ธนาคารออมสินยะลา เผยปล่อยเงินกู้ ชคพ. กว่า 2,700 ล้านบาท พร้อมชมครูยะลามีวินัยในการชำระหนี้ ถือเป็นลูกหนี้ที่มีคุณภาพ
จากกรณีมีกลุ่มวิชาชีพครู รวมตัวกันกว่า 100 คน ประกาศปฏิญญามหาสารคาม เรียกร้องให้รัฐบาล และธนาคารออมสิน พักหนี้ โครงการเงินกู้ ช.พ.ค. ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป พร้อมทั้งชักชวนลูกหนี้ ช.พ.ค. ทั่วประเทศ 450,000 คน ร่วมกันยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 ตามข่าวที่สื่อมวลชนได้เสนอไปก่อนหน้านั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- ตร.กมลารวบ ผจก.เกสเฮ้าส์สาวติดพนันออนไลน์ ฉกเครื่องเพชร-นาฬิกาหรูนายจ้างสาวลูกครึ่ง ขาย-แพ็คส่งให้แฟนหนุ่มเก็บ
- เพชรบูรณ์- 23-24 พ.ย.นี้ เตรียมจัดเทศกาลดนตรีแนวใหม่ EDM Highland Music Festival 2024 ที่เขาค้อ "รอง ปธ.หอฯ" เชื่อแบนด์นี้แจ้งเกิดแน่…
- กองถ่ายหนังอเมริกันชื่นชอบนโยบายไทย นายกฯ แพทองธาร ประกาศแคมเปญแคชรีเบต 30% หลังหารือ 7 บิ๊กผู้ผลิตภาพยนตร์…
- ตรัง จี้ซ่อมด่วนก่อนปิดท่าเรือปากเมงทรุด กระเบื้องร่วง-โป๊ะพัง-รังแตนอาละวาด หวั่นนักท่องเที่ยวอันตรายถึงชีวิต
ความคืบหน้าล่าสุดในส่วนของจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 เวลา 09.00 น. ที่ธนาคารออมสิน สาขายะลา นางวนิดา จันทร์ทิม ผู้จัดการสาขายะลา เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมในการกู้เงินตามโครงการ ช.พ.ค. ที่สาขายะลานั้น ได้ดำเนินการปล่อยกู้ไปจำนวน 1,800 ราย เฉลี่ยต่อรายประมาณ 1 ล้าน 5 แสนบาท ยอดเงินกู้ทั้งหมดก็ประมาณ 2,700 ล้านบาท ซึ่งในยอด 2,700 ล้านนี้ ปัจจุบันได้มีการชำระหนี้แล้วประมาณ 1,500 ล้านบาท ยังคงเหลืออีกประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งในสัดส่วนที่ได้ปล่อยเงินกู้ไปนั้น เมื่อมาพิจารณา NPL ของธนาคาร คงเหลือแค่ 29 ราย ยอดเงินประมาณ 24 ล้านบาท ถ้าคิดเป็นสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ก็อยู่ที่ 2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าการปฎิบัติงานบริหารหนี้กับหน่วยงานอื่น ถือเป็นหนี้ที่มีคุณภาพส่วนใหญ่
“หน่วยงานที่ช่วยดูแลร่วมกับธนาคารออมสิน ได้ประกาศมาตรการออกไป ตั้งแต่มาตรการพักต้น 3 ปี มาตรการต่อมาคือนำดอกเบี้ยไปลดดอกเบี้ยให้ ซึ่งลูกหนี้แต่ละรายมีความเข้าใจ และมาร่วมมาตรการถือว่าเยอะ จำนวน 65 ราย หนี้ที่เข้าร่วมมาตรการคือ 50 ล้านบาท ทำให้หนี้ของสาขายะลา เป็นหนี้ที่มีคุณภาพ ด้วยความเข้าใจของคุณครูทุกท่าน” นางวนิดา กล่าว
ผู้จัดการสาขายะลา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับ NPL 2 เปอร์เซ็นต์นั้น ก็มีมาตรการช่วยเหลือคือ จะมีการพิจารณารายได้ ต้องให้มีรายได้เพื่อการยังชีพ หากรายได้เหลือ 30% ก็ให้พักต้น 3 ปี และให้ชำระเพียงดอกเบี้ยปกติ แต่หากรายได้เหลือ 15% ถึง 30% ก็จะมาพิจารณาในการพักต้น 3 ปี และให้ชำระดอกเบี้ยเพียง 50% แต่ถ้ารายได้เหลือต่ำกว่า 15% ก็ให้พักต้น 3 ปี เช่นกัน และชำระดอกเบี้ย 25% ถือว่าเป็นมาตรการที่ให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด ทั้งนี้ในส่วนของสาขายะลา ยังไม่มีการดำเนินการฟ้องร้องลูกหนี้ ชพค. แต่อย่างใด เนื่องจากว่า สามารถพูดคุยกันได้ และคุณครูมีความเข้าใจในมาตรการช่วยเหลือของธนาคาร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: