อุบลราชธานี – อุบลฯ สั่งปิดโรงเรียนฆ่าเชื้อโรค หลังพบ นร.ป่วยเป็นไข้หวัดกว่าร้อยคน ด้านพ่อเมืองประชุมร่วมกับ สปป.ลาว ติดตามสถานการณ์ พร้อมกำหนดมาตรการ การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019
วันที่ 28 ม.ค. ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานี รายงานว่า คณะครูได้ช่วยกันทำความสะอาดห้องเรียน โรงอาหาร และอาคารสำนักงานโรงเรียนอนุบาลบ้านเหนือเขมราฐ ตั้งอยู่บ้านท่ากกทัน ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังนายประหยัด บุญพอ ผู้อำนวยการโรงเรียน มีคำสั่งให้หยุดทำการเรียนการสอนระหว่างวันที่ 28-29 มกราคมศกนี้ เพื่อทำความสะอาดห้องเรียน ห้องพักครู ห้องน้ำ โรงอาหาร และอาคารสำนักงานของโรงเรียน หลังพบมีนักเรียนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และมีจำนวนมากขึ้น
และเมื่อวานที่ผ่านมา ทางโรงเรียนได้รับคำแนะนำจากกลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวมโรงพยาบาลเขมราฐ ซึ่งเข้าตรวจสอบสุขภาพนักเรียนของโรงเรียนอนุบาลบ้านเหนือเขมราฐ พบมีนักเรียนป่วยเป็นไข้หวัดจำนวน 130 คน และเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลประจำอำเภอจำนวน 2 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 1,004 คน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด โรงเรียนจึงขอหยุดทำการเรียนการสอนตามคำแนะนำของแพทย์ และจะเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติในวันที่ 30 มกราคม
ขณะที่ นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมคณะแพทย์ผู้ตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านชายแดนสากลไทย-ลาว ช่องเม็ก อ.สิรินธร เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคติดต่อที่ 10 สาธารณสุขจังหวัด และ ดร.เวียงสี สุภักดี รองหัวหน้าแผนกสาธารณสุขแขวงจำปาสัก พร้อมด้วยทีมงานระบาดวิทยาจากแผนกสาธารณสุขแขวงจำปาสัก และด่านควบคุมโรคด่านสากลวังเต่า เมืองโพนทอง ประเทศลาว
มีการประชุมร่วมกันติดตามสถานการณ์ พร้อมกำหนดมาตรการ การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 และร่วมกันทำความสะอาดบริเวณด่านพรมแดน ซึ่งมีการเพิ่มพื้นที่คัดกรองโรค เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางผ่านแดนในจุดดังกล่าว
แม้ขณะนี้ ยังไม่พบผู้ป่วยที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง แต่เนื่องจากที่ด่านพรมแดนสากลไทย-ลาว ช่องเม็ก มีนักท่องเที่ยว นักเดินทาง และประชาชนผ่านแดนเข้าออกวันละ 2-3 พันคน ในจำนวนนี้ เป็นคนจีนที่เป็นประชากรของประเทศต้นทางที่เกิดการระบาดของโรคนี้ ผ่านเข้าออกวันละ 8-9 คน จึงได้มีการบูรณาการระหว่างไทยและลาว เพื่อเตรียมรับมือการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวนี้ไว้ก่อน โดยจะมีการประชุมติดตามสถานการณ์ร่วมกันทุกวันด้วย
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในปี 2563 ตั้งแต่วันที่ 1-20 ม.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยแล้ว 16,348 คน เสียชีวิต 1 คน ส่วนผู้ป่วยในปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่าสูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลัง และสูงกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 3 เท่า พบผู้ป่วยสูงสุดในช่วง ม.ค.-มี.ค.นี้ และช่วงต้นฤดูหนาว กลุ่มอายุที่มีอัตราป่วยมากสุดคือ แรกเกิด-4 ปี รองลงมา 25-34 ปี และ 7-9 ปี
ดังนั้นโรคและภัยสุขภาพในสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสที่จะพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงฤดูหนาว บางพื้นที่มีสภาพอากาศที่หนาวเย็น ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทัน ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ สามารถติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง (น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ) ของผู้ป่วย ผ่านการไอหรือจามรดกัน โดยหลังจากได้รับเชื้อจะมีไข้สูง อาการคล้ายไข้หวัด แต่จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อมากและปวดศีรษะ อ่อนเพลีย และสามารถหายเองได้ใน 5-7 วัน
เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: