โจ๋วัย 20 ปี เมาคุยกันเสียงดัง ถูกลุงวัย 85 ปี ได้เดินมาบอกให้เบาเสียง ด้วยควาเมาจึงใช้เท้าเตะก้านคอลุง ดับหลังเมรุเผาศพวัดดังย่านคลองด่าน ก่อนจะกลับไปนอนแล้วถูกตำรวจตามไปจับถึงบ้าน
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 14 มกราคม 2563 พ.ต.ท.สมชาย สาคร สารวัตรสอบสวน สภ.คลองด่าน สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายนอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณหลังเมรุเผาศพ ภายในวัดมงคลโคธาวาส ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- ชาวบ้านยังผวา บ้านสไลด์ตกน้ำบางปะกงตามกัน ไม่กล้าออกไปทำกิน
- คอกาแฟแห่เที่ยวงานพังงาคอฟฟี่เจอร์นี่ ซีซั่น 3 ภายใต้รูปแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Coffee in the Park ในสวนสมเด็จฯพังงา
- พิธีเปิดนิทรรศการฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์และสัตว์ร่วมยุคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
- ระทึก ไฟไหม้โรงงานผลิตกล่องโฟมใส่อาหารหวิดวอดหมดหลัง
ที่เกิดเหตุบริเวณกองหินด้านหลังเมรุเผาศพภายในวัดดังกล่าวได้พบศพนายณรงค์ แพรศิริ อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7121 หมู่ที่ 11 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ นอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้น ในสภาพสวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา กางเกงขาสั้นสีดำ มือซ้ายยังกำซองยาเส้นอยู่ 1 ห่อ ข้างศีรษะผู้ตายมีกระบอกไฟฉายตกอยู่ 1 อัน ตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องลอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงประสานแพทย์เวรของโรงพยาบาลบางบ่อ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเพียงรอยช้ำที่บริเวณใต้กกหูข้างข้างเท่านั้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง
จากการสอบถาม น.ส.รัตนา แพรศิริ อายุ 53 ปี บุตรสาวผู้ตาย ได้เล่าว่า ผู้ตายเดินหายออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนพยายามออกตามหาแต่ไม่พบ ต่อมาในช่วงเช้าของวันนี้ได้มีชาวบ้านวิ่งมาบอกว่าพ่อของตนนอนเสียชีวิตอยู่ที่หลังเมรุเผาศพภายในวัดมงคลโคธาวาส ตนจึงไปรีบไปดู
ต่อมาเวลาประมาณ 09.30 น.ของวันนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวนายจักรกฤษ มีมา อายุ 20 ปี และนายสมบัติ คู่วารชื่น อายุ 17 ปีซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยที่เป็นคนทำร้ายผู้ตายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต มาทำการสอบสวนที่โรงพัก โดยในชั้นการสอบสวนนายสมบัติ ได้เล่าว่า เมื้อช่วงกลางดึกเมื่อคืนนี้ตนและนายจักรกฤษ ได้ไปดื่มเหล้าจนเมาและคุยกันส่งเสียงดังผ่านเข้ามาในวัด อยู่ ๆ ผู้ตายได้เดินออกมาจากหลังเมรุเผาศพ และได้มาบอกให้พวกตนเบา ๆ เสียงหน่อยพระจะจำวัด ด้วยความเมาตนจึงใช้มือผลักผู้ตายจนล้มไปนั่งอยู่กับพื้นส่วนนายจักรกฤษ ก็ได้ใช้เท้าเตะเข้าไปที่ก้านคอใต้กกหูข้างขวาไป 1 ครั้งและเห็นผู้ตายลงไปนอนแน่นิ่งไปแต่ก็ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต ตนทั่งสองจึงได้เดินกลับบ้านพักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดที่เกิดเหตุมากนัก จนกระทั่งในช่วงสายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามมาจับกุมตนทั้งสองได้ที่บ้านพักขณะที่ยังนอนหลับอยู่
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่คุมตัวนายจักรกฤษ หนึ่งในผู้ก่อเหตุมาดูที่เกิดเหตุญาติของผู้ตายซึ่งเป็นหลานชายวัย 20 ปี ด้วยความแค้นได้วิ่งฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่เข้าไปกระโดดถีบเข้ากลางหน้าอกของนายจักรกฤษ ผู้ก่อเหตุจนกระเด็นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าห้ามปรามก่อนที่จะกันตัวนายจักรกฤษ กลับโรงพักเพื่อทำบันทึกจับกุมตัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ก่อนควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: