เพชรบูรณ์-แขกสุดแสบ! พบป้วนเปี้ยนที่ขอนแก่น ถือพาสปอร์ต นทท.-ใช้ลูกเล่นเดิมทวงเงินทอน ุ ตม.ยกเป็นเคสเตือนเจ้าของโรงแรม-เคหะสถาน หากมีชาวต่างชาติเข้าพักอาศัยต้องแจ้งใน 24 ชม.
วันที่ 16 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า กรณีชาวโซเซียลมีเดียพากันแจ้งเตือนภัยชาวต่างชาติสัญชาติปากีสถาน มีพฤติกรรมหลอกล่อซื้อสินค้าพร้อมพูดจากด้วยภาษาอังกฤษแบบวกวน มีการเปลี่ยนคืนสินค้าจนทำให้ร้านค้าเกิดความสับสนจากนั้นทวงเงินทอนโดยอ้างว่าจ่ายเงินให้แล้ว จนทำให้มีร้านค้าและห้างสรรพสินค้าในหลายจังหวัดตกเป็นเหยื่อของชาวต่างชาติ จนมีการแจ้งเตือนภัยทางสื่อโซเชียลมีเดีย ล่าสุดที่ทางตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ มีการหยิบยกกรณีดังกล่าวมาแจ้งประชาสัมพันธ์ถึงข้อกฎหมาย เรื่องการชาวต่างชาติเข้าพักอาศัยทั้งเคหะสถาน โรงแรมรีสอร์ท จะต้องแจ้งตม.ในพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาท
นอกจากนี้ยังแจ้งชี้แนะถึงช่องทางในการแจ้งสำหรับที่พักอาศัยของคนต่างด้าวนั้น สามารถแจ้งได้ด้วยตนเอง ณ ทำการของตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศที่สถานที่พักนั้นตั้งอยู่ หรือมอบหมายให้ผู้อื่นแจ้งแทน แจ้งทางไปรษณีย์ แจ้งได้ที่เว็บไซต์ www.immigration.go.th และในปัจจุบันสามารถแจ้งผ่านแอพพลิเคชั่น “Section38” ซึ่งมีทั้งระบบ ios และระบบ android สามารถดาวโหลดผ่าน App Store และ Play Store ได้ และหากพบชาวต่างชาติต้องสงสัยกระทำความผิดสามารถแจ้งเบาะแสข้อมูลได้ที่หมายเลข Call Center ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 1178
พ.ต.ต.ภูวดล ภูมี สว.ตม.จ.เพชรบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับกรณีชาวต่างชาติสัญชาติปากีสถานซึ่งมีการแจ้งเบาะแสการทำผิดในหลายจังหวัด โดยเฉพาะล่าสุดในพื้นที่จ.เพชรบูรณ์นั้น ทางเจ้าร้านของที่ตกเป็นเหยื่อได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะขออกหมายเรียกให้ชาวต่างชาติรายนี้มาให้ปากคำและรับทราบข้อหา แต่หากไม่มาก็จะถูกออกหมายจับเป็นอันดับต่อไปนั้น หากมีการประสานทางตม.เพื่อขอเบาะแสที่พักอาศัยอาศัย ทาง ตม.พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
สำหรับเบาะแสความเคลื่อนไหวล่าสุดของชาวต่างชาติสัญชาติปากีสถานรายนี้ ซึ่งตกเป็นเป้าหมายให้ชาวโซเชียลแจ้งเตือนให้เป็นบุคคลที่พฤติกรรมฉ้อฉลเป็นภัยจ้องระมัดระวังนั้น ล่าสุดมีการพบการเคลื่อนไหวอยู่ในเขตพื้นที่ จ.ขอนแก่น ส่วนหนังสือเดินทางที่ชาวต่างชาติสัญชาติปากีสถานรายนี้ถือเข้าประเทศไทย เป็นเป็นหนังสือเดินทางนักท่องเที่ยว โดยเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อราวปลายเดือนพฤศจิกายนปี 2562 ที่ผ่านมา
