ปราบจริง จนท.ป่าไม้บูรณาการกำลัง เข้าจับกุมไม้เถื่อนกลางสวนส้มยึดของกลางจำนวนมากป่าไม้บูรณาการกวาดล้างต่อเนื่องกว่า3 เดือนพบผู้ทำลายป่าเป็นผู้นำชุมชนสังกัดกระทรวงมหาดไทย
เวลา 09.00 น.วันที่ 4 กรกฎาคม นายภูษิต พรหมมานพ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ เตรียมแผนการติดตามผู้กระทำผิดลักลอบตัดไม้ทำลายป่าตัวจริงมาดำเนินคดี ล่าสุดเตรียมเรียกผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งใน
ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ มาสอบสวนในฐานะเป็นเจ้าของที่ดินที่นำไม้จากการลักลอบตัดโดยไม่ได้รับอนุญาตวางกองและปลูกสร้างอาคารในที่ดินของตนเอง
นายภูษิต พรหมมานพ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ จากการติดตามหาข่าวและเข้าจับกุมมีข้อมูลว่าผู้นำรายดังกล่าวเป็นผู้ลักลอบตัดไม้นำมาสร้างอาคารชั่วคราวแล้วค่อยๆ แปรรูปจำหน่าย มีทั้งไม้สักและไม้กระยาเลย จึงได้สนธิกำลังเข้าจับกุมเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 ก.ค.61 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ อำนวยการโดย นายภูษิต พรหมมาณพ ผอ.จัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ มอบหมายให้สายตรวจปราบปรามฯสายที่ 1 แพร่ ร่วมกับจนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่พร.15 (แม่สรอย) หน่วยฯพร.14(แม่แปง) ทหาร ม.พัน 12 ,จนท.ตำรวจ ชุดศปทส.ภ.5, จนท.ตำรวจ ตชด.32 (พะเยา) จนท.ตำรวจสายตรวจ ต.แม่พุง อ.วังชิ้นจนท.สวนป่าแม่สรอย อ.วังชิ้น และกำนันตำบลแม่พุง อ.วังชิ้น ออกตรวจปราบปรามฯ พบการกระทำผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.ป่าไม้ 1 ราย
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นบริเวณสวนส้มไม่มีเลขที่ บ้านป่าม่วง หมู่ที่ 9 ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ พิกัด 0558824 E 1972319 N พบมีการสร้างอาคาร นายอมรเทพ คำปวง อายุ 17 ปี บ้านเลขที่ 129 หมู่ 9 ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบ้านและไม้ดังกล่าว จากการตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบไม้สักท่อนจำนวน 4 ท่อน/ป.1.01 ลบม. 2.2 รถยนต์บรรทุก 4 ล้อ จำนวน 1 คัน เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 2 เครื่องจึงได้ดำเนินการอายัดไม้สักท่อน จำนวน 12 ท่อน ไม้สักแปรรูป จำนวน 76 ผ/ล/ป.0.91 ลบม. เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ไม้ต่อไป
ซึ่งไม้สักและของกลางทั้งหมดจากเบาะแสร้องเรียนและการหาข่าวในชุมชนพบว่า ชาวบ้านให้ข้อมูลเป็นของฝ่ายปกครองคนหนึ่งในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านก็ทราบกันดี แต่ไม่มีใครกลับเปิดเผย เช่นการจับไม้ที่บ้านแม่สูง ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ ก็พบว่านายทุนผู้ลักลอบตัดไม้เป็นกำนันตำบลหนึ่งใน อ.เมือง จ.แพร่ ล่าสุดการเข้าจับกุมที่เบาะแสชี้ว่าเป็นของผู้นำรายหนึ่งใน ต.แม่พุงจึงได้เรียกผู้ใหญ่บ้านเจ้าของที่ดินมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
