ผ่าซากพะยูน เกยตื้นตาย ทีมสัตวแพทย์ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง เผยผลผ่าพิสูจน์ซากพะยูนเพศผู้ อายุ 9-10 ปี ตายตัวแรกในปี 2563 ไม่พบเศษพลาสติกในกระเพาะอาหาร แต่มีหญ้าทะเลเต็มกระเพาะ คาดตายเฉียบพลันจากการพะยูนตัวใหญ่พุ่งชนบริเวณส่วนหัวซึ่งมีรอยช้ำ
ผ่าซากพะยูน วันนี้(14 ม.ค) เวลา 14.30 น. หลังจากที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดกระบี่ ได้รับแจ้งจากนายอาหลี ชาญน้ำ ผู้นำกลุ่มชุมชนชาวประมงบ้านเกาะศรีบอยา ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ว่า เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมาพบซากพะยูนลอยตายอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะกา ม.2 ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง จ.กระบี่
จึงได้ทำการชักลากขึ้นฝั่ง และแจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ฯ เข้าทำการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าเป็นพะยูนเพศผู้ อายุประมาณ 9-10 ปี สภาพกึ่งสด ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย ความยาว 194 ซม. รอบตัว 137 ซม. น้ำหนัก 113 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ทำการประสานไปยัง
ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ซึ่งดูแล 3 จังหวัดฝั่งอันดามันคือ ตรัง สตูลและกระบี่) เข้ารับซากพะยูนตัวดังกล่าว ไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง
ซึ่งพะยูนตัวนี้เป็นพะยูนตัวแรกที่ตายลงในปี 2563 ล่าสุด ทีมสัตวแพทย์ฯ ได้ทำการผ่าพิสูจน์พะยูนตัวดังกล่าวแล้วในช่วงบ่ายวันนี้(14 ม.ค63) พบว่ายังมีหญ้าทะเลระหว่างช่วงคอถึงส่วนท้าย แต่กะโหลกแตกและส่วนหัวมีรอยเขียวช้ำเป็นบริเวณกว้าง
คาดถูกชนเข้าอย่างจัง อาจเนื่องมาจากตัวผู้ที่ใหญ่กว่าพุ่งเข้าชนระหว่างฤดูผสมพันธุ์ จึงทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและตายลงในที่สุด ส่วนกระเพาะ ปอด ม้าม ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ
