สระแก้ว – ชาวบ้านวิจารณ์กันแซด เรียกร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการใช้งบประมาณ อบจ.สระแก้ว จัดงานวันเด็กปี 2563 สูงถึง 7.5 ล้านบาท ระบุสั่งซื้อกล่องข้าวแสนแพง ราคากล่องละ 155.15 บาท จำนวน 3,200 กล่อง เสนอให้แต่ละอำเภอแต่ละพื้นที่จัดงานเพื่อความสะดวกกับการเดินทางของเด็กและผู้ปกครอง ด้าน สจ.เมืองสระแก้ว ระบุ เป็นการบริหารงบประมาณที่ไม่โปร่งใส เป็นการซ่อนงบประมาณ ไม่ต้องการให้ สจ. และคนส่วนใหญ่ได้รับรู้ แอบดำเนินการกันแบบเงียบ ๆ เหลือเงินทอนกันเยอะ ๆ
เมื่อวันที่ 8 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องด้วยวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 ซึ่งตรงกับวันเด็กแห่งชาติ พื้นที่ จ.สระแก้ว มีการเตรียมจัดงานดังกล่าวเพียงแห่งเดียวที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว โดยมีการเชิญชวนให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานไปเที่ยวงานวันเด็กกันอย่างคึกคัก ซึ่งภายหลังมีการเผยแพร่ค่าใช้จ่ายและเงินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดงานดังกล่าว ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สตง. ร่วมกันตรวจสอบติดตามการใช้งบประมาณของ อบจ.สระแก้ว จากเดิมที่มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดงานวันเด็ก ที่ขอจากสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว จำนวน 2.5 ล้านบาท และล่าสุด จะมีการโอนงบดำเนินงานเพิ่มอีก 5.0 ล้านบาท โดยใช้อำนาจนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อใช้ในการจัดงานดังกล่าว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 7,500,000 บาท
ข่าวน่าสนใจ:
- วัสดุทำกระทงตรังราคาพุ่ง ดาวเรืองขึ้นราคาเท่าตัว ผู้ค้าตลาดเทศบาลนครตรังเงียบเหงา กัดฟันขายราคาเดิมหวั่นกระทบลูกค้า
- จับงูเหลือมยักษ์ขนาดใหญ่ยาวกว่า 4 เมตร เข้าร้านข้าวต้มชื่อดังกลางเมืองอรัญประเทศ
- เริ่มแล้ว แข่งเรือยาวพื้นบ้านในงานหลวงพ่อโสธรชิง 4 ถ้วยพระราชทาน
- ทุกข์ชาวสวน คนร้ายขโมยตัดปาล์มไม่หยุด หลังปาล์มราคาดี คุณตาวอนลานเทปาล์มอย่ารับซื้อของโจร
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวงานว่า กรณีดังกล่าวมีการโพสต์แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลายในโซเชียลมีเดีย ต้องการให้เปิดเผยรายละเอียดการใช้จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวว่า นำไปใช้อย่างไรบ้าง รวมทั้งเรียกร้องให้ผู้รับผิดชอบควรออกมาชี้แจง ว่างานที่งอกมาอีก 5.0 ล้านบาท จะเอาไปใช้อะไรบ้าง เนื่องจากไม่เคยมีการชี้แจงในสภา อบจ. ขณะที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ให้ข้อมูลว่า ทางหน่วยงานมีงบที่เข้าไปร่วมจัดงานดังกล่าวเพียง 40,000 บาทเท่านั้น
ล่าสุด ทางเวปไซด์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ได้นำรายเอียดการจัดซื้อจัดจ้างบางส่วนในการจัดงานวันเด็กดังกล่าว มาลงไว้ในเพจ อาทิ ประกาศผู้ชนะการเสนอราคาการเช่าเต็นท์ จำนวน 103 หลัง เช่าเก้าอี้พลาสติก จำนวน 12,000 ตัว และเช่าโต๊ะสำหรับวางอาหาร จำนวน 150 ตัว สำหรับงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2563 โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งมีการเสนอราคาจำนวน 381,000 บาท เฉลี่ยค่าใช้จ่ายการเช่าเต็นท์และเก้าอี้สูงถึงตัวละ 31.75 บาท
นอกจากนั้น ในส่วนของประกาศผู้ชนะการเสนอราคาซื้อกล่องข้าว จำนวน 3,200 กล่อง สำหรับแจกเด็ก ๆ และผู้มาร่วมงานโครงการวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งผู้ได้รับงานดังกล่าวเสนอมาในราคา 496,480 บาท หรือราคากล่องข้าวที่ประมูลได้ตกราคาสูงถึงกล่องละ 155.15 บาท ขณะที่การประชาสัมพันธ์การจัดงานดังกล่าว แจ้งว่า ภายในงานจะมีการจัดนิทรรศการของส่วนราชการต่าง ๆ ภายใต้คอนเซฟ “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย” พบกับตลกชื่อดัง บอล เชิญยิ้ม และเกมส์โชว์ต่าง ๆ เล่นเกมส์ชิงของรางวัล มีอาหาร เครื่องดื่มและของแจกไว้บริการฟรีตลอดงาน ซึ่งรถประชาสัมพันธ์ตามพื้นที่ต่าง ๆ แจ้งอีกว่า ภายในงานจะมีการแสดงแสนยานุภาพ อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร รถแข่งออฟโรด จักรยานวิบาก ขี่ม้า เด้งดึ๋ง บ้านลม สุนัขสงคราม และสาธิตการดับเพลิง เป็นต้น
โดยภายหลังมีนำข้อมูลดังกล่าวมานำเสนอ ปรากฏว่า มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น การจัดงานแห่งเดียวลักษณะนี้ เด็กที่อยู่ห่างไกล เช่น ตาพระยา โคกสูง อรัญประเทศ คลองหาด วังสมบูรณ์ วังน้ำเย็น จะเดินทางมายังไง ไป-กลับเป็น 100 กิโลเมตร มีเงินมากขนาดนี้น่าจะจัดทุกอำเภอไม่ดีกว่าหรือ ลดค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง ไม่เสี่ยงอุบัติเหตุขณะเดินทาง ภาษีของคนสระแก้วทั้งนั้น รวมทั้งยังมองว่า วิสัยทัศน์ดังกล่าวของผู้บริหารมุมมองแคบ มองตื้นและบ้องตื้น ไม่มีครูโรงเรียนใด เขาจะถ่อนำเด็กมาร่วมด้วยหรอก เพราะที่ ร.ร.เขาจัดกันทุกที่ อีกทั้งเด็กทั้งโรงเรียนสามารถร่วมกิจกรรมได้ครบทุกระดับชั้น ทุกคน มันคุ้มไหมกับการพาเด็กมาไกลและแค่บางส่วน ถ้าเกิดอุบัติเหตุ ใครคนไหนกล้าหน้าแหลมมาช่วยครูและเด็ก ๆ บ้าง จัดที่โรงเรียนผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษาฯ เขาได้มีส่วนร่วมจัดกิจกรรมให้ลูกหลานเขา ครอบคลุมทั่วถึง มีงบประมาณมากมาย หากใจกว้างจริง ควรมอบออกไปใน 9 อำเภอ ยังดีกว่ามาสุมหัวกันจัดแบบนี้
ทางด้าน นายธวัชชัย โตจีน สมาชิกสภาจังหวัดสระแก้ว หรือ สจ.เขต อ.เมืองสระแก้ว กล่าวว่า โดยหลักของการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีของผู้บริหารท้องถิ่น คือเริ่มจากการค้นหาปัญหาของประชาชนในพื้นที่ โดยที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเสนอปัญหา ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ให้จัดทำแผนในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนและดำเนินการ หากเกินความสามารถขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ก็ประสานแผนมาที่ อบจ. และจัดทำแผน 4 ปี จากนั้นพิจารณาความสำคัญความจำเป็นเร่งด่วนและให้ทำโครงการบรรจุเข้าในร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี นำเสนอให้สภา อบจ.เห็นชอบ และประกาศใช้การดำเนินการโดยการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า กรณีการเพิ่มงบประมาณในหมวดค่าใช้สอย เป็นอำนาจนายกฯ โดยไม่ต้องผ่านสภาฯ หากเป็นหมวดพัสดุ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง การแก้ไขเปลี่ยนแปลง เป็นอำนาจของสภาฯโครงการบางโครงการอยู่ในหมวดค่าใช้สอย เช่น โครงการวันเด็กแห่งชาติ , โครงการอบรมต่างๆ , ฯลฯ แต่การโอนเงินเพิ่มโดยอำนาจนายกฯ ควรเกิดจากราคาสินค้าและบริการที่มีราคาเปลี่ยนแปลง งบประมาณที่ตั้งไว้ไม่เพียงพอ จึงต้องโอนเงินเพิ่ม เพื่อให้โครงการดำเนินไปได้ตามวัตถุประสงค์ แต่การเพิ่มปริมาณงาน เพิ่มงาน เพิ่มกิจกรรมและการเพิ่มเงิน โดยใช้วิธีโอนเงินงบประมาณ และไม่แจ้งสภา อบจ.ตรวจสอบ เป็นลักษณะการบริหารงานแบบไม่โปร่งใส เป็นการซ่อนงบประมาณ ไม่ต้องการให้ สจ. และคนส่วนใหญ่ได้รับรู้ แอบดำเนินการกันแบบเงียบ ๆ เหลือเงินทอนกันเยอะ ๆ งานวันเด็กแห่งชาติ อบจ.จัดเป็นประจำทุกปี รู้ถึงปริมาณงานและค่าใช้จ่ายตามที่เสนอให้สภาเห็นชอบ ซึ่งใช้งบประมาณในปี 63 จำนวน 2.5 ล้านบาท แต่การโอนงบประมาณเพิ่ม โดยใช้อำนาจนายกฯ มาอีก 5.0 ล้านบาท รวมเป็น 7.5 ล้านบาท จึงเป็นเหตุให้สงสัยในพฤติกรรมของนายกฯ ในการบริหารงาน
อย่างไรก็ตาม สำหรับรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 ของ อบจ.สระแก้ว จำนวน 720.577 ล้านบาทนั้น แยกเป็น งบกลาง 30.19 ล้านบาท, งบบุคลากร 275.21 ล้านบาท ,งบดำเนินงาน 321.10 ล้านบาท ใช้อำนาจนายกฯ ในการโอนเพิ่มโอนลด ,งบลงทุน 84.69 ล้านบาท ใช้อำนาจสภาฯในการเปลี่ยนแปลง ,งบอุดหนุนหน่วยงานอื่น 9.37 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ และโครงการอบรม อยู่ในหมวด งบดำเนินงาน เงินที่ตรวจสอบได้ยากจะอยู่ในงบดำเนินงาน เพราะรู้กันอยู่แค่ฝ่ายบริหารและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีการเก็บคืนแค่ 10 % มากกว่าปีละ 30 ล้านบาท ซึ่งกรณีของโครงการงานวันเด็กแห่งชาติแบบนี้ น่าจะเก็บคืนมากกว่า 10% เช่นกัน
———————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: