ชัยภูมิ – ชาวบ้านจี้วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดระเบียบให้เป็นรูปธรรมอย่างจริงจังเสียที!!!
( 4 ก.ค.61 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล นายอำเภอแก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยตัวแทนผู้เกี่ยวข้องจากขนส่งจังหวัดชัยภูมิ ผู้ประกอบการเดินรถโดยสารประจำทางในพื้นที่ และตัวแทนกลุ่มชาวบ้านผู้เดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการของกรมการขนส่งทางบก ที่มีการเริ่มดำเนินการขอรับบิจาคที่ดินจากเอกชนในพื้นที่ เพื่อเปิดดำเนินการก่อสร้างตัวอาคารสำนักงานตั้งเป็น บขส.ให้กับประชาชนในพื้นที่ในโครงการแก้งคร้อเมืองทอง มาตั้งแต่ปี 2539 ที่ผ่านมา
และมีการเปิดดำเนินการต่อมาได้เพียงช่วงกว่า 1 ปี หลังเมื่อปี 2540 ในสมัยนั้นทางอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในสมัยนั้นเองก็ได้มีการเดินทางมาเป็นประธานเปิดทำพิธีรับมอบดำเนินการก่อตั้ง บขส.แห่งใหม่ในพื้นที่อ.แก้งคร้อ เสร็จสิ้นลง มาจากนั้นเป็นต้นมาได้เพียงถึงต้นปี 2541 เท่านั้น
และปัญหานี้ก็เริ่มเกิดปัญหาจากกลุ่มผู้ประกอบการบริษัทเดินรถในพื้นที่ที่มี กลับเริ่มไม่มีการนำรถมาเข้าจอดใน บขส.ดังกล่าสว และหันไปหาจุดตั้งขายตั๋ว นำรถไปจอดรอรับผู้โดยสาร กันเอง ตามตึกแถว ริมถนนตามทางสายชัยภูมิแก้งคร้อ-ภูเขียว กันเองจำนวนมาก ซึ่งมีการหันไปจอดรถรับส่งผู้โดยสารกระจัดกระจายสร้างความไม่เป็นระเบียบไปทั่วโซนตัวอำเภอแก้งคร้อ ทั้งในจุดสี่แยกไฟแดง ย่านทางเข้าตลอด หน้าโรงเรียนประจำอำเภอ โรงพยาบาล หน้าที่ว่าการอำเภอ ซึ่งก็เป็นจุดอยู่ไม่ไกลกับตัว บขส.แห่งนี้ไม่ถึง 500-600 เท่านั้น ทำให้เกิดปัญหาในชั่วโมงเร่งด่วน และเริ่มสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่เกิดการจราจรติดขัด รถแออัด และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งตามมาจำนวนมากจนปัจจุบัน
โดยด้านนายปิ่น เวชญานนท์ ตัวแทนชาวบ้านอำเภอแก้งคร้อ เปิดเผยว่า ซึ่งปัญหาการปล่อย บขส.ประจำอำเภอแก้งคร้อ ทิ้งร้างมานานเกือบ 20 ปี ในปัจจุบันนี้ ที่ผ่านมาพอร้องแจ้งไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปมาดำเนินการต่อได้ไม่นาน ก็เหมือนเดิม ก็ไม่มีรถโดยสารเข้ามาจอดปล่อยร้างซ้ำซากมาตลอดอีก
ซึ่งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจริงจังในเรื่องนี้เสียที เพราะปัจจุบันถือว่าเส้นทางสายแก้งคร้อ-ภูเขียว ตลอดริมข้างทางที่มีรถโดยสารประจำทางผ่าน ไม่ยอมเข้ามาจอดรับผู้โดยสารภายใน บขส.แก้งคร้อเมืองทอง ซึ่งมีเพียง 1 ผู้ประกอบการเดินรถเท่านั้นที่เข้ามาอยู่ประจำ แต่โดยรวมยังไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควรซึ่งเริ่มสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในพื้นที่ที่ใช้เส้นทางที่สายนี้ถือเป็นสายถนนหลักผ่านตัวอำเภอแก้งคร้อ สาย 201 แก้งคร้อ-ภูเขียว
หากปล่อยอย่างนี้อีกต่อไปที่มีการปล่อยให้มีการจอดรถรับส่งผู้โดยสารไม่เป็นระเบียบแบบนี้อีกต่อไป ทั้งมีจอดซ้อนคัน และกรีดขวางการจราจรระหว่างรอรับส่งผู้โดยสารเวลานานๆ ก็ไม่รู้ว่าจะมีบขส.ในพื้นที่ไปต่อไปทำไมอีกแล้ว จึงอยากฝากไปถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจริงจังที่จะเข้ามาช่วยกันจัดระเบียบรถโดยสารในพื้นที่ในครั้งนี้อย่างยั่งยืนเป็นรูปธรรมต่อไปเสียทีด้วย
ซึ่งด้าน นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล นายอำเภอแก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า หลังได้มีการประชุมหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องบขส.ในพื้นที่ ไม่มีรถโดยสารมาจอดรับรองส่งผู้โดยสาร จนถูกปล่อยทิ้งร้างมานานเกือบ 20 ปี แล้ว ที่ผ่านมาที่ไม่ประสบความสำเร็จนั้น เพราะแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่อยากให้มีการใช้หลักนิติศาสาตร์ด้านเดียว ด้านรัฐศาสาตร์เอง ก็มีความสำคัญให้ความสำคัญกับประชาชนในพื้นที่ที่กรณีนี้ ไม่อยากให้กระทบกับประชาชนที่บางส่วนเอง มีบ้านตามเส้นทางที่รถโดยสารวิ่งผ่าน หากมาจอดใน บขส.จุดเดียวเลย ก็จะทำให้มีประชาชนมีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าสามล้อ ค่าจยย.รับจ้าง ตามมาเพิ่มอีกด้วย
ก็เป็นเรื่องที่ทางรถโดยสารประจำทางจะถือเป็นการบริการลูกค้าประจำทางจึงมีการแวะจอดให้ เมื่อผ่านริมทางหน้าชุมชนตนเอง หากมาจอดที่ บขส.จุดเดียวเลยก็จะกระทบกับชาวบ้านกลุ่มนี้ แต่รถโดยสารที่มีตามเงื่อนไขทางกฎหมายทั้งหมดเอง ก็ต้องเข้าใจด้วย ว่าก็จะต้องวิ่งผ่านเข้าไปจอดผ่านที่ บขส.ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ หลังได้ประชุมกลับตัวแทนผู้ประกอบการที่มีกว่า 4-5 รายในเบื้องต้นที่จะหาแนวทางออกร่วมกัน
ได้ตกลงที่จะเข้าจอดใน บขส.แล้ว เหลืออีก 1 รายที่ไม่สามารถตัดสินใจแทนบริษัทได้ ต้องขอไปหารือกับทางกรรมการบริษัทอีกครั้งก่อน และคาดว่าจากนี้ไปจะให้คำตอบภายใน 7 วันตามมาได้
และส่วนใหญ่ปัญหาที่มีของผู้ประกอบการเดินรถโดยสารเอง คือที่มีการจอดตามริมทางมาตลอดที่ผ่านมานั้น เพราะมีจุดขายตั๋วมีตึกอาคารอยู่เดิมที่ลงทุนไปแล้ว รวมทั้งต้องมีระบบธุระการการดำเนินการขายตั๋วที่ต้องมีเครื่องระบบคอมพิวเตอร์ที่จะแจ้งการดำเนินการในแต่ละวันไปยังบริษัท หากมีการย้ายมาเลยก็ต้องต้องมีการเสียค่าลงทุนเพิ่มเติมตามมาอีกจำนวนมาก ในการที่จะมาติดติดตั้งภายใน บขส.แห่งใหม่นี้ตามมาอีกด้วย
ซึ่งผลการดำเนินการความเห็นร่วมกันทาง บขส.เอง ก็พร้อมที่จะรับฟัง หากจะต้องมีการปรับปรุงก่อสร้างระบบใดๆเพิ่มเติมก็ขอให้ ผู้ประกอบการยื่นขอเสนอเพื่อที่จะหาแนวทางอยู่ร่วมกันให้ได้อย่างยั่งยืนต่อไป
และอยากให้ทุกฝ่าย รวมทั้งพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันปรับตัวปรับเปลี่ยนให้เข้ามาใช้บริการ บขส.แห่งนี้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน ซึ่งแรกๆอาจจะมีผลกระทบบ้าง แต่ต่อไปจุดศูนย์รวม บขส.แห่งใหม่ ก็จะเกิดประสิทธิภาพที่ดีในการเข้ามาใช้ประโยชน์ใช้บริการที่ดีมากขึ้นร่วมกันกับทุกฝ่ายได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคตได้
