กระบี่-หัวหน้าอุทยานเกาะพีพีเผยผู้ประกอบการดำน้ำพบฉลามวาฬยาว 5 เมตรหนัก 2 ตันที่เกาะบิดะนอกติดอ่าวมาหยาชี้ท้องทะเลกระบี่สมบูรณ์
วันที่ 13 ม.ค.63 นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ กล่าวว่าได้รับแจ้งจากผู้ประกอบกิจการท่องเที่ยวด้านการดำน้ำ และได้รับคลิปวีดิโอที่นักดำน้ำบันทึกภาพฉลามวาฬมาได้ บริเวณเกาะบิดะนอกซึ่งอยู่ติดกับอ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะพีพี หมู่ที่ 7 บ้านเกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ผลผ่าพิสูจน์การตายพะยูน 2 ตัว ผอม หญ้าในท้องน้อย ป่วยตาย
- ชมคลิป-เตรียมเที่ยวงาน 10 ชาติพันธุ์ ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในรูปแบบใหม่ ชมขบวนแห่กลุ่มชาติพันธุ์อลังการ
- เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
- ตร.น้ำกระบี่ บุกรวบ 3 ลูกเรือประมง ยึดยาบ้า พบมั่วสุมเสพ ก่อนออกจับปลา
ซึ่งฉลามวาฬตัวนี้มีความยาวประมาณ 5 เมตร น้ำหนักประมาณไม่ต่ำกว่า 2 พันกิโลกรัม หรือ 2 ตัน กำลังแหวกว่ายเล่นน้ำและหากินแพงตอน ในระดับความลึกของผิวน้ำที่ระยะ 5 เมตร โดยไม่เกรงกลัวผู้คนที่ดำน้ำชมปะการังน้ำลึกแต่อย่างใด ทั้งสามารถเข้าใกล้ได้อีกด้วย แต่นักดำน้ำที่พบฉลามวาฬจะบันทึกภาพห่างจากตัวฉลามวาฬในระยะเพียง 5 เมตรเท่านั้น ซึ่งฉลามวาฬไม่ได้แตกตื่นแม้ติดนิดเดียว ยังคงแหวกว่ายน้ำในบริเวณเกาะบิดะนอก เป็นเวลานานถึง 1 ชั่วโมง จึงดำน้ำลึกลงไป
นายวรพจน์ กล่าวต่อไปว่า การที่ฉลามวาฬเข้ามาหากินบริเวณเกาะบิดะนอกซึ่งอยู่ติดกับอ่าวมาหยา เป็นการแสดงและบ่งบอกให้เห็นว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งในท้องทะเลกระบี่หมู่เกาะพีพีในรอบปีนี้ เป็นผลมาจากมาตรการปิดอ่าวมาหยา ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมใต้ทะเลและบนบก ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อย่างเห็นได้ชัด จนทำให้สัตว์น้ำหายากและใกล้จะสูญพันธุ์หวนกลับคืนสู่ถิ่นเดิม สร้างความตื่นเต้นให้แก่เจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวที่ได้พบเห็นในแต่ละครั้ง
ฉลามวาฬเป็นสัตว์ทะเลที่หาดูได้ยากทั้งเป็นสัตว์สงวนหวงห้าม มาแหวกว่ายที่เกาะบิดานอก เป็นตัวบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ทางระบบนิเวศวิทยาใต้ทะเลบริเวณดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราและหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ มีมาตรการเข้มงวดในปิดอ่าว ทั้งการปราบปรามการลักลอบทำการประมงจับสัตว์น้ำในเขตอุทยาน ร่วมทั้งกลุ่มอนุรักษ์เกาะพีพีได้มีการจัดเก็บขยะใต้ทะเลในหมู่เกาะพีพีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะพีพี ให้ความร่วมมือมาด้วยดีโดยตลอด จึงทำให้สัตว์น้ำที่ใกล้จะสูญพันธุ์หรือหาดูได้ยาก หวนกลับมายังถิ่นที่อยู่อาศัยเดิมเข้ามาหากิน เพราะถือว่าแหล่งที่มาหากินนั้นมีความปลอดภัยสูง สามารถขยายพันธุ์และเลี้ยงลูกได้อย่างปลอดภัย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: