เชียงราย-สปก.เชียงราย อบต.แม่สลองนอก เขตอ.แม่ฟ้าหลวง ละเลยต่อหน้าที่หรือไม่ เห็นกันจะจะ
เมื่อวันที่ 25 ม.ค 2563 ภายหลังจากการเสนอข่าวของ 77 ข่าวเด็ด ตีแผ่การบุกรุกป่าสร้างรีสอร์ท โรงแรมขนาดใหญ่ อย่างเย้ยกฎหมาย เห็นเด่นชัดตลอดเส้นทางเข้าเขตดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จะพบเห็นรีสอร์ขนาดใหญ่สลับกับสวนชา ไปตลอดเส้นทางเมนสายเดียวบนดอยแม่สลอง และที่เด่นชัดมีการสร้างอาคาร 2 ชั้นนับ 10 ห้อง ข้างถนนริมหน้าผา ตรงข้ามตู้ยามตำรวจ สร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์ไม้นั่งร้านยังไม่เอาออก แม้แต่การการขออนุญาตเป็นเกตเฮ้าส์ แอบแฝง ของโรงแรม ตามระเบียบเปิดได้เพียง 5 ห้อง แต่ด้านหลังสร้างเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ 3 -4 ชั้น หลายสิบห้อง แฝงตัวอยู่ริมหน้าผา หากมีการตรวสอบจริงจัง จะพบว่าเป็นการสร้างหลังจากทหารส่งมอบพื้นที่ให้ป่าไม้ และประกาศเป็นเขต สปก.ปี 2554 นักท่องเที่ยวทั่วประเทศ รู้จักที่พักสร้างขึ้นใหม่ ๆ บนดอยแม่สลองเป็นอย่างดี แต่ เขตอ.แม่ฟ้าหลวง สปก.เชียงราย อบต.แม่สลองนอก ไม่พบเห็นว่ามีการก่อสร้างใหม่ หรือรู้แล้วเพิกเฉย ไม่มีการดำเนินการยับยั้งการทำลายบุกรุกป่าแต่อย่างไร เมื่อสื่อหลายสำนักเสนอข่าว ก็มีหน่วยงานราชการ ทหารจาก กอ.รมน.เชียงราย สำนักงานปฎิรูปที่ดินเชียงราย สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ปปช.เชียงราย ขึ้นดอยแม่สลองไปตรวจสอบ โดยสามัญสำนึกของชาวบ้านเข้าใจว่าจะไปหยุดยั้งการทำลายป่าการบุกรุกที่ดินรัฐและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ บ.สันติคีรีหมู่ 1 ต.แม่สลองนอก แต่เจ้าหน้าที่ สปก.ทำได้เพียงชี้แจงผู้ประกอบการว่าห้ามปรามสร้างอาคารในรูปแบบของรีสอร์ท เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ของ สปก. เท่านั้น โดยไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างไร เป็นการเล่นปาหี่หลอกคนดูหรือไม่ เช่น โรงแรมรีสอร์ท มีการตรวจสอบถึง 2 ครั้ง จากการเพิ่งสร้างใหม่ แต่เจ้าของอ้างว่าสร้างมานานกว่า 30 ปี ผลการดำเนินก็เงียบหายไป หากเจ้าหน้าที่ทำตัวลักษณะเช่นนี้ ทั่วประเทศก็จะมีปัญหาการบุกรุกป่าไม่มีวันสิ้นสุด
อบต.แม่สลองนอก เจ้าของพื้นที่ ย่อมรู้กฎหมายดี แต่ปล่อยปละ เห็นการก่อสร้างไม่ได้อนุญาตตามกฎหมาย ถือว่าธุระไม่ใช่ แต่กลับเก็บเงินจากรายได้ภาษีโรงเรือนจากโรงแรมเหล่านี้ทุกปี โดยอ้างกฎหมายเสมือนเป็นหน้าที่ดังสรรพากรเก็บภาษีผู้มีรายได้ ทั้งที่สรรพากรไม่เคยเรียกเก็บภาษีจากผู้มีรายได้กระทำผิดเช่นขายยาเสพติด หรือเปิดบ่อนผิด ก.ม แต่อย่างใด เป็นการละเลยต่อหน้าที่หรือไม่
สปก เมื่อเข้ามารังวัดใหม่ ให้คนที่ได้รับสิทธิที่อยู่ทำกินจริง ทำประโยชน์อยู่จริง และคนที่รับรองว่ามีการทำกินบนพื้นที่จริง ก็คือพวกกลุ่มผู้ใหญ่บ้าน ส่วนจะมีการซื้อขาย การเปลี่ยนมือ ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นผู้รู้เรื่องทั้งหมด แต่มีหลายคนนำไปขายเสียเอง สิ่งที่ ควรทำคือ เรียกใบที่ได้มาจากทหารมาเก็บไว้เป็นหลักฐาน ว่าจริงๆแล้วเหลือคนถือสิทธินี้มีกี่คน และคนที่ถือยังมีอยู่กี่คน คนที่ขายสิทธิไปแล้วกี่คน คนที่สละสิทธิการครอบครองไป โดยรับเงินและส่งมอบต่อมือไปแล้วมีกี่คน ถือว่าขาดสิทธิใช่หรือไม่ มีคนร้องเรียนให้ตรวจสอบคุณสมบัติ ผู้ขอ สปก หลายครั้ง มีบางคนเป็นคนต่างด้าว เกิดต่างประเทศ ขอได้หรือไม่ บางคนต่างด้าวแปลงสัญชาติมาเป็นไทย มาขอยื่น สปก ได้หรือไม่ ทาง สปกควรจะมีการสำรวจ และแจ้งกำนันผู้ใหญ่บ้านด้วย ว่าถ้าเป็นต่างด้าวไม่ได้สิทธินั้น แต่มีการลักไก่ขอ สปก.มากมาย
เมื่อทหารคืนพื้นที่แล้ว สปก.จึงต้องมามีการรังวัดใหม่ทั้งหมด คนที่ขายไปแล้วต้องหมดสิทธิให้รังวัดใหม่ ผู้ครอบครองรายใหม่จากการซื้อขายหรือตกทอดจะเป็นผู้มีสิทธื์นั้น เพราะคนเก่าได้สละสิทธ์ไปแล้ว แต่ สปก.ต้องตรวจสอบคนครอบครองใหม่ด้วยว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหรือไม่ การนี้ถ้าเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเที่ยงตรงโป่งใส การแก้ปัญหาก็ทำได้ง่าย (รอติดตามต่อไป)
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ชาวบ้านสืบสานอนุรักษ์การปลูกข้าวไร่ไว้กินเองครอบครัวเหลือขาย
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
- หนาวนี้ไปแอ่วเมืองเจียงฮายกั๋นเต๊อะ! ส่อง 7 อีเวนต์ไฮไลต์ใน “เทศกาลสีสันกาสะลอง 2024”
- อำเภอตะกั่วทุ่งเลือกตำบลท่าอยู่ เดินหน้าขับเคลื่อนสู่ "ตำบลเข้มแข็ง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง"
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: