แชร์สนั่นโซเชี่ยลคลิปขอทานหรูขับฟอร์จูนเนอร์มาจอดก่อนลงรถเดินไปขอทานตามตลาดย่านบางใหญ่จังหวัดนนทบุรี ล่าสุดพบบ้านแล้ว
วันที่ 28 ม.ค.63 ที่วัดดอนสะแก ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หลังมีผู้โพสต์คลิปภาพลงเฟสบุ๊คเป็นชายแต่งกายขอทานใส่แว่นดำถือไม้ยาว และมีตู้เพลง ขับรถเก๋งฟอร์จูนเนอร์ มาจอดที่วัดก่อนเดินไปขอทานที่ตลาดพระปิ่น 3 โดยทำที่เป็นชายตาบอด จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกโซเชี่ยลว่าชายดังกล่าวตาบอดจริงหรือไม่หรือเป็นมิจฉาชีพ
ซึ่งบรรยากาศภายในวัดพบว่าไม่มีการจักงานใดทั้งสิ้น จากการสอบถามนายชาญยุทธ หนูพันธุ์ อายุ 34 ปี เจ้าของร้านสมาคมผู้พิการทางสายตาบางใหญ่ จ.นนทบุรี เล่าว่าตนอยู่ที่นี่มากว่า 10 ปีไม่เคยเห็นชายดังกล่าวแต่อย่างใดเพิ่งมาทราบเรื่องจากข่าว ตนในฐานะผู้พิการทางสายตาได้เปิดร้านนวดให้กับผู้พิการทางสายตามาทำงานหารายได้ร่วมกัน ไม่เคยคิดที่จะไปหลอกลวงชาวบ้านหรือมีพฤติกรรมแบบนี้ทั้งที่เราเป็นผู้พิการทางสายตาจริง
ด้านนางเอ นามสมมุติ อายุ 44 ปีแม่ค้าขายกุ้ยฉายหน้าวัดโดยส่วนตัวแล้วตนจะไม่ทำบุญกับคนประเภทนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยเห็นชายคนนี้เดินไปมาภายในวัดก่อนจะเดินออกไปเรี่ยรายขอทานที่ตลาดพระปิ่น 3 เท่าที่ตนสังเกตเห็นชายคนนี้จะเดินเหมือนคนปรกติ แต่จะใส่แว่นสีดำและมีไม้เท้าทำเป็นคนตาบอด แต่เขาจะไม่ขอทานตามร้านค้าที่ผ่านจะขอเงินกับชาวบ้านที่มาซื้อของที่ตลาดอย่างเดียว
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าตำรวจสืบสวนสภ.บางใหญ่ ตรวจสอบพบบ้านของลุงขอทานแล้วเป็นบ้านลักษณะทาวน์เฮาท์ 2 ชั้น เลขที่ 16 ซอยนนทบุรี 32 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ทราบชื่อเจ้าของบ้านคือนายสมพร กือเย็น อายุ 65 ปี ส่วนรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน ฆฒ 7207 กรุงเทพมหานคร ชื่อผู้ครอบครองรถคือนางมยุรี กือเย็น อายุ 60 ปี ล่าสุดทางตำรวจสืบสวน สภ.บางใหญ่ ได้เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าวพบว่าภายในบ้านไม่มีใครอยู่ ส่วนรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ก็ไม่อยู่ในบ้าน
สอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันบอกว่าไม่ทราบเรื่องเลยว่าแกไปขอทาน เพราะรู้ว่าอาชีพแกขายหมูที่ตลาด แกจะออกไปทำงานตั้งแต่เช้ามืด ฐานะของแกก็ไม่ได้ถึงกับยากจน เมื่อช่วงตอนสายยังเห็นนั่งอยู่ในบ้าน ยังฝากตนซื้อของเลยโดยให้เงินมา 40 บาท ปกติเรื่องส่วนตัวของเขาป้าก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวก็มีทักทายกันเป็นธรรมดาของเพื่อนบ้าน ส่วนเรื่องที่แกไปขอทานก็เพิ่งทราบจากนักข่าววันนี้และรู้สึกงงมาก เบื้องต้นสันนิษฐานว่าทางลุงและป้าอาจจะทราบข่าวของตนเองแล้ว เกิดกลัวความผิด จึงได้พากันขับรถหลบหนีออกจากบ้านไป
