อุบลราชธานี – ลูกสาวทรพีหลอกแม่บังเกิดเกล้าไถ่ที่ดินมรดก 17 ไร่ ไปขายฝากนายทุนแบบขึ้นชั้น ล่าสุดเป็นหนี้เกือบ 1 ล้าน พ่อกับแม่รู้ภายหลังถึงกับพยายามฆ่าตัวตายเนื่องจากมีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็นหมดตัวและตรอมใจที่ลูกมาทำกับพ่อแม่ได้ถึงเพียงนี้
นางสามารถ ผดาศรี อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 5 ตำบลสหธาตุ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี และสามียืนกอดกันร่ำไห้ในพื้นที่นาจำนวน 17 ไร่ ที่ตกเป็นของนายทุน หลังนางยุพาภรณ์ ทองงาม ลูกในไส้ มาหลอกให้ไถ่ที่ดินถูกจำนองไว้กับธนาคาร ธกส.สาขาเขื่องในวงเงิน 1 แสน 4 หมื่นบาท ก่อนไปสัญญาขายฝากไว้กับนายทุนจนล่าสุดยอดหนี้เกือบ 1 ล้านบาท
นางสามารถ เปิดเผยว่าเมื่อประมาณต้นปี 62 นางสาวยุพาภรณ์ ทองงาม อายุ 36 ปี ลูกสาวในสายเลือดได้มาอ้อนวอนขอให้ตนนำเอาโฉนดที่ดินที่จำนองไว้กับธนาคาร ธกส.ออกมาจำนองกับนายทุนเพื่อหวังส่วนต่างไปลงทุนทำธุรกิจรับซื้อฟักทอง ด้วยความเป็นแม่เห็นว่าลูกสาวอยากลงทุนมีรายได้ตนเองก็จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงได้ยินยอมให้นายทุนที่ลูกสาวพามานำเงินไปไถ่ถอนโฉนดออกมาจากธนาคารจำนวน 200,000 บาท ทำสัญญาขายฝากเป็นชื่อของนายทุน วิทย์ (ขอสงวนชื่อนามสกุล) ที่สำนักงานที่ดินอำเภอเขื่องใน จำนวน 484,000 บาท ระยะเวลา 6 เดือน เมื่อวันที่ 7 มกราคม 62 แต่ด้วยยอดเงินที่ระบุไม่ตรงกับจำนวนเงินที่ตกลงตนจึงท้วงติงถึงยอดเงินดังกล่าว ลูกสาวก็บอกไม่มีปัญหาเขียนเผื่อไว้เฉยๆ
ต่อมาตนได้พยายามถามนางสาวยุพาภรณ์ว่า ได้ไปจ่ายเงินคืนหรือยังเพราะตัวเองไม่สบายใจที่โฉนดไปอยู่กับคนอื่น นางสาวยุพาภรณ์ บอกแต่เพียงว่าทยอยจ่ายไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 100,000 บาท รวม 200,000 บาท เหลือดอกเบี้ยอีก 30,000 บาท จะไปจ่ายที่สำนักงานที่ดินอำเภอเขื่องใน
ข่าวน่าสนใจ:
6 มีนาคม 62 นางสาวยุพาภรณ์ ได้พาตนไปที่สำนักงานที่ดินอีกครั้ง พร้อมทั้งนำเอกสารมาให้ตนเซ็นต์ โดยหลอกว่าเป็นเอกสารเพื่อไถ่ถอนโฉนดคืน ตนจึงยอมเซ็นต์ไปโดยไม่ได้อ่านมารู้ทีหลังว่าเอกสารที่เซ็นต์ไปวันนี้คือการเปลี่ยนนายทุนที่รับขายฝากคนเดิมเป็นนายทุนชื่อจิตร (ขอสงวนนามสกุล) ทั้งนี้วงเงินที่ทำสัญญาขายฝากก็เปลี่ยนจาก 484,000 บาท เป็น 767,000 บาท โดยที่ตนเองไม่ทราบและเข้าใจขั้นตอนการดำเนินการเพราะไม่มีความรู้อะไรเลย ประกอบสายตาก็ไม่ดีอ่านหนังสือไม่ค่อยเห็น
นางสามารถ ยังกล่าวอีกว่าเรื่องทั้งหมดมาแดงเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมา ลูกชายคนโตกลับมาเยี่ยมที่บ้านและได้เห็นสัญญาขายฝากที่เลยกำหนดตนจึงได้เล่าว่านางสาวยุพาภรณ์ เป็นผู้พาไปดำเนินการโดยที่ไม่บอกความจริงขาดส่งดอกจนหลุดสัญญาที่ทำไว้ตกเป็นของนายทุนจิตร ทำให้ตัวเองและสามีเครียดมากจนตัดสินใจกับสามีพยายามเข้าป่าเพื่อจะไปฆ่าตัวตาย เพราะเป็นที่ดินมรดกแปลงสุดท้ายของชีวิต หากหมดแล้วก็เหมือนตายทั้งเป็นตายทั้งครอบครัว กระทบทุกคนครอบครัวของลูกชายคนโตที่มีอาชีพรับจ้างกรีดยางที่จังหวัดอำนาจเจริญก็ไม่ได้กลับไปทำงานขาดรายได้ หลานก็ไม่ได้ไปโรงเรียนขาดเรียนมาเป็นอาทิตย์เพราะเป็นห่วงกลัวพ่อและแม่จะฆ่าตัวตาย ขณะที่นางสาวยุพาภรณ์ ลูกสาวต้นเรื่องขาดการติดต่อไม่สามารถติดต่อประมาณ 1 เดือนโทรไปก็ไม่รับสาย
ด้านนายนคร ทองงาม อายุ 71 ปี บิดานางสาวยุพาภรณ์ กล่าวว่าตนเองรู้สึกเสียใจมากที่ลูกสาวแท้ๆมาฆ่าคนในครอบครัว ทั้งเป็นที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินมรดกแปลงสุดท้ายที่มี ตอนนี้สับสนหมดสิ้นทุกอย่างในชีวิต อยู่ไปก็ไม่มีอะไรขอตายดีกว่า ส่วนบ้านหลังนี้นางยุพาภรณ์ก็ไม่ต้องมาเหยียบ สุดท้ายตนอยากจะวิงวอนผู้ใจบุญนักกฎหมายที่สามารถช่วยตนได้ อยากกราบเท้าเข้ามาช่วยครอบครัวด้วยเพราะตนเองไม่มีความรู้ ไม่มีเงินที่จะไปต่อสู้อะไรกับใคร ส่วนนายทุนที่ลูกสาวหลอกเอาไปขายฝากไว้นั้น ตนเองและครอบครัวไม่ได้ติดใจอะไรเพราะท่านก็ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายไม่ได้โกง แต่ความผิดของเรื่องมันอยู่ที่ลูกสาวของตนมาทหลอกแม่ให้ทำ
ล่าสุด นางสามารถและนายนคร ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ ตตระการไทย สารวัตร (สอบสวน) สภ.เขื่องใน เพื่อดำเนินคดีกับนางสาวยุพาภรณ์ บุตาสาวแล้ว เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ติดต่อให้ความช่วยเหลือสอบถามข้อเท็จจริงได้ที่ 088-953-2527
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: