นครพนม – เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561 บริเวณหน้า สภ.เรณูนคร จ.นครพนม พ.ต.อ.วรเพชร เพชรบรม ผกก.ฯ พร้อมด้วย นายสุรสิทธิ์ รัตนพันธ์ โทรศัพท์จังหวัดนครพนม ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง แถลงข่าวการจับกุมแก๊งแสบ ตระเวนขโมยตัดสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ ในพื้นที่ของ จ.นครพนม สร้างความเสียหายให้กับหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมปีละหลายล้านบาท ในช่วงเดือนที่ผ่านมา(พ.ค.61) ถูกคนร้ายลักลอบตัดสายไฟฟ้าไปขาย มีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท จึงร่วมกันสืบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุ
กระทั่งล่าสุดตำรวจได้สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 ราย ขณะร่วมกันตระเวนขโมยตัดสายโทรศัพท์ในพื้นที่ อ.เรณูนคร มี 1.นายวีรศักดิ์ พุทธวงศ์ อายุ 28 ปี 2.นายนเรศ ศรราม อายุ 33 ปี 3. นายวัชระ ปัดสำราญ อายุ 25 ปี และ 4.นายศุภกิจ ศรีสมบัติ อายุ 19 ปี ทั้งหมดเป็นชาว ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยตรวจยึดของกลางเป็นสายโทรศัพท์ สายเคเบิ้ลอินเตอร์เน็ต รวมค่าความเสียหายคิดเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท พร้อมยึดรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่น ไทรทัน สีขาว ทะเบียน ผต 7600 อุดรธานี และรถจักรยานยนต์ อีก 1 คัน
พ.ต.อ.วรเพชร เพชรบรม ผกก.สภ.เรณูนคร เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่าแก๊งดังกล่าวทำกันเป็นขบวนการ พฤติการณ์จะเดินสายไปในพื้นที่ต่างๆ พอสบโอกาสปลอดคนจะทำการตัดสายโทรศัพท์ รวมสายเคเบิ้ล ที่เป็นไส้ลวดทองแดง หลังจากนั้นจะมีการนำไปรวบรวมเผาไฟเอาทองแดงด้านใน ก่อนนำไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า ราคาซื้อขายประมาณกิโลกรัมละ 150 บาท แล้วนำเงินมาแบ่งกัน ซึ่งตำรวจจะเร่งสอบสวนขยายผล ติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี และประสานกับร้านรับซื้อของเก่าให้ร่วมตรวจสอบ แต่หากพบว่ามีร้านรับซื้อของเก่า มีส่วนรู้เห็นก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
นายสุรสิทธิ์ รัตนพันธ์ โทรศัพท์จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาการลักขโมยสายโทรศัพท์ ถือเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความเสียหายให้กับหน่วยงานองค์การโทรศัพท์เป็นอย่างมาก เพราะมีแก๊งมิจฉาชีพ เดินสายตระเวนตัดสายโทรศัพท์ สายเคเบิ้ล นำทองแดง ไปขายร้านรับซื้อของเก่าในราคาไม่กี่บาท แต่มูลค่าความเสียหายจริงๆหลายเท่า ในรอบปีที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพื้นที่ จ.นครพนม มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 1 ล้านบาท แม้ทางตำรวจมีการสืบสวนจับกุมบ่อยครั้ง แต่ยังมีการกระทำผิดต่อเนื่อง รวมถึงครั้งนี้ขอขอบคุณทางตำรวจ สภ.เรณูนคร ที่สามารถสืบสวนจับกุมได้ ส่วนหนึ่งอยากฝากขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชน ช่วยเป็นหูเป็นตาหากพบเห็นแจ้งเบาะแสเจ้าหน้าที่ทันที เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้
