X

ลำปางสนธิกำลังดับไฟ​ หลังไหม้ตอซังและพงหญ้าแห้ง​ คาดมีคนจุดไฟเผา

เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. คืนวันที่ 25 ม.ค.25 63 ที่ผ่านมา  พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเกาะคา และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลลำปางหลวง รวมกำลังพลกว่า 30 นาย ร่วมกันนำรถบรรทุกน้ำพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิง เข้าปฏิบัติการระงับเหตุดับไฟป่า ที่กำลังโหมลุกไหม้ตอซังข้าวและพงหญ้าแห้งตรงจุดบริเวณพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน ในเขตท้องที่ชุมชน บ้านล้อมศรีป้อ หมู่ที่ 7 ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ซึ่งในที่เกิดเหตุพบว่าไฟได้ไหม้ลุกลามกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง กลุ่มควันไฟทั้งสีดำและสีขาวจำนวนมากได้โพยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าแผ่ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ บางส่วนถูกกระแสลมพัดปลิวไปปกคลุมพื้นที่อยู่อาศัย ก่อให้เกิดมลพิษส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชน ที่อาศัยอยู่ในชุมชนหมู่บ้านบริเวณใกล้เคียง

โดยเพลิงที่ลุกไหม้พบว่ามีความรุนแรงและดับได้ยาก เนื่องจากในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทุ่งนา มีตอซังข้าวและหญ้าแห้งแผ่ปกคลุมอยู่เป็นจำนวนมากสามารถที่จะเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดี ประกอบกับสภาพอากาศที่แห้งแล้ง จึงทำให้เพลิงลุกลามขยายวงกว้างไปอย่างรวดเร็ว ส่วนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อจะดับไฟที่กำลังลุกไหม้ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากในจุดบริเวณที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาอยู่ลึกลงไปจากไหล่ทางขอบถนนไกลกว่า 500 เมตร รถบรรทุกน้ำขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าไปถึงได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีเดินเท้านำอุปกรณ์ดับไฟ ทั้งไม้ตบไฟ คราด ลาโค่ และแบกอุปกรณ์ถังฉีดน้ำโบโด เข้าไปทำการดับไฟที่กำลังลุกไหม้ ซึ่งบางช่วงบางจุดไฟยังได้ลุกลามโหมรุนแรงเปลวไฟท่วมสูงกว่า 4-5 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนความเสียหายประมาณด้วยสายตาคาดว่ามีพื้นที่เสียหายจากเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ไม่น้อยกว่า 30 ไร่ สำหรับสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากการที่ชาวบ้านทำการจุดไฟเผาพื้นที่ทำการเกษตรโดยไม่มีการป้องกันจึงทำให้เกิดการลุกลาม หรือไม่ก็อาจเกิดจากการลักลอบจุดไฟเผาโดยตรงของกลุ่มคนที่คึกคะนอง

 

อย่างไรก็ตามในช่วงระยะนี้ ทางจังหวัดลำปางได้มีมาตรการควบคุมการเผา ผู้ใดที่จะทำการเผาเศษวัชพืชหญ้าแห้งจะต้องมีการแจ้งขออนุญาตอย่างถูกต้อง และต้องมีการควบคุมไม่ให้เกิดการลุกลาม ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ได้หมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเกาะคา ร่วมลงพื้นที่สืบเสาะหาตัวผู้กระทำผิดก่อเหตุจุดไฟเผาและลุกลามครั้งนี้มาให้ได้ โดยในเช้าวันนี้ (26 ม.ค. 63) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการลงพื้นที่ทำการหาข่าวเพื่อจะสืบตามหาตัวคนที่ก่อเหตุจุดไฟเผามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่จังหวัดลำปาง ในช่วงระยะนี้จะพบว่าในหลายๆ พื้นที่ได้มีการจุดไฟเผากันมากขึ้น โดยมีรายงานข้อมูลพบจำนวนจุดความร้อน Hot Spot เพิ่มมากขึ้น และค่าคุณภาพอากาศ PM2.5 อยู่ในเกณฑ์ที่สูง ระดับสีส้ม ถึงสีแดง ซึ่งล่าสุดที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มีการเรียกประชุมด่วน เชิญหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมพูดคุยถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยเน้นกำชับให้ทุกหน่วยเร่งปรับแผนและเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติทุกๆ มาตรการ เฉพาะอย่างยิ่งให้ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ขอความร่วมมืองดการเผา พร้อมทำงานเชิงรุกลงพื้นที่ลาดตระเวนในพื้นที่ป่าจุดเสี่ยง เพื่อป้องกันและป้องปรามไม่ให้มีการลักลอบจุดไฟเผาป่า  ส่วนสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในภาพรวม พบว่าในเช้าวันนี้ (26 ม.ค. 63) ท้องฟ้าทั่วเมืองลำปางยังคงมีหมอกควันปกคลุมอยู่จำนวนมากโดยสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า สำหรับค่าคุณภาพอากาศยังอยู่ในช่วงเริ่มมีผลกระทบ ถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยสามารถวัดค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้สูงสุด ที่ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ 129 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. รองลงมาที่ตำบล พระบาท อำเภอเมืองลำปาง 107 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. และอีก 2 ตำบล ในอำเภอแม่เมาะ ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยที่ตำบลแม่เมาะ วัดค่าได้ 81 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม. และที่ตำบลสบป้าด วัดค่าได้ 78 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน