เพชรบูรณ์-จัดหนัก! “วิศัลย์”จวกยับรง.น้ำตาลต้นตอเกิดมลภาวะ ซัดหิมะดำจากเผาอ้อย เมืองโบราณศรีเทพมีโอกาสวืดเป็นมรดกโลก เผยจังหวัดทุ่มงบฯ 100 กว่าล้าน ตัดถนนใหม่ไม่ให้ผ่านโรงงานฯ ผู้ว่าฯลั่นหากปีหน้าไม่มีมาตรการป้องเผาอ้อย ไม่ต้องประชุมเปิดหีบอ้อย
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวในกห่ารประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ(กรอ.)จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการ จ.เพชรบูรณ์เป็นประธานเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาถึงผลกระทบจากโรงงานน้ำตาล ซึ่งนอกจากจะเป็นต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหาทั้งมลภาวะ ฝุ่น ควัน น้ำเสีย สารเคมีตกค้าง การแย่งน้ำเกษตรกร อุบัติเหตุ หนี้สินของเกษตรกรรายย่อยแล้ว การที่โรงงานน้ำตาลตั้งใกล้อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ และยังมีหิมะดำจากการเผาอ้อยปลิวตกเข้าไปในอุทยานฯ หากตกแบบนี้จะได้เป็นมรดกโลกได้อย่างไร
นายวิศัลย์กล่าวว่า จ.เพชรบูรณ์เสียเงินไป 100 กว่าล้านบาท เพื่อหาทางเข้าอุทยานฯศรีเทพเส้นทางใหม่โดยไม่ผ่านโรงงานน้ำตาล จนเสียเงินเป็นร้อยล้านเพื่อจะตัดถนน จนต้องกล้ำกลืนฝืนทนในการที่จะหลบโรงงานฯ แต่ทำไมทางโรงงานไม่คิดว่าทำอย่างไรถึงจะไม่ให้หิมะดำตกลงไปในอุทยานฯ ในรัศมี 2-3 กิโลเมตรคุมอย่าให้มีการเผารอบๆอุทยานศรีเทพซึ่งกำลังจะเป็นมรดกโลกได้หรือไม่ ไม่งั้นมรดกโลกที่จะเป็นอานิสงส์กับประเทศชาติและเพชรบูรณ์คงไม่ผ่านแน่นอน ถ้าหิมะดำยังตกอยู่แบบนี้ สิ่งเหล่านี้โรงงานเคยคิดแก้ไขบ้างหรือไม่ ส่วนโรงงานที่บึงสามพันใจร้ายมาก มาตั้งบริเวณริมถนนใหญ่สาย 21 และฤดูหีบอ้อยก็ตรงกับฤดูท่องเที่ยวของจังหวัดทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมากมาย
ข
นายวิศัลย์ยังกล่าวอีกว่า ข้อเรียกร้องของตนสำหรับ 2 โรงน้ำตาล โดยเฉพาะที่ศรีเทพอย่าให้มีหิมะดำตกในอุทยานๆ และอ้อยที่จะมาจากโซนเหนือที่จะกันเป็นพื้นที่อนุรักษ์ไว้อย่าได้มาส่งเสริมโดยเด็ดขาด ส่วนโรงงานที่บึงสามพันลองดูซิว่าจะแก้ไขอย่างไรไม่ให้มีอุบัติเหตุ ไม่ให้มีอ้อยร่วง,รถน้ำหนักเกิน ฯลฯ ส่วนข้อสุดท้ายถ้ากิจการโรงงานน้ำตาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้และไม่มีมาตรการอะไร ขอให้กรอ.เพชรบูรณ์มีมติอย่าให้เกิดโรงน้ำตาลแห่งที่ 3 หรือ 4 ทั้งนี้กิจการน้ำตาลอยู่กับประเทศไทยมาหลายสิบปีปัญหายังเกิดซ้ำซากและยังไม่เคยแก้ได้เลย
อย่างไรก็ตามในที่ประชุมกรอ.เพชรบูรณ์มีมติเรื่องอุทยานศรีเทพ ให้มีแนวกันชนเพื่อไม่ให้มีการเผาอ้อย ทั้งนี้นายสืบศักดิ์ยังกำชับให้อำเภอศรีเทพและทางอุทยานฯรวมทั้งทางท้องถิ่นให้ออกประกาศห้ามเผาเด็ดขาด พร้อมทั้งยังให้ท้องถิ่นไปออกระเบียบเพิ่มเติมโดยให้เพิ่มโทษ โดยทำให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน จากนั้นให้มารายงานในที่ประชุมกรอ.ในคราวหน้า นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติห้ามให้มีโรงงานน้ำตาลตั้งแต่พื้นที่เขตอำเภอเมืองขึ้นไป โดยให้แจ้งไปที่คณะกรรมการผังเมือง เพื่อให้กำหนดว่าห้ามมีโรงงานน้ำตาลเพราะมีแหล่งท่องเที่ยว ส่วนโรงงานน้ำตาลที่อำเภอบึงสามพันให้หามาตรการป้องกันอุบัติเหตุจากท้องถนน
นอกจากนี้ยังมีมติด้วยว่า หากปีหน้าทางโรงงานยังไม่มีมาตรการป้องการเผา และไปส่งเสริมโดยรถตัดมีไม่เพียงพอ ฯลฯ คณะกรรมการระดับเขตซึ่งผู้ว่าเป็นประธานฯจะไม่เปิดประชุมกำหนดให้เปิดหีบอ้อย โดยนายสืบศักดิ์กล่าวย้ำว่า “ปีนี้เกิดปัญหาขึ้นแม้จะเป็นนโยบายอ้อยตัดร้อยละ 50 อ้อยเผาร้อยละ 50 แต่มีบางโรงงานอ้อยตัดร้อยละ 30 อ้อยเผาร้อยละ 70 ก็แสดงว่าไม่ได้ทำตามนโยบายของรัฐบาล ฉะนั้นหากไม่มีมาตรการอะไรก็ไม่ต้องประชุม
จากนั้นผู้ว่าราชการ จ.เพชรบูรณ์ยังแจ้งให้ทางสำนักงานจังหวัดฯ แจ้งมติที่ประชุมไปยังโรงงานน้ำตาลทั้ง 2 แห่ง รวมทั้งโรงงานน้ำตาลที่จะเปิดใหม่ให้รับทราบด้วย นอกจากนี้ยังให้รายงานไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมถึงมติ กรอ.เพชรบูรณ์ โดยนายสืบศักดิ์กล่าวย้ำว่า “หากกระทรวงฯจะมาเปิดก็ให้มารับผิดชอบเอง เพราะถ้าไม่ฟังคนในจังหวัดก็ช่วยอะไรไม่ได้”
