เพชรบูรณ์-หน้ากากอนามัยขาดตลาด ร้านขายยาปรับขึ้นราคาขายสูงเท่าตัว อ้างบริษัทผู้ผลิตไม่ส่งของให้-ตัดซื้อจากแหล่งอื่นมา
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวเพชรบูรณ์ยังคงมีความตื่นตัวและเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 กระทั่งมีการขวนขวายหาซื้อหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อของไวรัสดังกล่าว แต่ปรากฏว่าหน้ากากอนามัยในขณะนี้ยังอยู่ในภาวะขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันกลายเป็นของที่หาซื้อได้ยากไปเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะตามร้านขายยาทั่วไปก็มีปรับราคาจำหน่ายสูงขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ในขณะที่ร้านสะดวกซื้อไม่มีหน้ากากอนามัยจำหน่ายเช่นเดียวกัน ซึ่งพนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ระบุว่า ช่วงนี้หน้ากากอนามัยขายดีมากมีเท่าไหร่ก็ไม่พอจำหน่าย โดยเฉพาะมีลูกค้าชาวต่างชาติมากว้านซื้อไปหมด โดยบอกว่าในประเทศเขาราคาแพงมากและยังหายากอีกด้วย
แหล่งข่าวจากร้านขายยาแห่งหนึ่ง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ระบุว่า ตอนนี้หน้ากากอนามัยโดยเฉพาะแบบธรรมดาขาดตลาด โดยทางบริษัทผู้ผลิตอ้างว่ายังไม่มีสินค้าจะจัดส่งให้ตามออเดอร์ที่สั่งไป นอกจากนี้ยังผัดผ่อนว่าจะส่งให้อีก 2-3 วันแต่ก็ผิดนัดตลอด ทางร้านจำเป็นต้องไปตัดของมาจากแหล่งอื่น ซึ่งปรากฏว่ามีการปรับราคาขายสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 10 เท่า ตอนนี้ราคาหน้ากากอนามัยธรรมดาปกติเดิมราคาทุนกล่องละ 50 บาท/50ชิ้น แต่ตอนนี้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปถึงกล่องละ 450-500 บาท/50 ชิ้น ทำให้ต้องขายราคาสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้เจลแอลกอฮอล์ก็ขาดตลาดและปรับราคาสูงขึ้นด้วย ส่วนหน้ากากPM2.5 ยังพอมีจำหน่ายแต่ก็ปรับราคาขึ้นด้วยเช่นกัน
นางจิรพัฒน์ จิตอาษา อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไปในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ตอนนี้หาซื้อหน้ากากอนามัยยากมากและยังมีการขึ้นราคาอีกด้วย ปกติจะซื้อตามร้านสะดวกซื้อแต่พนักงานแจ้งว่าของหมดขาดตลาด จึงต้องไปตระเวนหาซื้อตามร้านขายยา แต่มีการขึ้นราคาเป็นชิ้นละ 10 บาทจากเดิมแค่ชิ้นละ 5 บาท ส่วนหน้ากาก N95 แบบป้องกันฝุ่น PM2.5 เดิมชิ้นละ 20-45 บาท แต่ขยับราคาขายขึ้นเป็นชิ้นละ 69 บาท โดยทางร้านอ้างว่าต้นทุนมาแพงสั่งขอไม่ได้จึงต้องไปตัดจากที่อื่นมาขาย
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: