เจ้าของกิจการร้านเสริมสวยคิดสั้นเศรษฐกิจทรุดลูกค้าหายค้างค่าเช่าหลักแสน ใช้ถุงใสคลุมหัวขาดอากาศหายใจปลิดชีพตัวเองดับ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ยังพบยาไอซ์ประมาณ 1 กรัม แถมน้ำเกลือฉีดเข้าเส้นเข็มปักคาแขนอยู่
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 31 ม.ค.63 ร.ต.ท.ภูวเดช รัตนจิตร รอง สว.สอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในอาคารพาณิชย์ ตั้งอยู่ด้านถนนบอนด์สตรีท ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จากนั้นจึงประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นชั้นล่างเปิดเป็นกิจการเป็นร้านเสริมสวยบนห้องนอนชั้น 4 พบร่างของนายพงศ์วรฐ วิริยะรัตน์ อายุ 33 ปีเจ้าของร้านนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนที่นอนใส่เสื้อยืดแขนสั้น ท่อนล่างสวมใส่เพียงกางเกงในเพียงตัวเดียว ที่ศรีษะมีถุงใสขนาดใหญ่คลุมไว้โดยใช้หนังยางผูกรัดไว้ที่บริเวณลำคอเพื่อไม่ให้อากาศเข้า-ออกได้ขณะเดียวกันยังพบขวดน้ำเกลือแขวนไว้กับไม้แขวนเสื้อโดยมีสายน้ำเกลือและปลายของสายน้ำเกลือมีเข็มปักอยู่ที่แขนซ้าย ข้างตัวผู้เสียชีวิตยังพบยาไอซ์บรรจุอยู่ในซองพลาสติกใสประมาณ 1 กรัม และในห้องยังพบสลิ้งฉีดยา 1 อันโดยยังมีเลือดติดค้างอยู่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จาการสอบถามนายจิณณวัฒน์ เดชาหลวง อายุ 22 ปีลูกจ้างของร้านกล่าวว่าวันนี้ไม่ได้มีการเปิดร้านให้บริการโดยมีการพูดคุยกับผู้เสียชีวิตล่าสุดช่วงเวลา 09.30 น.เช้าวันนี้หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดคุยกัน กระทั่งเวลา 16.30 น.เจ้าของอาคารได้มาหาเพื่อจะพูดคุยถึงเรื่องค่าเช่าที่ติดค้างอยู่ 4 เดือน เดือนละ 45,000 บาท แต่เมื่อขึ้นมาเคาะห้องเพื่อเรียกหาแต่กับไม่มีเสียงตอบรับจึงเปิดประตูห้องเข้าไปถึงพบว่านายพงศ์วรฐ ฯ เสียชีวิตแล้ว
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพพร้อมกับสอบปากคำลูกจ้างรวมถึงพยานแวดล้อมไว้โดยสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเครียดซึ่งประสบปัญหาเรื่องการเงินเนื่องจากพบว่าระยะหลังมีลูกค้ามาใช้บริการทางร้านน้อยจึงไม่มีเงินมาจ่ายค่าเช่าที่ติดค้างมาถึง 4 เดือนรวมเป็นเงิน 180,000 (หนึ่งแสนแปดหมื่นบาท) จึงตัดสินใจใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะเพื่อให้ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตในที่สุดในส่วนน้ำเกลือที่พบว่ามีการเจาะเข็มให้น้ำเกลือเข้าในร่างกายนั้นจะต้องให้แพทย์ตรวจสอบอีกครั้งว่ามีสารเสพติดชนิดใดผสมอยู่ด้วยหรือไม่อีกครั้ง จากนั้นจึงได้มอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิตเพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง ต่อไป
