กระบี่-ตำรวจสภ.อ่าวนาง เชิญตัวกำนันตำบลเขาทอง เข้าให้ปากคำในคดี ยิงอดีตผู้จัดการธกส. ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องวอนสังคมให้ความเป็นธรรม ด้านรองผบก.ภ.จว.กระบี่ ฝากไปยังญาติผู้ตายเชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำญาติผู้ตายที่กรุงเทพฯอำนวยความสะดวก
จากกรณีที่นายชัยณรงค์ ศรีสุพรรณเรศ อายุ 58 ปี ผู้จัดการธกส.สาขาคลองท่อม ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต ขณะไปร่วมงานฉลองปีใหม่ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 71/1 ม.1 ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุไม่นานเจ้าหน้าที่ก็สามารติดตามจับกุมตัวนายธวัชชัย รักสกุล อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้และให้การรับสารภาพว่า ไม่พอใจที่ผู้ตายมีท่าทางรังเกียจตน ขณะไปขอชนแก้วในคืนเกิดเหตุ และให้การอีกว่าโกรธแค้นที่ผู้ตายซื้อที่ดินของน้าในราคาถูกแต่กลับขายในราคาแพงหลายเท่าตัว ต่อมาทางลูกชายผู้ตายได้เข้าร้องเรียนต่อกองปราบปราม เนื่องจากสงสัยว่า การตายของบิดามีกำนันในพื้นที่เป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง โดยสาเหตุเกิดจากปมขัดแย้งเรื่องที่ดินมูลค่า 30 ล้าน พร้อมนำหลักฐานคลิปวีดีโอขณะกำนันในพื้นที่ไปพูดคุยเจรากับผู้ตายเรื่องค่านายหน้าที่ผู้ตายยังไม่ได้จ่ายให้กับผู้ที่ติดต่อขายคือน้องสาวผู้ตายเอง
ความคืบหน้าวันที่ 16 ม.ค.63 พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ รองผบก.ภ.จว.กระบี่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิษณุ อัชนะพรกุล รองผบก.ฯ ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของของคดี ที่สถานีตำรวจภูธรอ่าวนาง ต. โดยมี พ.ต.อ.อภิชาติ จินาเพ็ญ ผกก.สภ.อ่าวนาง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมให้ข้อมูลความคืบหน้าของคดี ภายหลังจากที่ลูกชายผู้ตายได้ไปร้องเรียนที่กองปราบปราม นอกจากนี้ยังได้เชิญตัว นายจเร พวงนุ่น กำนันตำบลเขาทอง ผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นผู้มีอิทธิพล อาจจะอยู่เบื้องหลังการตายของนายชัยณรงค์ เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยนายจเรยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ส่วนคลิปเสียงการสนทนา ระหว่างนายเจร กับผู้ตาย ที่ทางลูกชายผู้ตาย นำไปร้องกองปราบปราม นั้นเป็นช่วงที่ นายจเร ได้พาน้องสาวผู้ตาย เข้าไปเจรจากับผู้ตาย เพื่อให้จ่ายค่านายหน้าจำนวน 2.5 บาท เพื่อไม่ให้ลูกบ้าน เกิดความขัดแย้งบานปลาย
ขณะที่พ.ต.อ.ตานิตย์ กล่าวว่า หลังมีการร้องเรียนทางผบก.ภ.จว.กระบี่ ได้มีการตั้งทีมสืบสวน สอบสวน ขึ้นมาเพื่อทำงานร่วมกับชุดสืบสวนสภ.อ่าวนาง ทำการสอบสวนประจักษ์พยาน และร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน เก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ ตลอดจนมูลเหตุการกระทำความผิดของผู้ต้องหากับผู้ตายเพื่อประมวลเรื่องราวทั้งหมด พร้อมประสานไปยังญาติผู้ตายที่ร้องเรียนกองปราบปราม โดยจะส่งพนักงานสอบสวนเดินทางไปสอบปากคำลูกชายผู้ตายที่กรุงเทพฯ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ทางญาติผู้ตาย และขอหลักฐานที่มีอยู่ เพื่อที่จะให้เกิดความกระจ่าง โดยเฉาะที่มีการกล่าวหาว่ามีผู้ร่วมบงการ จ้างวานวางแผนอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของ อดีต ผจก.ธกส.สาขาคลองท่อมหรือไม่ ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ตนได้ทำการสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาด้วยตนเอง แล้วทราบว่า ในคืนเกิดเหตุก็ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจวางแผนจนนำมาสู่จับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามรถเปิดเผยได้ ทั้งนี้จากการประมวลเหตุการณ์ในเบื้องต้นเชื่อว่า เป็นเรื่องความไม่พอใจส่วนตัว ระหว่างคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเอง ไม่น่าจะเกี่ยวกับการจ้างวานใดๆ และขอให้ทางญาติผู้ตายให้ความเชื่อมั่นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ซึ่งทำงานอย่างตรงไปตรงมาและพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ด้านนายจเร พวงนุ่น กำนันตำบลเขาทอง เปิดเผยภาหลัง ให้ปากคำเจ้าหน้าที่ว่า หลังจากที่มีการร้องเรียนไปยังกองปราบฯและพาดพิงถึงตนน่าจะอยู่เบื้องหลังนั้น สร้างความไม่สบายใจแก่ตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก เพราะต้องตกเป็นจำเลยสังคม ซึ่งตนยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็น ตนเพียงทำหน้าที่เป็นเป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยเจรจาให้ลูกบ้าน และช่วยจนท.ติดตามจับคนที่ก่อเหตุ แต่กลับถูกมองว่าเป็นผู้ร้าย ขอให้สังคมให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย
