กรุงเทพฯ – สาธารณสุข เปิดเพจ ‘ลูกเล่น by ราชานุกูล’ แนะนำวิธีเล่นและเลี้ยงดูลูก ยกระดับสติปัญญาเด็กไทย ดึงพ่อ-แม่ รวมพลังปั้นอนาคตของชาติ ลดปัญหา ‘เด็กสมาธิสั้น-ซึมเศร้ารุนแรง‘
ในวันที่ 10 มกราคม 2563 นี้ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต และผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล จะร่วมกันเปิดงาน ‘วันเด็กแห่งชาติ’ ประจำปี 2563 ที่สถาบันราชานุกูล พร้อมชมการแสดงความสามารถของเด็ก กลุ่มที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา
เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพกลุ่มเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้ความสำคัญในเลี้ยงดูบุตรหลานด้วยตนเอง
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กำหนดยุทธศาสตร์ การพัฒนาประชากรไทยทุกช่วงวัย เพื่อเป็นพลังต่อการเจริญเติบโตของประเทศ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญต่อการดำเนินการด้านพัฒนาเด็กปฐมวัยที่เป็นช่วงแรกของชีวิตเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการมีนโยบายอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำหนดให้การดำเนินการในด้านนี้ เป็นความรับผิดชอบในระดับเขตสุขภาพและจังหวัด ผ่านคณะกรรมการอนามัยแม่และเด็ก (MCh Board)
โดยไม่ได้กำหนดกิจกรรม แต่กำหนดเป็นเป้าหมายไว้ 2 ประการ คือ การลดอัตราการตายของมารดา ซึ่งเป็นไปตาม MDG (millennium development goal) และเด็กมีพัฒนาการสมวัยไม่น้อยกว่าร้อยละ 85.8
ข่าวน่าสนใจ:
ในปี 2563 นี้ กระทรวงสาธารณสุข ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง ในการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาการเด็ก โดยการจัดระบบบริการอนามัยแม่และเด็กที่ได้มาตรฐานสากล และสร้างการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมคลอบคลุม ทั้งเด็กปกติ เด็กปวย และเด็กด้อยโอกาส
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขะ ระบุว่า เมื่อเด็กมีความพร้อมทางพัฒนาการและสติปัญญา กับการได้รับการศึกษาที่ดี จะมีโอกาสได้งานที่มีรายได้สูง มีโอกาสก้าวข้ามความยากจนได้สำเร็จ ซึ่งจะนำประเทศไทย บรรลุเป้าหมายสำคัญของแผนพัฒนาแห่งสหัสวรรษขององค์การสหประชาชาติด้วย ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ กรมสุขภาพจิต เร่งยกระดับสติปัญญาเด็กไทย ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการเลี้ยงดูเด็กเชิงบวก แก่ศูนย์เด็กเล็ก เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. และครูโรงเรียนอนุบาล เพื่อถ่ายทอดเทคนิคการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย แก่พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุน และผลักดันการดำเนินงาน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ครบ คลุมทั้ง 77 จังหวัด
ด้านนายแพทย์เกียรตภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า กรมได้สำรวจระดับความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) และระดับความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ของเด็กไทยทุก 5 ปี โดยระดับสติปัญญาของเด็กไทยเพิ่มขึ้นจาก 95.82 จุดในปี 2554 เป็น 98.23 จุด ในปี 2559 โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตั้งเป้าหมายพัฒนาระดับ IQ เด็กไทย เพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ในปี 2564
สำหรับระดับความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ของเด็กไทย ที่ต้องพัฒนา ได้แก่ ความมุ่งมั่นพยายาม การควบคุมอารมณ์ และการปรับตัวต่อปัญหา โดยเมื่อปี 2559 มีเด็กไทยร้อยละ 16.7 ที่ระดับอีคิวต่ำกว่าปกติ
อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยอีกว่า กรมสุขภาพจิตมีเจตนารมณ์พัฒนาเด็กและเยาวชน ให้เป็นคนไทย 4.0 เพื่อเป็นพลังพัฒนาประเทศ ซึ่งต้องมีสติปัญญาดี มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดแง่บวก และคิดทำประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่นและสังคม (Creation, Positive, Response to Society : CPR) คือ คิดเป็น คิดดี คิดให้ และเป็นสุข มุ่งเน้นการพัฒนาเด็กไทยให้มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเอง พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง แม้จะพบความล้มเหลว ก็ยังสามารถเรียนรู้เพื่อก้าวต่อไป และเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ อย่างมีความสุข สนุกกับชีวิต
ส่วนแพทย์หญิงมธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล เปิดเผยว่า สถาบันราชานุกูล ได้พัฒนาคู่มือจัดกิจกรรมการพัฒนาเด็กไทย ‘คิดเป็น คิดดี คิดให้’ ด้วยสายใยพันผูกขึ้นมา เพื่อส่งเสริมให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง พัฒนาการการเรียนรู้ของลูกผ่านการเล่นกับลูก โดยไม่จำเป็นต้องจัดหาของเล่น หรืออุปกรณ์การเล่นที่ราคาแพงหายาก จึงเปิดเฟชบุ๊กแฟนเพจ ‘ลูกเล่น by ราชานุกูล’ (Facebook : ลูกเล่น by ราชานุกูล) เป็นช่องทางสื่อสารแบบออนไลน์ ระหว่างประชาชนกับทีมสหวิชาชีพผู้มีความเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก นำเสนอแนวทางการเล่น และการเลี้ยงดูลูกให้เป็นเด็กไทย ‘คิดเป็น คิดดี คิดให้’ (CPR) ในรูปแบบคลิปวิดีโอที่สนุกสนาน ได้ความรู้ พร้อมเคล็ดลับจากกูรูพ่อแม่ที่น่าสนใจ มาแลกเปลี่ยนกัน ติดตามได้ที่ www.rajanukul.go.th Facebook : ลูกเล่น by ราชานุกูล https://www.facebook.com/rajanukul/
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: