กสทช. ลงพื้นที่ตรวจสอบการให้บริการรถไฟฟ้า BTS ช่วงเวลาเร่งด่วน 2 ก.ค.นี้ หลังทำการแก้ไขระบบไฟ้า เปลี่ยนอุปกรณ์ระบบอาณัติสัญญาณ ขยับช่องสัญญาณความถี่จาก 2400 ไปใช้ 2480-2495 เมกะเฮิรซ์ ซึ่งภายหลัง TOT ได้โพสต์ชี้แจงระบุว่า คลื่นแต่ละช่วงจะไม่ส่งผลรบกวนกันหากมีระบบป้องกัน
จากกรณี รถไฟฟ้าบีทีเอส เกิดเหตุขัดข้องจากระบบอาณัติสัญญาณ และถูกรบกวนจากคลื่นวิทยุความถี่สูง ทำให้ต้องหยุดเดินรถส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
วันที่ 30 มิ.ย.61 มีรายงานว่า สำนักงาน กสทช.ร่วมกับ กทม. บีทีเอส ทีโอที และดีแทค จะลงพื้นที่ตรวจการให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสสีเขียวว่า สามารถให้บริการประชาชนในช่วงเวลาเร่งด่วน ในเช้าวันจันทร์ที่ 2 ก.ค.นี้ ได้ตามปกติหรือไม่ หลังจากได้ทำการแก้ไขระบบรถไฟฟ้า เปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบอาณัติสัญญาณแล้วเสร็จ
ขณะที่ ทีโอที และ ดีแทค ได้ปิดเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ คลื่นความถี่ 2300 เมกะเฮิรตซ์ สถานีตามแนวทางเดินรถไฟฟ้า จำนวน 10 สถานี และบีทีเอสได้ขยับช่องสัญญาณความถี่จากเดิม จากคลื่นความถี่ช่วง 2400 เมกะเฮิรตซ์ ไปใช้ความถี่ย่าน 2480-2495 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อให้ห่างจากคลื่นความถี่ 2300 เมกะเฮิรตซ์ ของทีโอทีและดีแทค
โดยการตรวจสอบจะแบ่งออกเป็น 2 ช่องทาง เริ่มจากการตรวจสอบการให้บริการ จากสำนักงาน กสทช.ไปยังสถานีสยาม สิ้นสุดที่สถานีพร้อมพงษ์ ก่อนจะย้อนกลับเริ่มจากสถานีพร้อมพงษ์ ไปสิ้นสุดที่สถานีรถไฟฟ้าอารีย์
ส่วนช่องทางที่ 2 สำนักงาน กสทช.จะส่งรถตรวจสอบสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุ และการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไปตามแนวสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวคู่ขนานกัน
ทั้งนี้ เพื่อยืนยันว่า เมื่อปรับเปลี่ยนอุปกรณ์และย้ายตำแหน่งการใช้คลื่นความถี่ของระบบอาณัติสัญญาณ ตามคำแนะนำของสำนักงาน กสทช. แล้ว จะยังมีการรบกวนเกิดขึ้นอีกหรือไม่
ด้าน บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีรถไฟฟ้า BTS ขัดข้องว่า การใช้งานย่านความถี่ 2300 MHz ของ ทีโอที ไม่ได้ส่งคลื่นใด ๆ กระทบต่อ ระบบสื่อสารอาณัติสัญญาณ ของรถไฟฟ้า BTS แต่อย่างใด เพราะการใช้คลื่นความถึ่ในแต่ละช่วง จะไม่ส่งผลรบกวนซึ่งกันและกัน หากผู้ใช้ ย่านความถี่นั้น ๆ มีระบบป้องกันคลื่นรบกวน
อย่างไรก็ตาม ทีโอที หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทางรถไฟฟ้า BTS จะสามารถเร่งดำเนินการ เพื่อให้บริการ รถไฟฟ้าได้ตามปกติ เพื่อลดความเดือดร้อน ของประชาชนผู้ใช้บริการต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: