กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี ออกถลงการณ์ด่วน! กรณี ‘ไวรัสโคโรนาและฝุ่น PM2.5’ ยืนยัน รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไวรัสโคโรนา ได้ 100% แต่ไม่ประมาท ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ส่วน PM 2.5 ไม่นิ่งนอนใจ แก้ไขอยู่ตลอด
วันที่ 27 มกราคม 2563 เมื่อเวลา 17.05 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์ด่วน กรณีไวรัสโคโรนา และฝุ่น PM 2.5 สรุปว่า
กรณีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส ‘โคโรน่าสายพันธุ์ใหม่’ การคัดกรองและเฝ้าระวัง เป็นไปอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน ด้านการแพทย์และสาธารณสุข เป็นระดับ 3 ให้สอดคล้องกับความรุนแรงของสถานการณ์ พร้อมกำหนดมาตรการต่าง ๆ อย่างเหมาะสม เสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเฝ้าระวัง ค้นหา และคัดกรอง ณ ช่องทางเข้า-ออกประเทศ ทั้ง 5 สนามบิน และช่องทางอื่น ๆ ทั้งทางบก บริเวณชายแดน และทางเรือ ณ ท่าเรือต่าง ๆ ด้วย เพื่อคัดกรองผู้เดินทางมาจากทุกพื้นที่เสี่ยง อาทิ เมืองอู่ฮั่น กว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง และเมืองอื่น ๆ ที่มีการระบาด
รัฐบาลได้บูรณาการการทำงานร่วมกันของทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับมือ ป้องกัน และสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง แม่นยำ ให้แก่คนไทยและชาวต่างประเทศในบ้านเรา โดยไม่ปิดบังข้อมูล และยึดหลักการว่า ‘ชีวิตและสุขภาพของประชาชนสำคัญที่สุด’ ขอให้มั่นใจว่า การดำเนินงานของรัฐบาลอยู่ในระดับมาตรฐานสากล การคัดกรองได้ผลดี พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสนี้ 8 ราย ทั้งหมดติดเชื้อจากประเทศจีน โดย 5 รายแรกหายแล้ว แพทย์ให้กลับบ้านได้ ซึ่งถือเป็นการรักษาที่ได้ผลดี เหลือผู้ป่วยอีก 3 ราย ที่ยังคงรับการรักษาในโรงพยาบาล
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ 100% แต่ต้องไม่ประมาท ต้องช่วยกันสอดส่อง เป็นหูเป็นตา เฝ้าระวังและดูแลตัวเอง ให้ความร่วมมือกับทางการ
อย่างไรก็ตาม โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เป็นโรคที่ป้องกันได้ ขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกันกับผู้ที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ เน้นดูแลสุขอนามัยเรื่อง กินร้อน ช้อนกลางล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย
“รัฐบาลขอยืนยันในความพร้อม ของระบบการแพทย์และสาธารณสุข ที่มีมาตรการเฝ้าระวังและการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ติดอันดับ 6 จาก 195 ประเทศ จากการจัดอันดับโดยมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้น”
สำหรับการเตรียมอพยพชาวไทยในพื้นที่เสี่ยง ณ เมืองต่าง ๆ จากประเทศจีนนั้น กระทรวงกลาโหมมีความพร้อมที่จะปฏิบัติได้ทันที แต่ต้องได้รับอนุญาตจากจีน ซึ่งอยู่ระหว่างประสานงานอย่างใกล้ชิดของกระทรวงการต่างประเทศ ปัจจุบัน สามารถติดต่อได้กับทุกคน
นายกรัฐมนตรี สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ‘ข่าวปลอม’ รวมทั้งแหล่งข่าวที่หวังดี แต่อาจคลาดเคลื่อน รัฐบาลจึงกำหนดช่องทางสื่อสารหลัก เพื่อให้เกิดเอกภาพและน่าเชื่อถือได้ที่สุด จากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัย สอบถามได้โดยตรงที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเตือนว่าการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
ส่วนสถานการณ์ปัญหา ‘ฝุ่นละออง PM 2.5 ‘ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากหลายปัจจัยที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ รัฐบาลห่วงใยและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้กำหนดมาตรการและแนวทางป้องกันมาอย่างต่อเนื่อง และประกาศให้การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ ออกมาตรการและแผนปฏิบัติการขับเคลื่อน เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง หรือแหล่งกำเนิด เพิ่มประสิทธิภาพ ระบบ เครื่องมือ และกลไกการบริหารจัดการทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ รัฐบาลได้มอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ใช้ระบบบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Single Command ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเข้มงวด กำกับดูแลควบคุมแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง ทั้งจากยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และการเผาในที่โล่ง โดยให้รายงานผลการดำเนินการในการแก้ไขปัญหาทุกวัน
นอกจากนี้ ยังมีแผนการแก้ไขปัญหาระยะยาวด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบโครงข่ายขนส่งสาธารณะ ให้เชื่อมโยงกันทุกระบบ การปรับปรุงมาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ การปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง การส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ภาคเกษตร รณรงค์ให้ใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุการเกษตร ไม่ให้มีการเผา ปรับเปลี่ยนร่องการปลูกพืช ให้สามารถใช้เครื่องมือได้ โดยเฉพาะอ้อย โรงงานเอกชนต้องร่วมมือกันจัดหาเครื่องจักรที่มีราคาสูงให้ประชาชนและเกษตรกรใช้ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า รัฐบาลได้ยกระดับให้ ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (PMOC) ติดตามและประเมินสถานการณ์ รวมทั้งการสั่งการต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของไวรัสโคโรน่า และฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างเป็นเอกภาพ โดยจะกำกับดูแลเองอย่างใกล้ชิด ต้องร่วมกันแก้ไขทุกปัญหาของประเทศให้เป็นไปในทางเดียวกัน ตามหลักสากลอย่างเข้มงวดและปฏิบัติได้จริง ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุน และให้ความร่วมมือ ในการป้องกันแก้ไขทุกปัญหาของประเทศด้วยดีมาโดยตลอด
