กรุงเทพฯ – การบินไทยและไทยสมายล์ ออกมาตรการ 7 ข้อ ป้องกันการแพร่ระบาดของ โรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พร้อมตั้งศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤติรองรับ
วันที่ 28 มกราคม 2563 นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยและไทยสมายล์ ตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะวิกฤติ เป็นผู้รับผิดชอบในการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ รวมถึงประสานงานหน่วยงานทั้งภายในและภายนอก โดยในส่วนของหน่วยงานภายใน ประสานให้แต่ละฝ่ายดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
พร้อมกันนี้ ได้ประสานกับหน่วยงานภายนอก ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ติดตามการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อนำมาปฏิบัติ รวมทั้งสรุปรายงานผลการดำเนินการ ให้ฝ่ายบริหารรับทราบอย่างต่อเนื่อง มาตรการหลักของการบินไทย จะคำนึงถึงมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการผู้โดยสาร และการดำเนินการด้านสุขลักษณะ มีทั้่งมาตรการภาคพื้นดินและบนเครื่องบิน โดยสรุปมาตรการต่าง ๆ ดังนี้
1.มาตรการคัดกรองตรวจรับผู้โดยสารและการบริการภาคพื้น
– สังเกตอาการผู้โดยสาร ณ จุดบริการ หากพบว่ามีอาการบ่งชี้ ให้รายงานต่อแพทย์ประจำสนามบินเพื่อตรวจดูอาการ และยืนยันความปลอดภัยก่อนเดินทาง
ข่าวน่าสนใจ:
- กทม. ร่วม"ฟูกูโอกะ" เปิดงาน "Fukuoka Fair" ฉลอง 18 ปีเมืองพี่เมืองน้อง
- ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีฯ จัดกิจกรรม"วันกิมจิ"เผยแพร่การทำกิมจิ ผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 700 คน
- แฮนดี้แมนออโต้ เปิดตัว "NIBD" คุณภาพพรีเมี่ยม มิสแกรนด์สมุทรปราการร่วมสร้างสีสันแบรนด์
- "มิชลินไกด์" เผย 20 ร้านใหม่ และ156 ร้านที่ได้รับรางวัล"บิบ กูร์มองด์" 2568
2.มาตรการให้บริการบนเครื่องบิน
– พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสวมใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือในการบริการบนเที่ยวบินที่มีความเสี่ยง
– ให้บริการโดยไม่ให้ผู้โดยสารจับต้องเครื่องมืออุปกรณ์บริการอาหาร
– เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดภายในห้องน้ำระหว่างเที่ยวบิน
– จัดเตรียมหน้ากากอนามัยสำหรับผู้โดยสารที่มีอาการสวมใส่บนเครื่อง
– สังเกตอาการผู้โดยสารระหว่างเดินทาง หากมีอาการต้องสงสัยให้แยกผู้โดยสาร และแจ้งด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศก่อนเครื่องลง
3.มาตรการจัดเตรียมอากาศยาน และฆ่าเชื้อโรค
– การอบพ่นสเปรย์ Calla 1452 ฆ่าเชื้อโรคในอากาศยาน ทั้งในบริเวณห้องผู้โดยสาร และห้องนักบินในทุกเที่ยวบินที่ทำการบินกลับมาจากประเทศจีนทั้งหมด และพื้นที่ที่มีความเสี่ยง
– ระยะเวลาการพ่นยาฆ่าเชื้อบนเครื่องบิน โดยเริ่มจากลูกเรือคนสุดท้ายลงจากเครื่อง ใช้เวลาทั้งหมด 45 นาที โดยเป็นการพ่นยา 15 นาที และอีก 30 นาที เป็นการปิดเครื่องบินเพื่อทำการอบฆ่าเชื้อ
– การกรองอากาศด้วย HEPA FILTER
4.มาตรการทำความสะอาดภายในอากาศยานมามาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยพนักงาน
– ทำความสะอาด Deep Cleaning และทำความสะอาด 36 จุดสัมผัสร่วม แบ่งตามพื้นที่เป็น 5 ส่วน ได้แก่ กระเป๋าหน้าที่นั่งผู้โดยสาร (Passenger Seat Pocket) บริเวณภายในเครื่องบินทั่วไป (Aircraft Interior Cabin) ที่นั่งผู้โดยสาร (Passenger Seat) ครัว (Galley) และห้องน้ำ (Toilet)
5.มาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยพนักงาน
– เผยแพร่ความรู้ให้พนักงานเรื่องลักษณะของโรค และการป้องกันตัวเอง ไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก
– จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment : PPE) และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้พนักงาน
– หากพบพนักงานมีอาการต้องสงสัย ตามความเห็นแพทย์ ให้หยุดพักจนกว่าจะหายเป็นปกติ
6.มาตรการการรับขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์
– ตรวจสอบหีบห่อสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน
– หลีกเลี่ยงการส่งสินค้าที่มีความเสี่ยง
– จัดการคลังสินค้าให้ถูกสุขลักษณะปลอดจากการเป็นแหล่งเชื้อโรค
7.มาตรการด้านโภชนาการ
– จัดซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน GAP
– ดำเนินการผลิตภายใต้ระบบประกันคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร HACCP, GMP, HALAL
– เครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตและบริการทุกชิ้นผ่านการทำความสะอาดและพาสเจอไรซ์
– ผ้าที่ให้บริการในเที่ยวบินผ่านการซักอบรีด อย่างถูกสุขลักษณะ
ทั้งนี้ การบินไทยและไทยสมายล์ ได้ติดตามประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย อย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามสถานการณ์และมาตรการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: