ชาวบ้านนิมนต์พระสวดบังสุกุลซากวาฬบรูด้า ก่อนจะลากซากวาฬบรูด้าขึ้นมาชันสูตร ด้านสัตวแพทย์หลังการชันสูตรระบุกรามด้านบนหักและถูกกระแทกอย่างแรง คาดตายเพราะอุบัติเหตุ
จากกรณีชาวบ้านพบซากวาฬบรูด้าขนาดโตเต็มวัย ยาวกว่า 13 เมตร น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 15 ตัน ถูกคลื่นทะเลซัดลอยมาเกยตื้นติดอยู่ในป่าชายเลน ที่ท้ายซอยบางสำราญ 1 หมู่ 4 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เบื้องต้นคาดเป็นเพศเมีย ที่เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการตาย ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา>ชาวพุทธ+ทพ.48 ร่วมทอดผ้าป่า
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
- ตรัง สถาบันพระบรมราชชนกเตรียมผลิต 9 หมอรุ่นใหม่ นวัตกรรมสุขภาพไทยสู่ระดับโลก
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
ความคืบเมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ 27 มกราคม 2563 กลุ่มอนุรักษ์ชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนสมุทรปราการและชาวบ้าน ได้ช่วยกันนำเรือทำการลากซากวาฬบรูด้า ที่เข้าไปติดอยู่ป่าชายเลนท้ายซอยบางสำราญ 1 ลากมาขึ้นฝั่งบริเวณ ที่ทำการกลุ่มอาสาสมัครเกษตรกร ซึ่งอยู่บริเวณหลังโรงเรียนเทศบาลบางปู 2 หางจากจุดที่พบครั้งแรกประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะเดียวกันชาวบ้านได้นิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 4 รูป จากวัดตำหรุ มาทำพิธีสวดบังสุกุล เนื่องจากชาวบ้านมีความเชื่อวาฬบรูด้านั้นเป็นพ่อปู่ของท้องทะเลและเป็นสัตว์ใหญ่
ขณะเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ นักวิชาการประมง เจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ฝั่งตะวันออก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กว่า 20 คน จะลงมือชำแหละชิ้นเนื้อซากวาฬ บรูด้า เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต และเก็บดีเอ็นเอและสำรวจ รูปพรรณของวาฬตัวดังกล่าว เพื่อไปเปรียบเทียบว่าเป็นตัวที่อยู่ในฐานข้อมูลที่เคยมีการสำรวจและตั้งชื่อไว้ พร้อมทำการชำแหละชิ้นเนื้อออกจากโครงกระดูกเพื่อนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์ คลอง 5 จ.ปทุมธานี เพื่อให้เยาวชนได้ศึกษาต่อไปส่งมอบให้
ด้าน น.ส.ชลาทิพ จันทร์ชมพู ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยกรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ฝั่งตะวันออก กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการผ่าพิสูจน์ตามกระบวนการเสร็จสิ้นแล้วซึ่งเชื่อว่าน่าจะใช้เวลาทั้งวัน เบื้องต้นนั้น ทางเราได้นำชิ้นส่วนเนื้อเยื้อไปตรวจสอบดีเอ็นเอว่า วาฬบรูด้าที่ตายนั้นเป็นเครือญาติในกลุ่มประชากรที่พบหากินอยู่ในแถบทะเลอ่าวในประเทศไทยและอยู่ในฐานข้อมูลที่เคยมีการสำรวจและตั้งชื่อไว้หรือไม่ และในแต่ละปีที่ทางกรม ทช. ได้สำรวจโดยใช้ภาพถ่ายระบุตัว ในแต่ละปีเราประเมินไว้มีอยู่ประมาณ 50 ตัว แต่ก็จะเห็นว่ามีการเสียชีวิต แต่ก็มีข่าวดีก็คือมีลูกที่เกิดขึ้นอยู่ แต่โดยการประเมินแล้วตอนนี้มีอยู่ประมาณ 50 ตัว
ต่อมาในช่วงบ่ายสัตวแพทย์ นักวิชาการประมง เจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ฝั่งตะวันออก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เร่งช่วยกันชำแหละชิ้นเนื้อซากวาฬ บรูด้า เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมแยกชิ้นเนื้อของซากวาฬบรูด้าออกจากโครงกระดูกและนำมาเรียงบนผ้าใบเตรียงส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ขององค์กรพิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์ แห่งชาติ นำไปดำเนินการตามวิธีกรรมทางวิทยาศาสตร์
ขณะที่กลุ่มอนุรักษ์ชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนสมุทรปราการ และชาวบ้านได้นำรถแม็กโครมาทำการขุดหลุมเตรียมฝังชิ้นเนื้อของซากวาฬ ที่ชายฝั่งบนที่ดินของที่ทำการกลุ่มอาสาสมัครเกษตรกร ซึ่งอยู่บริเวณหลังโรงเรียนเทศบาล 2 บางปู และการชำแหละชิ้นเนื้อวาฬบรูด้า ได้แล้วเสร็จในเวลา 17.00 น. โดยทางองค์กรพิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์ แห่งชาติ ได้ทำการลำเลียงโครงกระดูกของซากวาฬขึ้นรถบรรทุกสิบล้อนำกลับไปดำเนินการตามขั้นตอนของวิทยาศาสตร์ ก่อนนำโครงกระดูกของวาฬ บรูด้าตัวดังกล่าวไปตั้งโชว์ที่พิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์ คลอง 5 จ.ปทุมธานี เพื่อให้เยาวชนได้ศึกษา
สัตวแพทย์หญิง สุนันทินี พูลสวัสดิ์ นายสัตวแพทย์ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก ได้เปิดเผยว่า จากการชันสูจน์พบว่าเป็นวาฬบรูด้าเพศเมียมีความยาว 11 เมตร น้ำหนักประมาณ 10 ตัน และจากการตรวจสอบลักษณะภายนอกไม่พบบาดแผลอะไรที่ผิดปกติ ยกเว้นตรงบริเวณกรามด้านบนส่วนปลายจะมีร่องรอยการหักชิ้นส่วนหายไป และยังพบซี่โครงหัก 1 ซี่ เป็นซี่โครงซี่ที่ 2 ด้านด้านขวาและมีรอยช้ำบริเวณคางด้านขวาซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากการกระแทก ซึ่งเกิดก่อนที่จะเสียชีวิต เพราะว่าถ้าเกิดหลังเสียชีวิตจะไม่เห็นร่องรอยการอักเสบของรอยช้ำตรงนั้น และคิดว่าตรงที่ส่งผลกระทบมากกว่าจะเป็นตรงบริเวณกรามด้านบน ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากแรงกระแทกจากของแข็งที่ไม่มีคม ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสิ่งใดมากระแทก และในส่วนที่พบผิดปกตินั้นก็มีส่วนที่ทำให้วาฬบรูด้าตัวดังกล่าวเสียชีวิตได้ จากการชันสูจน์นอกจากบริเวณตรงที่การหักตรงนั้นแล้วตรงหัวใจกับปอดมีสภาพที่เน่าแล้ว และในทางเดินอาหารพบมีอาหารเพียงเล็กน้อยในกะเพาะอาหารแล้วก็ไม่มีมูลในลำไส้อาจจะเกิดการภาวะอ่อนแอก่อนหน้านั้น หรือว่าอาจจะเกิดจากการหักของชิ้นส่วนที่หายไปตรงนั้นก่อนก็ได้ ก็ทำให้กระทบต่อการกินอาหาร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: