โดยเข้าไปทำอะไรนั้นไม่มีใครทราบ แต่เข้าไปนานนับชั่วโมง จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน จึงทำให้ไม่มั่นใจในความโปร่งใสของผู้มาสอบปากคำเด็กนักเรียน
