แท็กซี่ซิ่งแข่งกับรถกระบะส่งน้ำแข็งเกิดเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์หลาน นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยดับคาที่
เมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 4 ก.พ.63 ร.ต.ท.รัชตะ รัชนจงกิจกร รอง สว.สอบสวน สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุรถ จยย.ชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดสะพานข้ามแยกท่าอิฐ ถนนรัตนาธิเบศร์ขาเข้า ต.บางรักน้อย อ.เมืองจ.นนทบุรี หลังรับแจ้งรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุสะพานข้ามแยกท่าอิฐ ช่วงเชิงสะพานขาลงมุ่งหน้าแยกพระนั่งเกล้า พบศพนายชาญวิทย์ ปั้นเกตุ อายุ 16 ปี อาชีพช่างปูกระเบื้อง ชาว จ.สระเเก้ว สภาพศพขาหักทั้งสองขา กระโหลกศีรษะแตก ใกล้กันพบรถ จยย.ซูซูกิ สเต็ปสีฟ้า ทะเบียน กตค 618 ตราด พังเสียหายทั้งคัน นอกจากนี้ยังพบเศษชิ้นส่วนของกันชนหน้ารถแท็กซี่เขียวเหลืองทะเบียน มฎ 2332 กทม ตกหล่นอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกันในที่เกิดเหตุยังมีรถยนต์เก๋ง 1 คันที่ขับมาและเกิดชน รถ จยย.ที่ล้มอยู่จนตัวรถได้รับความเสียหายจอดรอเจ้าหน้าที่อยู่ในที่เกิดเหตุ
ข่าวน่าสนใจ:
สอบสวนนายชาญศิริ ศรีเงินยวง อายุ 31 ปี ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนขับขี่รถยนต์เก๋งฮอนด้า BRV สีขาวทะเบียน 8 กด 206 กทม ขึ้นสะพานข้ามแยกท่าอิฐ เพื่อกลับบ้านขณะกำลังลงสะพานตรงจุดเกิดเหตุมีแสงสว่างน้อย ได้ขับรถชนตัวรถ จยย.ที่ถูกชนและล้มขวางก่อนแล้ว ส่วนตัวผู้เสียชีวิตอยู่ขอบทางเลนขวาสุด จึงได้รีบจอดรถและโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ตนยืนยันไม่ได้ชนคนอย่างแน่นอน ขณะที่ทางพยานที่ขับรถตามมาก่อนเกิดเหตุครั้งแรกให้ข้อมูลว่ามีรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ขับแข่งมากับกระบะส่งน้ำแข็งก่อนที่รถแท็กซี่จะเฉี่ยวชนรถ จยย.ล้มมีผู้เสียชีวิต ต่อมาหลังเกิดเหตุนายสมเดช บุญชู อายุ 45 ปีญาติ แจ้งว่านายชาญวิทย์ ปั้นเกตุ เป็นหลานชายนายพายัพ ปั้นเกตุ อดีตสส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และอดีตแกนนำ นปช.
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครเป็นผู้ขับชนรถ จยย.ของนายชาญวิทย์ ซึ่งจะรวบรวมพยานหลักฐานส่งตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งจะต้องทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ เพื่อหารถคันก่อเหตุมาดำเนินคดี ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิตเพื่อชันสูตร ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: