ชัยภูมิ – หลังก่อเหตุหนีกลบดานสึกออกจากการเป็นพระ เพื่อตบตาการติดตามของจนท.หันไปแต่งชุดเป็นคนทั่วไปหารับจ้างลงเรือกลางทะเลอยู่ที่จ.กระบี่ นานกว่า 3 เดือน ก่อนเจอช่วงมรสุมออกเดินเรือไม่ได้ หนีกลับมาบ้านญาติในภูมิลำเนาที่จ.ชัยภูมิ อีกครั้ง ก่อนถูกจนท.ตร.ชัยภูมิ แกะรอยตามรวบตัวได้แล้ว หลังถูกจับยอมรับสารภาพเป็นคนทำน้ำมนต์หวังช่วยล้างคุณไสย์มนต์ดำจริงแต่ไม่มีเจตนาทำให้เด็กสาว 18 ปีเสียชีวิต!
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 17 ก.ค.61 หลังเกิดเหตุมีผู้ปกครองเด็กและญาติๆเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตร.สภ.แก้งคร้อ มาตั้งแต่เมื่อช่วงวันที่ 4 เม.ย. 61 ที่ผ่านมา ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจไปทั่วประเทศ หลังเมื่อวันที่ 5 เม.ย.61 ทางญาติพ่อแม่ของเด็กวัย 18 ปีที่ผู้เสียชีวิตครั้งนี้ได้เดินทางเข้าพบ ต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง.ผบ.ตร. และสั่งการให้ พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ติดตามจับกุมตัวพระซึ่งเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
และได้สั่งมอบหมายให้ พ.ต.อ.สรวิศ มาอินทร์ ผกก.สืบสวน.ภ.จว.ชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จาตุรนต์ ตระกูลปาน ผกก.สภ.แก้งคร้อ เจ้าของท้องที่เกิดเหตุ สนธิกำลังร่วมกันคลี่คลายคดีนี้
เพื่อเร่งช่วยกันติดตัวจับกุมตัวกลุ่มพระที่อ้างตัวอวดตนว่ามีคุณวิเศษว่าสามารถช่วยทำพิธีอาบและดื่มน้ำมนต์ ช่วยล้างอาถรรพ์ให้กับคนที่ถูกคุณไสย์มนต์ดำได้ จนล่าสุดไปอ้างทักสาว 18 ปีที่จ.ชัยภูมิ ว่าถูกคุณไสย์มนต์ดำต้องเข้าทำพิธีดื่มน้ำมนต์จนเด็กสาวเกิดอาการอาเจียนรุนแรงจนล้มชักตาตั้งจนช็อคเสียชีวิตมาตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา และกลุ่มพระที่มีด้วยกันทั้งหมดครั้งนี้ 2 รูป พร้อมญาติโยมที่เป็นลูกศิษย์อีก 3 คน ได้พากันหลบหนีหมายศาลจังหวัดภูเขียว จ.ชัยภูมิ ที่ 55/2561 ลง 5 เม.ย.61 ได้อนุมัติออกหมายจับบุคคลทั้งพระและโยมทั้ง 5 รายนี้แล้ว
จนต่อมาในวันที่ 6 เม.ย.61 ด้าน พ.ต.ท. วิญญู พื้นหินลาด พนักงานสอบสวน สภ. แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ได้รับการติดต่อจากญาติๆของพระบุญปัน บุญโนนแต้ อายุ 66 ปี พระลูกวัดของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งอยู่ที่ ต.ผานกเคา อ.ภูกระดึง จ.เลย ว่าจะนำตัวผู้ถูกกล่าวหา และลูกศิษย์ รวม 5 ราย ประกอบด้วย 1.พระ ภิกษุโอภาษ ศรีสง่า อายุ 43 ปี(แต่วันนี้กลับยังไม่ยอมมามอบตัวต่อจนท.ตร.ยังอยู่ระหว่างหลบหนีต่อไป) จึงมีผู้มามอบตัวครั้งนี้และถูกฝากขังควบคุมตัวที่เรือนจำชัยภูมิระหว่างรอขอสู้คดีในชั้นศาลไปแล้วรวมเพียง 4 ราย มาตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.61 ที่ผ่านมาหลังถูกศาลออกหมายจับ
ที่ประกอบด้วย 1.พระภิกษุบุญปัน บุญโนนแต้ อายุ 66 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 505 หมู่ 10 ตำบลท่ามะไฟหวาน อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ 2.นางสาวกรรณิการ์ ไม้สังข์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/1 4302 หมู่ที่ 13 ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 3.นางสาวบุญหลาย จันลา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ที่ 12 ตำบลวังสามหมอ อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานีและ 4.นายมงคล ใยแก้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 1 ตำบลโคกสูง อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี เข้ามอบตัวกับ พนักงานสอบสวน สภ. แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ
ที่ยังให้การปฏิเสธและอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำพิธีทำน้ำมนต์ใดๆกับพระที่ยังหลบหนีอยู่ในขณะนี้อีก 1 รูป คือพระโอภาษ ศรีสง่า อายุ 43 ปี หลังโดนออกหมายจับ ในข้อหา ร่วมกันกระทำการโดยประมาท จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย(คดีน้ำมนต์มรณะ)
จนล่าสุดวันนี้ 17 ก.ค.61 เมื่อช่วงเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา ทางจนท.ชุดสนธิกำลังทั้งหมดของจ.ชัยภูมิ หลังช่วงสายวันเดียวกันที่ผ่านมาสามารถติดตามจับกุมตัวพระพระโอภาษ ฯผู้ต้องหาคดีน้ำมนต์มรณะรายนี้ได้แล้วก่อนนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่กองกำกับการตำรวจกองสืบสวนตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ
โดยพระผู้ต้องหาก่อเหตุรายนี้ ให้การว่า หลังก่อเหตุครั้งนี้และได้พยายามหลบหนีการจับกุมของจนท.ตร.มานานกว่า 3 เดือน หลังที่จะสึกออกจากการเป็นพระด้วยที่จ.หนองบัวลำภู เพื่อหลีกหนีการติดตามของจนท.ตร. มาสวมใส่เสื้อผ้าเป็นประชาชนคนธรรมดาทั่วไป ก่อนที่จะได้หลบหนีไปยังจังหวัดต่างๆทางภาคใต้ จนไปอยู่ที่จ.กระบี่ เพื่อหารับจ้างลงเรือไปทำงานกลางทะเลอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน
จนช่วงนี้เป็นช่วงภาวะมรสุมออกเดินเรือไม่ได้ในช่วงนี้ จึงหลบหนีกลับมาที่ภูมิลำเนาบ้านญาติของตัวเองในเขตอ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ก่อนที่จะมาถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวได้ครั้งนี้
ซึ่งพระน้ำมนต์มรณะรายนี้ ยอมรับว่าตนเองรับทำพิธีล้างคุณไสย์มนต์ดำด้วยการให้ดื่มน้ำมนต์ให้สาว 18 ปี รายนี้จนเสียชีวิตดังกล่าวจริง แต่ไม่มีเจตนาที่จะทำให้เด็กสาว 18 ปีรายนี้เสียชีวิต ซึ่งตั้งแต่บวชมาเกือบ 9 ปี แล้ว ก็จะรับทำให้กับคนที่คิดว่าตัวเองถูกคุณไสย์มนต์ดำให้ทำเท่านั้น ไม่ได้เรียกร้องอะไร ค่าครูก็ตามแต่คนที่จะทำให้มาเท่านั้นส่วนพ่อแม่เด็กรายนี้ ที่บอกว่า และในน้ำมนต์ก็ไม่ได้ใส่อะไรจะเป็นน้ำเปล่า และเทียนเท่านั้น
ซึ่งก็จะแจ้งตลอดว่าใครที่น้ำพิธีจะต้องดื่มน้ำมนต์จำนวนมาก บางรายอาจจะต้องถึงเต็ม 2 บาตรพระ และดื่มแล้วจะมีอาการอาเจียนออกมา ซึ่งหากใครที่มีโรคประจำตัว มีลมชัก โรคหอบหืด ก็ขอให้แจ้งบอกก่อนทำพิธีดื่มน้ำมนต์ทุกครั้งเช่นกัน ไม่ได้บังคับที่ส่วนใหญ่จะมีคนมาให้ทำน้ำมนต์ให้ดื่มเพื่อเลิกเหล้า บุหรี่ กันจำนวนมาก ที่จะมีอาการอาเจียนตลอดเมื่อดื่มน้ำมนต์เข้าไป
ส่วนกรณีคนถูกคถุณไสย์มนต์ดำ ก็อาจจะต้องดื่มน้ำมนต์มากน้อยก็ตามแต่ที่จะถูกของมา ส่วนกรณีสาว 18 ปี ที่เสียชีวิตครั้งนี้เห็นว่าถูกคุณไสย์มาหนักจึงต้องดื่มน้ำมนต์จนอาเจียนมากกว่าใครๆที่ผ่านมา จนช็อกทางตนเองก็หยุด และให้คนพาส่งโรงพยาบาลก็ไม่มีเจตนาที่คิดว่าเด็กสาวรายนี้จะเสียชีวิตได้
และรู้สึกเสียใจกับครอบครัวของน้องด้วย ที่ตนเองไม่มีเจตนาจริงๆที่จะทำให้น้องเสียชีวิตครั้งนี้ ส่วนพิธีรับทำน้ำมนต์ดังกล่าวก็ไม่มีใครบอกสอนมาจำมาจากครู หลวงปู่ที่เคยทำมา หาอ่านตามบทสวดต่างๆที่คิดขึ้นเองเท่านั้น และเห็นว่าที่ผ่านมามีคนมาขอให้ทำน้ำมนต์ให้อาบ ให้ดื่มแล้วหาย ก็เลยรับทำมาตลอดเท่านั้น
ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนในท้องที่เกิดเหตุ สภ.แก้งคร้อ ดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันกระทำการโดยประมาท จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย(คดีน้ำมนต์มรณะ) ตามกฏหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: